แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความประมาท แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความประมาท แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2567

ความประมาท (ร้ายกาจยิ่ง) แม้กล่าวพุทธพจน์ ได้มาก แต่ถ้าหาก ประมาท สามัญญผล ก็ไม่อาจ เช่นคนเลี้ยงโคชาติ คอยนับแต่โค

 ความประมาท
(ร้ายกาจยิ่ง)

 
 แม้กล่าวพุทธพจน์ ได้มาก
 แต่ถ้าหาก ประมาท
 สามัญญผล  ก็ไม่อาจ
 เช่นคนเลี้ยงโคชาติ คอยนับแต่โค 

คนทอดทิ้งกิจ ที่ควรทำ
แล้วไปทางต่ำ ไม่สมควรยิ่ง
 ความถือตัว เมามัวประมาท ควรทิ้ง
อันตรายยิ่ง อาสวะ
เมื่อก่อน ประมาท
และกลับตัวได้ขาด ภายหลัง
 ชื่อว่า ยังโลกนี้ให้สว่าง
ดังจันทร์กระจ่าง พ้นจากเมฆหมอก 
 บาปธรรม เป็นมลทินแท้
ทั้งในโลกนี้ และโลกอื่น
อุปสรรคปัญหา ความขมขื่น
ทั้งหลับและตื่น ไม่เว้น
การสั่งสมบาป นำทุกข์มาให้
ตัณหา พาตาลาย ประมาท
แม้ทุกข์ขนาดไหน ก็ไม่ขยาด
น่าอนาถ ปุถุชน
การไม่ทำบาป นำสุขมาให้
สุขจากใจ ที่บริสุทธิ์สะอาด
สมบัติสาม ติดตาม ไม่ขาด
ภัยใดใด ไม่อาจ เข้าใกล้
ความชั่ว อันคนชั่วทำง่าย 
ด้วยเป็นนิสัย สันดาน
เหมือแมลงภู่ กับแมลงวัน
ผู้เปลี่ยนนิสัยได้นั้น ยอดคน

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ภัยใดใดไม่ใหญ่ (เท่าภัยตัณหา) ผู้เห็นความประมาท เป็นภัย และใส่ใจ ไม่ประมาท ใจย่อมอยู่ในตน เป็นธรรมชาติ พ้นการรุกฆาต จากตัณหา

 ภัยใดใดไม่ใหญ่
(เท่าภัยตัณหา)

ผู้เห็นความประมาท เป็นภัย
และใส่ใจ ไม่ประมาท
ใจย่อมอยู่ในตน เป็นธรรมชาติ
พ้นการรุกฆาต จากตัณหา

ใจนิ่งใจหยุด หลุดจากกระแสบาป
ใจวูบวาบ สุขหลาย
สุขสว่าง กระจ่างอยู่ภายใน
เหมือนตาย เกิดใหม่ ในทางธรรม


มรรคมรรคา ทางบุญบริสุทธิ์
เป็นยอดมนุษย์ เหนือดินเหนือฟ้า
แผ่บารมี เมตตา
ปกคลุมทั่วหล้า จักรวาล

นี้คือ อุดมการณ์ชีวิต
พ้นบาปอำมหิต ชีวิตปลอดภัย
พ้นกฎแห่งกรรม ของมารร้าย
พ้นการเวียนว่าย ในวัฏฏสงสาร

มีสุขสมปราถนา ทุกประการ
ชีวิต สร้างบารมีปราบมาร ผยอง
กอบกู้ธาตุธรรม น้ำตานอง
หลงลำพอง จึงต้องไป อบายภูมิ

วัฏฏสงสาร คือคุกประหาร
เวียนว่าย แสนนาน อจินไตย
เสียน้ำตามากกว่า น้ำมหาสมุทรใหญ่
ทุกข์หลาย แต่เมื่อเกิดใหม่ ลืมหมด

ปุถุชน คนไม่รู้จักบุญ
มัวแต่วุ่น ทำมาหากิน
เหมือนไก่กา ปล่อยเวลาสิ้น
ไม่เคยถวิลว่า หลังตาย ใช้แต่บุญ

