วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2563

คนยอมคน (มากล้นอานุภาพ):: คนยอมคน ไม่ถือตน เป็นความอดทนสูงสุด ปล่อยวางตนได้ ยอดมนุษย์ สุดที่อุเบกขา มีอานุภาพ กำหราบ หมู่มารา ชาวโลกา เทอดไท้ บูชาท่าน

คนยอมคน
(มากล้นอานุภาพ)
คนยอมคน ไม่ถือตน เป็นความอดทนสูงสุด
ปล่อยวางตนได้ ยอดมนุษย์ สุดที่อุเบกขา
มีอานุภาพ กำหราบ หมู่มารา
ชาวโลกา เทอดไท้ บูชาท่าน
คนยอมคน ชนะตน ชนะโลกสาม
ขจัดอุปกิเลส ที่ทำให้ใจหมองคล้ำ สว่างล้ำดวงปัญญา
ชนะตน คนชนะโลกนี้ และโลกหน้า
สุขสมอุรา สมปราถนา ทุกประการ
คนยอมคน ยอมไม่ปริปากบ่น ทนเขาว่า
ไม่ใช่หน้า..ที่ของเรา หน้าที่ของเขา ให้เขาว่าไป
หน้าที่ของเราคิดดี พูดดี ทำดี ให้ได้
นี้คือคำของยายฯ มหาปูชนียาจารย์
ยอมคนได้ มีใจอุเบกขา
ไม่ดูดายหนีหน้า จะพาเขาพ้นทุกข์
จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ จึงยอมให้เขาดูถูก
เหมือนพ่อแม่รักลูก ยอมอภัยให้ลูกได้ทุกอย่าง
ผู้มีอุเบกขา ไม่ธรรมดา คือผู้ปราบมาร
ปณิธาน..สุดขีด ตามติด..หลวงปู่ฯ สู่สุดธรรม
เกิดมาสร้างบารมี เพื่อที่ปราบไอ้ดำ
สรรพสัตว์ทุกข์เหลือล้ำ เพราะไอ้ดำมารร้าย
เรื่องส่วนตนให้วางอุเบกขา
เรื่องของศาสนา ให้เอาอุเบกขาวาง
เป็นคำครูไม่ใหญ่ น่าสนใจ ใครๆต้องฟัง
อุเบกขา มีความหมายดังคำว่า ไม่ดูดาย
เมื่อเห็นความอยุติธรรม หรือความไม่ถูกต้อง
 เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ดูดาย
เกิดเป็นบารมี อานุภาพหลาย
พญามารแพ้พ่าย ด้วยอุเบกขาบารมี
 เมตตาบารมี ดูดีดี คือพระคุณ หรือนักโปรด
ยอมอดโทษ โอนอ่อนผ่อนตาม
อุเบกขาบารมี คือพระเดช หรือนักปราบ น่าเกรงขาม
มีอานุภาพเลิศล้ำ ความยุติธรรมมาก่อน
เพียงมีเมตตา ยังไม่อาจจะทำอะไรได้
หมู่มารอาจหาญหลาย เอาตายแน่
จึงต้องมีอุเบกขา มาช่วยแก้
หมู่มารพ่ายแพ้ พระโพธิญาณ
อุเบกขาก็คือเมตตา ในเวลาใจหยุดนิ่ง ณ ศูนย์กลางกาย
ใจดิ่งเข้าไป ทิ้งไว้ตัวตน คนเก่า
หลุดเข้าสู่ภายใน สวมซ้อนพระรัตนตรัย ตัวตนแท้ของเรา
หมู่มารวิ่งหนีอ้าว ความยุติธรรมก่อนเก่า กลับคืนมา

 ;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น