วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ประชาธิปไตยแท้ (มีแต่อยู่ในตน) เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ คือเนื้อหา ประชาธิปไตย ชูสามนิ้ว นั้นเขาใช้ เป็นสัญญาลักษณ์ มหาประชาชน ดิ้นรน ต้องการนัก แต่ก็ยาก ที่จักได้ ด้วยประชาธิปไตย ราคาแพง

ประชาธิปไตยแท้
(มีแต่อยู่ในตน)

เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ คือเนื้อหา ประชาธิปไตย
ชูสามนิ้วนั้นใช่ เขาใช้ เป็นสัญญาลักษณ์
มหาประชาชน ดิ้นรน ต้องการนัก
แต่ก็ยาก ที่จักได้ ด้วยประชาธิปไตย ราคาแพง
คนทั้งหลาย หาประชาธิปไตย จากภายนอก
ก็ขอบอก ประชาธิปไตยภายนอกนั้น มันไม่มี
เหมือนหาหนวดเต่า ตายเปล่าๆปลี้ๆ
ประชาธิปไตยนี้ มีแต่อยู่ในตน
ประชาธิปไตย คู่ไปกับผู้รู้ ผู้มีปัญญา
คนกิเลสหนาปัญญาหยาบ คู่กับอนาธิปไตย
ประชาธิปไตยแท้ ได้แก่ ธรรมาธิปไตย
มีธรรมเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยมาเอง
มีเสรีภาพ หรือมีอิสสระภาพ คือได้รับสิทธิมนุษยชน
มีสวัสดิภาพเปี่ยมล้น ไม่นอนสะดุ้งพลพาล
มีกินมีใช้ ใจอบอุ่น เบิกบาน
อยากได้อย่างนั้น ท่านจะต้องรักษาศีลห้า
 ศีลห้า คือมนุษยธรรม ธรรมที่ทำให้เป็นมนุษย์
เป็นคนบริสุทธิ์ เหนือมนุษย์ทั่วๆไป
คนอย่างนี้ จึงจะมีประชาธิปไตย
นึกถึงส่วนรวมเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยแท้
เสรีภาพของตน ตั้งอยู่บนศีลห้า
เป็นเกราะวิเศษยากหา ชีวาปลอดภัย
ยังสามารถคุ้มครองหมู่ญาติ เหมือนพาลงเรือใหญ่
เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ กินได้เลยทีเดียว 
ผู้ใดศีลขาด เป็นชาติอมนุษย์ ตัวปัญหา
ทำชาวพารา หวาดผวา ไร้เสรีภาพ
เป็นทรราชเผด็จการ พญามารกำกับ
แต่ไม่อาจควบคุมบังคับ ทำกับผู้มีศีล
ศีลห้า เปรียบดังว่า เป็นพื้นดินอุดม
เป็นที่สุขบรม ของสรรพสัตว์และพืชพันธ์ุ
หรือเปรียบเป็นที่ตั้ง เป็นฐานที่มั่น
สุดสำคัญ เปรียบปานชัยภูมิ
ความเสมอภาค คือมีความรัก ยุติธรรม
มหาชนคอยค้ำ อุเบกขาธรรม นำมาใช้
คือปล่อยวางเรื่องส่วนตน ไม่ทนดูดาย
แม้ชีพวายขอ ต่อต้านอคติ  ที่มิเป็นธรรม
ความยุติธรรมไม่มี ในหมู่ชนที่เป็นพาล
วัดกับบ้านต้องประสาน งานอบรมศีลธรรม
ให้รู้จักเป้าหมายชีวิต เกิดมาไม่เพียงคิดต่ำๆ
ให้รู้จักปฏิบัติธรรม แสวงบุญ และสร้างบารมี
 ภราดรภาพ รักใคร่กัน ฉันพี่น้อง
สามัคคีปรองดอง ที่ขุ่นข้อง ไม่มี
รู้จักให้อภัย แผ่เมตตาไป ทุกที่
จึงไม่อาจหนี ทุ่มชีวี ประพฤติธรรม
  ลักษณะ ทั้งสาม เป็นไปตามหลักพุทธ
เลิศล้ำสุดชาวประชา ยังได้บารมีเป็นที่พึ่ง
 มีอานุภาพปราบมาร ภัยพาลตลึง
 อจินไตย คิดไม่ถึง ซาบซึ้งประชาธิปไตย

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2564

สุขสำเร็จอยู่ที่ใจ (ที่นิ่งใส ในกายตน) สุขทุกข์อยู่ที่ใจ ไม่ขึ้นกับอะไร ภายนอก สิ่งที่ได้มาหรือเสียไป ขอบอก ล้วนออกจากใจ เป็นวาสนาบารมี หรือกรรมวิบาก ก็ได้ รีบแสวงบุญเร็วไว ชิงแก้ไขกรรมวิบาก