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566

มีความเคารพ (จะพบผู้รู้จริง) ผู้เห็นสิ่งไร้สาระ เป็นสาระ เห็นสิ่งสาระ เป็นไร้สาระ จึงมีความดำริผิด เป็นธรรมดา จะไม่พบสิ่งสาระ แม้อยู่ตำตา ก็ตาม

มีความเคารพ
(จะพบผู้รู้จริง)

ผู้เห็นสิ่งไร้สาระ เป็นสาระ
เห็นสิ่งสาระ เป็นไร้สาระ
จึงมีความดำริผิด เป็นธรรมดา
จะไม่พบสิ่งสาระ แม้อยู่ตำตา ก็ตาม

เป็นผู้ประมาท ขาดความเคารพ
มักจะพบ..เห็น ในคนทั่วไป
ยกตนข่มท่าน ฉันใหญ่
ขันติโสรัจจะไว้ ไม่เป็น
ผู้รู้จริง งามยิ่ง มารยาท
มีปัญญาสามารถ แต่สงบเสงี่ยม
ส่วนผู้รู้น้อย ต่อยหอย ไม่เจียม
เป็นธรรมเนียม แมงป่อง มองแต่ตน
คุณธรรม ความเคารพ
หาให้พบ ความดี ที่เขามีอยู่
ตระหนัก แล้วเชิดชู
รองรับความดีที่เขามีอยู่ แม้น้อย
นิวาโต ไม่พองลม ไม่นิยมชมตนเอง
แม้เราเก่ง ก็เก็บงำไว้มิด
เหมือนนาคี ไม่ยะโส แม้มากฤทธิ์
ส่วนแมงป่องตัวนิด หยิ่งยะโส
ผู้มีสติ จึงมีความเคารพ
จะพบเห็น..ในคนที่มีศีล
นั่งสมาธิภาวนา เป็นอาจิน
มีใจถวิล แสวงหา ท่านผู้รู้
สันโดดสมถะ สมาธิภาวนา
ใช้ชีวาทางธรรม ทางชีวิต
เชื่อมั่น ในบุญบารมี พลังจิต
มุ่งสู่ทิศ ตามหลัง ทางหลวงปู่ฯ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ความประมาท (ทำลายชาติประชาชน) คฤหัส เกียจคร้าน ไม่ดี บรรพชิตที่ดี สำรวมสงบ พระราชา ใคร่ครวญก่อน งามจบ บัณฑิตขี้โกรธ ไม่ดี

 ความประมาท
(ทำลายชาติประชาชน)

คฤหัส เกียจคร้าน ไม่ดี
บรรพชิตที่ดี สำรวมสงบ
พระราชา ใคร่ครวญก่อน งามจบ
บัณฑิตขี้โกรธ ไม่ดี

คฤหัส ผู้บริโภคกาม
ต้องทำงาน เลี้ยงชีวิต
เกียจคร้านไม่ได้ หมดสิทธิ์
เป็นชีวิต คฤหัสที่ดี
บรรพชิต งาม ด้วยความสำรวม
เกิดศรัทธาท่วม ในผู้พบเห็น
มีจิตแสวงบุญ นี้ช่างเป็น
การบำเพ็ญ..ทาน จึงเห็น เป็นวัตร
พระราชา มีอำนาจ
คนขยาด ถ้าไม่ใคร่ครวญ
ไม่เป็นที่รักประชา ไม่สมควร
สังคมเรรวน ไม่เป็นสุข
บัณฑิตขี้โกรธ ไม่ใช่บัณฑิต
บัณฑิต คือผู้พิชิต ความโกรธ
ฝึกตนฝึกใจ จิตปราโมทย์
คนขี้โกรธ คนพาล
เหตุทั้งหมดทั้งสิ้น  คือประมาท
ยังไม่ขยาด ตัณหาอุปาทาน
เห็นโลกโลกีย์ ยังหอมหวาน
ไม่ทุ่มชีวัน ฝึกตน
กัลยาณมิตร สำคัญยิ่ง
เกิดศรัทธาจริง เดินทางธรรม
มีชีวิตใหม่ ที่เลิศล้ำ
พ้นวิบากกรรม วิบากมาร

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2566

ไม่มีโรค (ลาภอย่างยิ่ง) ไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง เหนือทุกสิ่ง ที่ได้ ที่มี ที่เป็น เมื่อมีโรค แล้วจะเห็น จะเข้าใจได้ เป็น อย่างดี

