วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2566

ตัณหาพาอยาก (จมปลักความทุกข์) ความอยาก เสือกไส นรชน ดิ้นรน ลงต่ำ เหมือนน้ำไหล น้ำไม่อาจขัง หาที่ไป ลงทะเลใหญ่ ตัณหาอุปาทาน

 ตัณหาพาอยาก
(จมปลักความทุกข์)



ความอยาก เสือกไส นรชน
ดิ้นรน ลงต่ำ เหมือนน้ำไหล
น้ำไม่อาจขัง หาที่ไป
ลงทะเลใหญ่ ตัณหาอุปาทาน

ไฟเสมอด้วยราคะ ไม่มี
ไฟราคี ดับไม่ได้..ด้วยน้ำ
เผาชีวิต ไม่คิดหนี เวรกรรม
ช้ำแล้วช้ำ ดำดิ่งตามกันไป

ความโลภ เป็นภัย
เหมือนสนิม ทำลาย เหล็ก
เหล็กแข็งยิ่งนัก จักเหลือเพียงเศษ
ความดีไม่มี มีแต่ทุเรศ เมื่อโลภ

ความละโมบ เป็นบาปแท้
หมู่คนพาลแหนแห่ มาหา
พากันทำชั่ว ไม่ลืมหู ไม่ลืมตา
กว่าสติจะมา ก็ถึงเวลาตาย

ข่ายเสมอด้วยโมหะ หามีไม่
มิจฉาทิฏฐิสุดร้าย สุดอันตรายอเวจี
เถรเทวทัต บังอาจ ตามราวี..
..พระชินสีห์ จึงมีกรรมหนัก

ผู้บริโภคกาม เหมือนล้ำ ยาเสพติด
เป็นโรค
จิต คิดเลิกไม่ได้
นับวัน ยิ่งต้องการใหญ่
อารมณ์ก็ยิ่งร้าย อันตรายต่อส่วนรวม

ผู้บริโภคกาม พร่อง อิ่มไม่เป็น
ยากเหลือเข็น จะอิ่มเอิบเบิกบาน
ขี้โกรธ ตาขุ่นขวาง ทั้งนั้น
จะออกจากมัน ให้ยึดมั่น ศรัทธา

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2566

ผู้มีปัญญา (ภาวนาเป็นชีวิต) จงเป็นผู้ยินดี ใน ไม่ประมาท ดังเช่นราช..สีห์ รักษาหาง หลับและตื่น ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง คนดี มีสติตั้ง..มั่น อยู่ในตน

 ผู้มีปัญญา
(ภาวนาเป็นชีวิต)



 จงเป็นผู้ยินดี ใน ไม่ประมาท
ดังเช่นราช..สีห์ รักษาหาง
หลับและตื่น ให้อยู่เป็นที่เป็นทาง
คนดี มีสติตั้ง..มั่น อยู่ในตน

ภิกษุเห็นภัย ใน ประมาท
ไม่ขาด เผาสังโยชน์น้อยใหญ่
เหมือนไฟไหม้เชื้อ ไม่เหลือไว้
ทั้งน้อยทั้งใหญ่ ไหม้หมดสิ้น

ภิกษุเห็นภัย ใน ประมาท
แน่ชัด อยู่ใกล้พระนิพพาน
มีกำลังใจ ตั้งมั่น ปณิธาน
เป็นไงเป็นกัน เข้าให้ถึง 

ภิกษุผู้มีธรรม มิประมาท อยู่ 
เป็นผู้รู้ ละความถือมั่น แล้วเที่ยวไป
 ละชาติชรา และทุกข์ทั้งหลายได้
บารมีของไท้ ทำให้โลกอยู่เย็น

ผู้มีปัญญา สร้างเกาะ หนีน้ำ
 ขยันล้ำ 
ข่มใจ ไม่ประมาท
กิเลสตัณหา ท่วมโลกา น่าอนาถ
เหล่าผู้ประมาท ไม่รู้สา ปลาหลงเหยื่อ

ผู้ประมาท หลงรสชาติ กาม
เหมือนหนอนล้ำ สนุกสนาน
มีอาหารมากมาย รับประทาน
เฮฮาสนุกสนาน รื่นเริง

ผู้มีปัญญา ไม่หลงกามา กิเลส
ไม่หลงอาเพท ตื่นอยู่ ผู้อื่นหลับ
เป็นม้าดี หนีไปไกล ลิบลับ
การเจริญสติ นี้คู่กับ ผู้มีปัญญา