สุขสำเร็จอยู่ที่ใจ
(ที่นิ่งใส ในกายตน) 


สุขทุกข์อยู่ที่ใจ ไม่ขึ้นกับอะไร ภายนอก
สิ่งที่ได้มาหรือเสียไป ขอบอก ล้วนออกจากใจ 
 เป็นวาสนาบารมี หรือกรรมวิบาก ก็ได้
รีบแสวงบุญเร็วไว ชิงแก้ไขกรรมวิบาก

โลกคือโรงละครใหญ่ ทุกคนใช่ นักแสดง
บุญทำกรรมแต่ง กำกับ บังคับให้เป็นไป
มีความสุขความทุกข์ สนุกหรือร้องไห้
คนทั้งหลาย ละม้าย คล้ายหุ่นยนต์


ดังนั้น การแสวงบุญสร้างบารมี เป็นชีวิต
กฏแห่งกรรมลิขิต..ชีวิต ให้เป็นไป
ผู้ไม่ประมาท มีโอกาศ ไปสู่สุคติ หลังตาย
คนส่วนใหญ่ ประมาทหลาย ไปทุคติ

ไม่เชื่อตอนเป็น จะไปเห็นตอนตาย
ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เมื่อเกิดใหม่ ก็ลืมหมด
จึงเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ ไม่ละลด
น่าเวทนา น่าสลด ไม่มีวันจบสิ้น

หลวงปู่ฯท่านรู้ท่านเห็น จึงขอเป็นผู้ปราบมาร
ตั้งเป็นขบวนการ ปราบมารโดยเฉพาะ
จะไปให้ถึงสุดธรรม ปราบไอ้ดำผู้ก่อ
นักสร้างบารมีก็ไม่ย่อท้อ ขอติดตามท่าน

ใจเป็นธาตุสำเร็จ ทุกอย่างเสร็จที่ใจ
คิดดีได้ดี คิดร้ายได้ร้าย สมใจนึก
คิดร้ายนั้นง่าย ด้วยใจขุ่นอยู่แล้ว ไม่ต้องฝึก
แต่คิดดีต้องตรึกแล้วตรึก ตรองแล้วตรอง ประคองใจ

วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา ท่านเรียกว่า องค์ฌาณ
เป็นการฝึกใจ ให้อยู่ให้หยุดให้ใส กระทั่งได้ดวงสว่าง
ได้ดวงแล้วอย่าปัดทิ้ง เสียดายจัง
ดวงธรรมนี้เปรียบดัง..ประตู สู่พระนิพพาน

ฝึกสติเจริญภาวนา ฝึกใจ ให้อยู่ในกาย
นิ่งแน่นไม่ไปไหน สว่างไสวอยู่อย่างนั้น
ชีวิตสุขสมปราถนา ทุกสิ่งอัน
ชีวิตเหมือนฝัน สุขสันติ์ตลอดกาล

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2564

จงแกร่งสู้ปัญหา (เป็นเหล็กกล้า ท้าสู้ไฟ) ขยะ นำเอามา เป็นปุ๋ยได้ ฉันใด อุปสรรคนาๆ ก็นำมาเป็นกำลังใจ ได้ฉันนั้น ขอเพียง ให้มีขันติ อดทนอดกลั้น มุ่งน่าฝ่าฟัน ไม่สู้ไม่หนี ทำดี เรื่อยไป

จงแกร่งสู้ปัญหา
(เป็นเหล็กกล้า ท้าสู้ไฟ)


ขยะ นำเอามา เป็นปุ๋ยได้ ฉันใด
อุปสรรคนาๆ ก็นำมาเป็นกำลังใจ ได้ฉันนั้น
 ขอเพียง ให้มีขันติ อดทนอดกลั้น
มุ่งหน้าฝ่าฟัน ไม่สู้ไม่หนี ทำดี เรื่อยไป
พระพุทธองค์ ทรงตรัส ไว้ชัดว่า 