 ไม่มีโรค
 (ลาภอย่างยิ่ง)


ไม่มีโรค เป็นลาภอย่างยิ่ง
เหนือทุกสิ่ง ที่ได้ ที่มี ที่เป็น
เมื่อมีโรค แล้วจะเห็น
จะเข้าใจได้ เป็น อย่างดี

สิ่งทั้งหลาย ภายนอก
เป็นของหลอก ล่อให้ติด
เพื่อหนีทางธรรม ทางสุจริต
ล่อให้ติด ให้หลง แล้วพาลงอบาย
สิ่งภายนอก หลอกให้ตระหนี่
อยากได้อยากมี ไม่รู้จักดีชั่ว
เกิดกิเลสตัณหา ใจมืดมัว
หลงสติ ลืมตัวลืมตนลืมตาย
วัฏฏสงสาร คุกประหาร มีแน่แท้
แม้ ไม่เชื่อ ก็ไม่ควรประมาท
ควรศึกษา ธรรมปฏิบัติ
ให้รู้เช่นเห็นชาติ ให้ชัดเจน
ผู้ประมาท ขาดปัญญา
เป็นยิ่งกว่า คนตาบอด
เดินทางไกล ไม่มีทางรอด
ใจมืดบอด ไปสู่อบาย
มีโรคภัย ด้วยใจมีบาปกิเลส
เหมือนสนิมเหล็ก กัดเหล็กอย่างนั้น
แม้แข็งแรง แข็งแกร่ง ดุดัน
จะชนะบาป ได้นั้น มีแต่บุญ
ทรัพย์สมบัติ คล้ายกับ ภรรยาสาว
คนแก่ มีภรรยา คราวลูกหลาน
เมื่อจะตาย จึงได้สติ ทุกข์อนันต์
ส่วนภรรยาสาวนั้น สุดแสนดีใจ

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2566

ชีวิตประมาท (ถ้าขาดปฏิบัติธรรม) สิ่งทั้งปวง ไม่ควรถือมั่น ด้วยมัน มีกฎไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จงประจักษ์ เป็นกลโกง กับดัก ของมาร

 ชีวิตประมาท
(ถ้าขาดปฏิบัติธรรม)

สิ่งทั้งปวง ไม่ควรถือมั่น
ด้วยมัน มีกฎไตรลักษณ์
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จงประจักษ์
เป็นกลโกง กับดัก ของมาร
โลกเป็น เช่นโรงละคร
กิเลสกรรมวิบาก ทับซ้อน ชีวิต
เป็นบุญบาป จากอดีต ลิขิต
ชีวิตเป็น เช่น เล่นละคร
เมื่อเลิกเล่น ละโลก ตกใจ
ทุกสิ่งที่มีที่ได้ ไม่ไปกับเรา
 สิ่งประดับประดา เครื่องเครา
 ถอดไว้ ให้เขา เจ้าของโรง
เมื่อตาย จึงได้สติ
ไม่มีเวลา ที่จะ เสียใจ
ถูกหมู่มาร เร่งลัด ไล่ต้อนไป
สู่คุกประหาร ทุกข์หลาย อนันตกาล
ปุถุชน คนทั้งหลาย เป็นเบื้อ
ไม่เชื่อ..คำพระ ไม่ละทิฏฐิ
เหมือนหนอนในส้วม ไม่เชื่อเพื่อนซี้
เป็นเทวดา มานี่มาชี้ ทางสวรรค์

บุญเท่านั้น นิจจัง สุขัง อัตตา
บุญเท่านั้นหละ พ้นกฎไตรลักษณ์
บุญ ยอดกัลยาณมิตร จงรู้จัก
จึงสำคัญนัก แสวงบุญสร้างบารมี

ทำพระนิพพานให้แจ้ง ปณิธาน
มิฉนั้น ชีวันเวียนว่าย วัฏฏะ
ได้ชื่อว่าประมาท ขาดปัญญา
จงทุ่มชีวา เร่งลัด ปฎิบัติธรรม

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566

กิเลสตัณหา (พาคนประมาท) ละเหตุแห่งทุกข์ได้ มีสุขในที่ทั้งปวง นั่นคือ ให้ก้าวล่วง ความประมาท ไม่ให้โอกาศ กิเลสตัณหา เด็ดขาด ทุ่มชีวาต เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