;;;;;;;;;; 

วันพุธที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2566

กฎแห่งกรรมนำชีวิต (ไม่ใช่ลิขิตพระเจ้า) การไม่ดี คนทำง่าย ทำสะบายๆ ตามใจกิเลส สนุกสนาน เป็นอาเพท ก่อเหตุ เป็นเพทภัย ให้ชีวิต

 กฎแห่งกรรมนำชีวิต
(ไม่ใช่ลิขิตพระเจ้า)


การไม่ดี คนทำง่าย
 ทำสะบายๆ ตามใจกิเลส
 สนุกสนาน เป็นอาเพท
ก่อเหตุ เป็นเพทภัย ให้ชีวิต

การดี ทำได้ยาก
ขันติมาก สู้กับตัณหาอุปาทาน
กิเลสกรรมวิบาก แรงนัก ของมาร
ปลักโคลนดูด เหมือนกัน ยากออก

คนชั่ว ได้สนุก สุขไม่รู้จัก
สุดแสนยาก จักแนะนำ
มิจฉาทิฏฐิ ถือตัวล้ำ
ไหลตามกัน เหมือนน้ำ ลงทะเล

ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
กฎแห่งกรรม ไม่มีมั่ว เที่ยงแท้
ทำดีได้บุญ ทำชั่วได้บาป แน่
ทำดีสุขแท้ ทำชั่วทุกข์แท้ แน่นอน

สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
คิดพูดทำ มีผลติดตามชีวิต
บุญบาป ไม่ใช่พระเจ้าลิขิต
ชีวิต บุญบาปลิขิตให้

รู้ว่าการใด เป็นประโยชน์แก่ตน
จงอดทน รีบทำการนั้น
ทานศีลภาวนา สุดสำคัญ
อย่าหลงมัน มารโลกีย์

 พีงทำการนั้น อย่างขันติ
ทำเต็มที่ ด้วยจาคะ
ทั้งสุข ทั้งสนุก ด้วยบุญญา
ชีวิตคุ้มค่า เกิดมาเป็นมนุษย์

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2566

สรรพสัตว์มีใจ (นำไปสู่สุขหรือทุกข์) สรรพสัตว์ ต่างจิตต่างใจ มีประสพการณ์น้อยใหญ่ ต่างกัน เวียนว่าย วัฏฏสงสาร อนันตกาล ไปตามกระแสบุญบาป

สรรพสัตว์มีใจ
(นำไปสู่สุขหรือทุกข์) 

สรรพสัตว์ ต่างจิตต่างใจ
 มีประสพการณ์น้อยใหญ่ ต่างกัน
 เวียนว่าย วัฏฏสงสาร
อนันตกาล ไปตามกระแสบุญบาป

มนุษย์ คิดเห็น ต่างกัน
แต่ก็สัมพันธ์ อยู่ร่วมกันได้
มีมนุษยธรรม มีให้อภัย
เมตตารักใคร่ นี่หละใช่ มนุษย์

แผ่นดิน ยังไม่เรียบ
คนหรือจะเรียบร้อย
 กิเลสตัณหา พาใจลอย
มีน้อยแสนน้อย คอยรักษาใจ

 เหตุอย่างเดียวกัน มีผลต่างกันได้
มีปัจจัย มากมาย มาเกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะบุญบาป ในใจจ้อง
เพียงคิด ก็สนอง เกี่ยวข้องทันที

สิ่งใดใด มีทั้งร้าย ทั้งดี
แต่ละคนมี ความชอบต่างกัน
ชอบของเหม็น หมู่หนอนแมลงวัน
ส่วนแมลงภู่นั้น ชอบของหอม

เมื่อเกิดเหตุร้าย ให้ทำใจกล้า
 เมื่อมีข่าวฮือฮา ให้หนักแน่น
เมื่อมากมี อย่าหวงแหน
บัณฑิต เป็นตัวแทน แก้ไขปัญหา

เป็นชาวบ้าน เกียจคร้าน ไม่ดี
บรรพชิต ไม่อาจหนี ความสำรวม
ผู้ครองแผ่นดิน ตัดสิน อย่าด่วน
บัณฑิต ไม่ควร ขี้โกรธ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566

บัณฑิตผู้รักษาตน (คนแสวงบุญสร้างบารมี) คนทำบาป ใจเศร้าหมอง สติพร่อง คนพาล สันดานหยาบ เมื่อบาปยังไม่ส่งผล คนพาลไม่ทราบ เมื่อใกล้ดับ จึงซับซาบ สุดเสียใจ