ถ้าไม่นับปัญญา  ขันตินั้นหนา ยอดเยี่ยม
เป็นไฟ เผาไหม้กิเลส ใดไม่เทียม
ยอดเยี่ยม..ยิ่งนัก เพียงรู้จัก ควบคุมอารมณ์
ไม่ใช่ขันติ เป็นคนขี้แย ถ้าเอาแต่หนี
ถ้าไม่สู้และไม่หนี ก็ยังไม่ใช่ขันติ เป็นคนขี้แพ้ 
ตกเป็นทาส ใต้ฝ่าบาท นี้ก็แย่
ขันติแท้ ชนะแน่ ได้แก่ ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
คนไร้ปัญญา ว่าขันติแท้นั้น มันอ่อนแอ
ตาต่อตาฟันต่อฟัน นั่นแหละแน่ คนพาลว่า
  ส่วนทางพระ สละชีวิต ปกป้องภัย คือผู้มีปัญญา
มีอุตสาหะ ที่ยิ่งใหญ่ ได้ปรมัตถบารมี
 สรรพสัตว์ ล้วนหมู่ญาติ ผูกพันเกี่ยวข้อง
เคยเป็นพี่น้อง เกี่ยวข้อง สายสัมพันธ์
การทำร้ายทำลาย เป็นภัยมหันต์
 ไม่พ้นโศกศัลย์ เข้าสู่คุกประหาร ตามกฎแห่งกรรม 
ปรมัตถบารมี ปาฏิหาริย์ อจินไตย
หมู่มารแพ้พ่าย ปัญหาทั้งหลาย สยบ
 บุญสิทธิธาตุ ให้สุขสมมาด ยากพบ
ปรมัตถบารมี งามจบ สามภพคารวะ
พระโพธิสัตว์ สละสมบัติ หาที่ข้องขัด ฝึกขันติ
หมู่บ้านไหนร้าย รุมต่อยตี ดีนัก
จะไม่หนี อยู่ที่นั่น ฝึกขันติ ให้ประจัก
คนดีมีใจภักดิ์ เคารพรักบูชาท่าน
 มีปัญหา ให้นึกถึงว่า ได้โอกาส
ตามรอยบาท พระโพธิสัตว์ ฝึกขันติ
อย่าเป็นไม้ ไฟไหม้ เป็นธุลี
  จงเป็นเหล็กดี แกร่งกล้า ท้าสู้ไฟ

;;;;;;;;;;

NIRVANA IS NOWHERE (IS IN OUR BODY ONLY) Did you know that Nirvana is in our body? Not out of this world, its in our body. When the mind stops, it slips into the center of our body. Go in and see Nirvana by yourself.

 NIRVANA IS NOWHERE
(IS  IN OUR BODY ONLY)


Did you know that Nirvana is in our body?
Not out of this world, its in our body.
When the mind stops, it slips into the center of our body.
Go in and see Nirvana by yourself.

Nirvana is not in the mind, it seems, but it is not.
Even the minds of people are outside,
roaming outside since birth.
Even in dreams, the mind is still outside.

In general, the mind resides within the body,
Loung Por said that,
only the time of birth, death,
sleep and waking is automatic.
It's the nature of life.

At other times, the mind will flow out of the body,
intoxicate, passionate outside.
Not dying is like dying, bad guy.
Dying from the merit is great, dying alive.

Through the center of the body,
body in body, feeling in feeling, mind in mind..
Finally, not expected to see Dhammakaya.
It is the inner Triple Gem, not dull and bright.
Nirvana is attained by this body.

Achieve Nirvana, the source of happiness.
Freed from life circle and suffering, eternity forever.
Attaining Nirvana is therefore an ideology.
And therefore must make a pilgrimage
to create prestige/Pala Mi.

The human body is the most important in the three world.
Accept retribution and create new deed.
Do good , get merit, do evil get sin.
After death, only accept retribution.

The problem of human beings
is that the mind does not stop running wildly
outside of the body.
Busy with things outside including making a living.
Buddhism , called carelessness,
completely unconscious.
Life flows according to the current of retribution.

Nirvana is not emptiness or an intangible self.
But Nirvana is a self, an existing.
It is a pure land , no desire, no suffering.
Be the real person of everyone is Phra Dhammakaya.

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564

พระนิพพานไม่อยู่ที่ไหน (อยู่ในกายเราเอง) รู้หรือไม่ พระนิพพานนั้นไซร้ อยู่ในกายเรา ไม่ใช่อยู่นอกโลกนะเจ้า อยู่ในกายเรานี้เอง เมื่อใจหยุด หลุดเข้าศูนย์กลางกาย คนเก่ง เข้าไปรู้ไปเห็นเอง พระนิพพาน

พระนิพพานไม่อยู่ที่ไหน
(อยู่ในกายเราเอง)

รู้หรือไม่ พระนิพพานนั้นไซร้ อยู่ในกายเรา
ไม่ใช่อยู่นอกโลกนะเจ้า อยู่ในกายเรานี้เอง
เมื่อใจหยุด หลุดเข้าศูนย์กลางกาย คนเก่ง
เข้าไปรู้ไปเห็นเอง พระนิพพาน

พระนิพพาน ไม่อยู่ที่ใจ ดูเหมือนใช่ แต่ไม่ใช่
แม้แต่ใจเอง ของคนทั้งหลาย ก็อยู่ภายนอก
วิ่งตะลอนๆ อยู่ภายนอก ตั้งแต่อ้อน แต่ออก
แม้แต่ฝันยังออก อยู่ภายนอกเลย