 กิเลสตัณหา
(พาคนประมาท)


ละเหตุแห่งทุกข์ได้ มีสุขในที่ทั้งปวง
นั่นคือ ให้ก้าวล่วง ความประมาท
ไม่ให้โอกาศ กิเลสตัณหา เด็ดขาด
ทุ่มชีวาต เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

ความไม่เบียดเบียน เป็นสุขในโลก
ใจชุ่มโชก..ด้วยกิเลส จึงเบียดเบียนได้
ใจมืด ใจดำ ความทุกข์ใหญ่
ใจสว่างไสว จึงไม่เบียดเบียน

ความสงบระงับแห่งสังขาร นั้นเป็นสุข
ใจเป็นทุกข์ ด้วยใจไม่หยุดไม่นิ่ง
ความคิดปรุงแต่ง เหตุแห่งทุกข์จริงๆ
เมื่อใจหยุดนิ่ง สุขจะวิ่งเข้ามาทันที

ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี
สุขจากใจที่..หยุดที่นิ่ง
ใจไม่มืดมัว สว่างไสว ใสจริงๆ
ใจยิ่งหยุดยิ่งนิ่ง ยิ่งสุขไม่ถอย

นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง
สุขจริงๆ สุขอย่างยิ่ง คือนิพพาน
พ้นกฎแห่งกรรม ของมาร
สุขตลอดกาล ทั้งอานุภาพ

ความเกิดขึ้นแห่งผู้รู้ นำสุขมาให้
ผู้เลื่อมใส เกิดศรัทธา กัลยาณมิตร
ชีวิตพลิกผัน ปานเทวดา ไม่ผิด
ทุ่มชีวิต ตามติด ท่านผู้รู้

การแสดงสัทธรรม นำสุขมาให้
ได้ปีติใจ ทั้งผู้ให้ และผู้รับ
บุญเป็นชื่อของความสุข ต่างจากบาป
แต่คนทั้งหลายไม่ทราบ ทำบาปจนเคย

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2566

ความประมาท (คู่กับคนพาล) ความประมาท ทาง แห่งความตาย คือปล่อยใจ ไปตามอารมณ์โลกีย์ ไม่รักษาใจ ไม่รักษาสติ ไม่ควบคุมให้ดี เอาใจไว้ในตน

 ความประมาท
(คู่กับคนพาล)


ความประมาท ทาง แห่งความตาย
คือปล่อยใจ ไปตามอารมณ์โลกีย์
ไม่รักษาใจ ไม่รักษาสติ
ไม่ควบคุมให้ดี เอาใจไว้ในตน

ปล่อยใจ ไปตามกระแสตัณหา
ยากนักหนา จะหลุดจะพ้น
กิเลสกรรมวิบาก เหมือนปลักโคลน
เวียนวน สังสารวัฏฏ์ นับชาติไม่ถ้วน

แสวงบุญสร้างบารมี มิประมาท
มาวัดไม่ขาด ปฎิบัติธรรม
มีหมู่คณะ คุ้มครองรักษา ประจำ
ชีวิตไม่ตกต่ำ บุญค้ำชู

ความประมาท เป็นมลทินผู้รักษา
ใจจะมืดหนา มีอารมณ์
อุปสรรคปัญหา ได้ท่า มาขย่ม
คนพาลทุกข์ระทม สมแก่กรรม

ความประมาท บัณฑิตชาติ ตำหนิ
ไม่มีเหลือ ไม่มีเผื่อ..ยกไว้
ไม่ว่าเป็นใคร ไม่ว่าเวลาไหน
ประมาทไม่ได้ อันตรายสุด

คนพาล ทำแต่ความประมาท
ย่อมไม่อาจ ขัดขืน กิเลสตัณหา 
เหมือนปลาในน้ำ ยากจะขึ้นบกมา
หมู่พาลา ยากนักหนา จะเข้าวัด

คนประมาท เศร้าโศกสิ้นกาลนาน
สู่วัฏฏสงสาร คุกประหาร เวียนว่าย
เสียน้ำตา มากกว่าน้ำมหาสมุทรใหญ่
ที่จะเป็นคนได้ใหม่ ลืมไปได้เลย

;;;;;;;;;;