 บัณฑิตผู้รักษาตน
(คนแสวงบุญสร้างบารมี)



คนทำบาป ใจเศร้าหมอง
สติพร่อง คนพาล สันดานหยาบ
เมื่อบาปยังไม่ส่งผล คนพาลไม่ทราบ
เมื่อใกล้ดับ จึงซับซาบ สุดเสียใจ

คนไม่ทำบาป ย่อมแจ่มใส
สว่างไสว ไม่มีหมอง
เหมือนพระจันทร์วันเพ็ญ เรืองรอง
มหาชนแซ่ซร้อง สรรเสริญ

ผู้เห็นแก่ประโยชน์ตน ไม่สะอาด
ไม่สามารถ ละความตระหนี่
ตัณหาอุปาทาน ยังมากมี
ความเมตตาปราณี ไม่มา

บัณฑิตมีปัญญา ไม่ละการฝึกตน
หมั่นฝึกฝน ฝึกตน ฝึกสติ
เป็นกรณียกิจ อุทิศชีวี
ด้วยรู้ดี ชีวิตมี กฎแห่งกรรม

ผู้ประพฤติดี มีการฝึกตน
เป็นคน..เข้าวัด ปฏิบัติธรรม
แสวงบุญสร้างบารมี เป็นประจำ
ปณิธานล้ำ ทำพระนิพพานให้แจ้ง

ผู้ฝึกตนดีแล้ว ได้ที่พึ่งดี ที่หายาก
ไม่มีความลำบาก อุปสรรคปัญหา
มีขันติคุณธรรม ค้ำชีวา
ชนะคนพาลพาลา ด้วยบารมี

ผู้รักษาตนได้ อันตรายย่อมไม่มี
เป็นคนดี ที่เทวดารักษา
ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ธรรมดา
สุขสมปราถนา ย่อมมีมาทุกประการ

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2566

ไม่คบคนพาล (ด้วยการฝึกตน) เพราะความไว้ใจ ภัยจึงตามมา ในโลกตัณหา ไว้ใจไม่ได้ คนทั้งหลายประมาท ขาดการฝึกใจ อะไรก็เกิดชึ้นได้ ถ้าไม่ระวัง

ไม่คบคนพาล
(ด้วยการฝึกตน)


เพราะความไว้ใจ ภัยจึงตามมา
ในโลกตัณหา ไว้ใจไม่ได้
คนทั้งหลายประมาท ขาดการฝึกใจ
อะไรก็เกิดชึ้นได้ ถ้าไม่ระวัง

เพราะอยู่ด้วยกัน นานเกินไป
ความแหนงหน่าย หนีไม่พ้น
ได้ใหม่ลืมเก่า นี้คือคน
เป็นผู้ไม่สน ธรรมปฏิบัติ เข้าวัดเข้าวา

อยู่กับอมิตรคืนเดียว ก็หน้าเหี่ยวแล้ว
มิตรจึงเป็นแก้ว ให้ชื่นใจ
เปลี่ยนศัตรูเป็นมิตร ด้วยเมตตาได้
คิดดีเข้าไว้ มองความดีของเขา

อยู่กับคนพาล เหมือนกัน อยู่กับศัตรู
นำทุกข์มาสู่ มาให้เสมอ
ผู้ประมาท จัดเป็นคนพาล มีเยอะ
คนไม่ฝึกตน นั่นแหละเธอ ผู้ประมาท

อยู่ร่วมกับปราชญ์ ไม่ขาดสุข
เหมือนหมู่ญาติ ขจัดทุกข์ นำสุขมาให้
นักปราชญ์ทางธรรม สร้างวัดใหญ่
คนศรัทธาหลาย หลั่งไหลมา

คบกับสัตบุรุษ คนดี มีแต่นำสุขมาให้
ความทุกข์สลาย ด้วยใจศรัทธา
มีแต่ความสุข ยินดีปรีดา
สุขสมปราถนา ด้วยว่า มีธรรม

ผู้คบคนเลว ย่อมเลวลง
คนพาลเป็นเสนียด อย่าหลง..คบ
ห่างให้ไกลสุดหล้า อย่าประสบ
การไม่คบ..ดีสุด คือการฝึกตน