คนทั่วๆไป ใจจะอยู่ในกายนั้น หลวงพ่อฯท่าน ว่าไว้ว่า
เพียงเวลา เกิด ดับ หลับ และตื่น เป็นอัตตโนมัติ
ณ ศูนย์กลางกาย ฐานที่เจ็ด เด็ดขาด
มันเป็นธรรมชาติ ของชีวิต


ในเวลาอื่น ใจจะไหลลื่นออกไปจากกาย
มัวเมาหลงไหล อยู่ภายนอก
 ไม่ตายก็เหมือนตาย คนวอก
ตายจากบุญนั่นดอก ยิ่งใหญ่ ตายทั้งเป็น

ผ่านศูนย์กลางกาย กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต..
สุดท้าย ไม่คาดคิด เห็นพระธรรมกาย
เป็นพระรัตนตรัยในตัว ไม่มัวซัว สว่างไสว
พระนิพพานแจ้งได้ ด้วยกายนี้ นั่นเอง

ทำพระนิพพานให้แจ้ง แหล่งบรมสุข
พ้นวัฏฏะ พ้นทุกข์ เป็นอมตะนิรันดร์กาล
การทำพระนิพพานให้แจ้ง จึงเป็นอุดมการณ์
และดังนั้น จึงต้องแสวงบุญ สร้างบารมี

กายมนุษย์จึงสำคัญสุด ในโลกสาม
เสวยวิบากกรรม และสร้างกรรมใหม่
ทำดีได้บุญ ทำชั่วได้บาปจังไร
หลังตาย เสวยวิบากกรรมได้..อย่างเดียว

ปัญหาของมนุษย์ คือใจไม่หยุด วิ่งอุตลุดอยู่นอกตัว
เมาสิ่งนอกตัว รวมทั้งมัว..ทำมาหากิน
ทางพระเรียกประมาท ขาดสติสิ้น
มีชีวิน ไหลตามกระแสกรรมวิบาก

พระนิพพานไม่ใช่สุญญตา หรืออนัตตา ที่ว่าจับต้องไม่ได้
แต่พระนิพพานเป็นอัตตา นั้นใช่  เป็นตัวตน
เป็นแดนบริสุทธิ์ หมดกิเลส หมดทุกข์ทน
เป็นตัวตนแท้ของทุกคน คือพระธรรมกาย

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ให้หลีกหนีคนพาล (คือสันดาลไม่ดีของเราเอง) คนกตัญญูแท้ ยากหา ไม่ธรรมดา อจินไตย คนอัศจรรย์ อันที่ใคร คิดไม่ถึง คนเหนือคน ผุดขึ้นมา คนตลึง ดังดอกบัวบาน ทะยานขึ้น จากโคลนตม

ให้หลีกหนีคนพาล
(คือสันดานไม่ดีของเราเอง)

คนกตัญญูแท้ ยากหา ไม่ธรรมดา อจินไตย
คนอัศจรรย์ อันที่ใคร คิดไม่ถึง
คนเหนือคน ผุดขึ้นมา คนตลึง
 ดังดอกบัวบาน ทะยานขึ้น จากโคลนตม
กตัญญู อัตตสุทธิ บริสุทธิ และสังคหะ
เป็นคุณธรรมของผู้มีปัญญา หรือว่าบัณฑิต
การตอบแทนคุณ มีอัตตสุทธิหนุน จึงสำเร็จกิจ
และออกฤทธิ์ เป็น บริสุทธิ และสังคหะ

อัตตสุทธิ คือฝึกตน ฝึกฝนใจ
กล่าวถึงที่สุด ฝึกให้ได้ ทำใจหยุดใจนิ่ง
อยู่อย่างสมถะ ประหยัดสุด ประโยชน์สูง จริงๆ
ฝึกใจสงบนิ่ง ขจัดตัณหา ทยานอยาก
อัตตสุทธิได้ผล ทำตน ให้ผู้คนเคารพบูชา
มีศรัทธา ปฏิบัติตามปฏิปทาของเรา
ทานศีลภาวนา ทางสว่าง ทางพระอริยเจ้า
แสวงบุญสร้างบารมี ทุกค่ำเช้า ปฏิบัติธรรม
บริสุทธิได้ผล พาหมู่ชน เข้าวัดฟังธรรม
ทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญสร้างบารมี 
 ผู้กตัญญู รู้จักสังคหะ สงเคราะห์ประชาชี
พาอยู่ดีกินดี มีสุข
ชีวิตที่ดี มีบัณฑิตดังกล่าว ที่เราคบหา
ให้ห่างไกลพาลา ผู้นำมา ความทุกร้อน
ใครบัณฑิต ใครคนพาล ดูให้ดีก่อน
คนพาลที่น่ากลัวที่สุด ที่นำทุกข์ร้อน ซ่อนอยู่ในตน

;;;;;;;;;;