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566

กิเลสตัณหา (พาคนประมาท) ละเหตุแห่งทุกข์ได้ มีสุขในที่ทั้งปวง นั่นคือ ให้ก้าวล่วง ความประมาท ไม่ให้โอกาศ กิเลสตัณหา เด็ดขาด ทุ่มชีวาต เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

 กิเลสตัณหา
(พาคนประมาท)


ละเหตุแห่งทุกข์ได้ มีสุขในที่ทั้งปวง
นั่นคือ ให้ก้าวล่วง ความประมาท
ไม่ให้โอกาศ กิเลสตัณหา เด็ดขาด
ทุ่มชีวาต เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

ความไม่เบียดเบียน เป็นสุขในโลก
ใจชุ่มโชก..ด้วยกิเลส จึงเบียดเบียนได้
ใจมืด ใจดำ ความทุกข์ใหญ่
ใจสว่างไสว จึงไม่เบียดเบียน

ความสงบระงับแห่งสังขาร นั้นเป็นสุข
ใจเป็นทุกข์ ด้วยใจไม่หยุดไม่นิ่ง
ความคิดปรุงแต่ง เหตุแห่งทุกข์จริงๆ
เมื่อใจหยุดนิ่ง สุขจะวิ่งเข้ามาทันที

ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี
สุขจากใจที่..หยุดที่นิ่ง
ใจไม่มืดมัว สว่างไสว ใสจริงๆ
ใจยิ่งหยุดยิ่งนิ่ง ยิ่งสุขไม่ถอย

นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง
สุขจริงๆ สุขอย่างยิ่ง คือนิพพาน
พ้นกฎแห่งกรรม ของมาร
สุขตลอดกาล ทั้งอานุภาพ

ความเกิดขึ้นแห่งผู้รู้ นำสุขมาให้
ผู้เลื่อมใส เกิดศรัทธา กัลยาณมิตร
ชีวิตพลิกผัน ปานเทวดา ไม่ผิด
ทุ่มชีวิต ตามติด ท่านผู้รู้

การแสดงสัทธรรม นำสุขมาให้
ได้ปีติใจ ทั้งผู้ให้ และผู้รับ
บุญเป็นชื่อของความสุข ต่างจากบาป
แต่คนทั้งหลายไม่ทราบ ทำบาปจนเคย

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2566

คนดีเท่านั้น (สุขสันติ์สำเร็จ) คนดีเท่านั้น สุขสันติ์และสำเร็จ คุณธรรมเหตุ คือความกตัญญู เสียสละ กล้าหาญ กว่าทุกผู้ ท่านผู้รู้ ทุกผู้ สรรเสริญ

 คนดีเท่านั้น
(สุขสันติ์สำเร็จ)

คนดีเท่านั้น สุขสันติ์และสำเร็จ
คุณธรรมเหตุ คือความกตัญญู
เสียสละ กล้าหาญ กว่าทุกผู้
ท่านผู้รู้ ทุกผู้ สรรเสริญ

เสียชีพ อย่าเสียสัตย์ นี้ชัดเจน
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เรื่องชีวิต
บุญหรือความดี เท่านั้นตามติด
ทุกชีวิต ในวัฏฏสงสาร

บุญเป็นสหายอย่างยิ่ง มิ่งมงคล
เหมือนล้น..มารดา รักษาบุตรน้อย
มดไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม เฝ้าคอย
รักษาบุตรน้อย สุดชีวิต

ผู้มีปัญญา แสวงบุญสร้างบารมี
มุ่งมั่นชีวี สุดชีวิต
ด้วยรู้ว่า เวลา มีน้อยนิด
ต้องเดินทางไกลสุดขีด วัฏฏสงสาร

สุขสำเร็จ ด้วยมีบุญบารมี
ชีวิต มีเพียงเท่านี้ เท่านั้น
ไม่แสวงบุญฯ แล้วคุณจะทำอะไรกัน
ถ้ากินนอนเท่านั้น มันอมนุษย์

พุทธศาสน์ สุดคาด อจินไตย
พระผู้รู้จัดให้ คือองค์พระพุทธฯ
อจินไตย ยากหลาย ยากสุด
ที่เหล่ามนุษย์ จะศรัทธา

ตัณหาอุปาทาน มันไม่ธรรมดา
กิเลสตัณหา ยิ่งกว่ายาเสพติด
ขอตายดีกว่า ถ้าไม่ได้ดังคิด
ได้กัลยาณมิตร ชีวิตจึงพลิกผัน

;;;;;;;;;;