วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คนดีแท้ (ได้แก่นักสร้างบารมี) อยากมีอายุยืน ไม่เจ็บป่วยไข้ ให้สร้างบารมี คือแสวงบุญเต็มที่ เอาชีวีเป็นเดิมพัน

 คนดีแท้
(ได้แก่นักสร้างบารมี)

อยากมีอายุยืน ไม่เจ็บป่วยไข้ ให้สร้างบารมี
คือแสวงบุญเต็มที่ เอาชีวีเป็นเดิมพัน
ทำพระนิพพานให้แจ้ง ณ ตำแหน่ง ศูนย์กลางกาย เท่านั้น
 จะเกิดปีติสุขสันติ์ สมปราถนา ทุกประการ

ใจปีติ นี้สำคัญ เปรียบปานอาหารทิพย์
จึงต้องรีบ สร้างบารมี หนีความเจ็บไข้
หนีคนภัยคนพาล หนีวัฏฏสงสารมหาภัย
หนีความโชคร้าย ประสพแต่ชัยชนะ

นักสร้างบารมี เหมือนอยู่ในที่ปลอดภัย
อยู่บนเรือใหญ่ ในขณะที่คนทั้งหลาย แหวกว่ายในทะเล
อันมีภัยมาก แต่ก็รักที่จะอยู่อย่างนั้น ด้วยมันเก๋
ดูมันเท่ แหวกว่ายวน อวดตน เป็นคนเก่ง


คนชั่วได้ดี มีลาภมียศ ปรากฎนาม
บุญวาสนายังค้ำ ยังอุปถัมภ์อยู่
หรือ เป็นบริวาร ที่พญามารอุ้มชู
เมื่อเสร็จศึก โคถึกถูกเชือดร้องอู้ สู่นรก

เป็นคนดี ใจจะมี ปีติอยู่เป็นนิจ
ใจจะนิ่งนุ่มสนิท อยู่ภายใน
อิ่มเอิบเบิกบาน อุปสรรคภัยพาลไม่มีใกล้
หายเจ็บป่วยไข้ สุขสมปราถนาทุกประการ

เป็นคนดี มีหลักดำเนินชีวิต
เดินตามทิศ ตามทาง ห่างอกุศล
ขยันทำดี กายวจี และกมล
กระตือลือล้น ฝึกฝนใจตนให้ผ่องแผ้ว

รู้จักทำวิชชา อันมีสมถะ และวิปัสสนา
สมถะ สงบระงับใจ ไม่ให้ฟุ้งซ่าน
ระงับตัณหา ทะยานอยาก ที่เข้ามารุกราน
มีสติตั้งมั่น ณ จุดสำคัญ ศูนย์กลางกาย

วิปัสสนา เกิดปัญญา เห็นวิเศษ
เห็นกิเลส ตัวเหตุ ก่อปัญหา
 ต้องบรรลุธรรมสำคัญ ธรรมกายา
ได้ดวงตาเลิศล้ำ ธรรมจักขุ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ชีวิตนี้มีภัยมาก (ถ้าไม่รู้จักสร้างบารมี) อย่าปล่อยชีวิต ไหลลงต่ำ ตามกระแสโลกีย์ อันเป็นกระแสกิเลส หรือกระแสที่ ตามใจลืมตน

ชีวิตนี้มีภัยมาก
(ถ้าไม่รู้จักสร้างบารมี)
 อย่าปล่อยชีวิต ไหลลงต่ำ ตามกระแสโลกีย์
อันเป็นกระแสกิเลส หรือกระแสที่ ตามใจลืมตน
เหมือนปลาตาย ไหลตามน้ำ ไปไหนไม่สน
เราเป็นคน อย่าเพียงแต่ว่า ก้มหน้าหากิน
กระแสโลกีย์ หรือกระแสกรรมวิบาก
เป็นกรรมจากอดีต บันดาลชีวิต ให้เป็นไป
สิ่งที่เราได้เรามี จึงไม่อาจที่ หาเหตุผลได้
คนดีก็รวยได้ คนชั่วก็รวยได้ เป็นต้น
เกิดมานี้ มีหน้าที่สร้างเหตุดีดี ให้เกิดขึ้น
เราจะต้องตื่น ฝืนใจ ทำแต่สิ่งที่ถูก
การกระทำดีหรือชั่ว เหมือนการปลูก
ต้นผลไม้กว่าจะสุก อีกนาน นับกาลไม่ได้
กรรมดีที่เคยสั่งสมไว้ กลายเป็นบุญวาสนา
หรือที่เรียกว่า บารมี ที่ตรงข้ามกับกิเลส
กรรมชั่วเป็นบาป สะสมไว้ เกิดอาเพศ
เป็นกิเลส ก่อกรรม และที่ตามมาเป็นวิบาก
กิเลสกรรมวิบาก เป็นวัฏฏจักรชั่ว
สรรพสัตว์ไม่รู้ตัว ยังเมามัว อวดเก่งนัก 
เป็นมิจฉาทิฏฐิ อวดดี ว่ายากสอนยาก
พระโพธิสัตว์ จึงยอมลำบาก สั่งสมบารมี
กิจวัตร นั่นหรือ คืองานที่แท้จริง
ควรมีกิจวัตรที่ดียิ่ง ประคองชีวิต
พูดให้ชัด กิจวัตร เป็นกรณียกิจ
ควรได้คิด เกิดมา หาบารมี
บารมี นี้ก็คือบุญวาสนา ชตาชีวิต
บารมีประสิทธิ์ การเข้าถึง ซึ่งพระนิพพาน
จงแสวงบุญ สร้างบารมี ขมีขมัน
ทำได้ ในโลกนี้เท่านั้น บารมี
 การสร้างบารมี อยู่อย่างพระ สมถะสันโดษ
ละเลิกลด ประหยัดสุด ประโยชน์สูง
เลี้ยงชีวิต เป็นศิษย์ มีครูดี ชีวีรุ่ง
ชีวีมุ่ง มีปณิธาน ทำพระนิพพานแจ้ง
ชีวิตนั้น คือการ เดินทาง
 เดินตาม หลัง พระอริยเจ้า
ทางสายกลาง ทางบุญ สายเก่า
ทางเอก นำเรา เข้าสู่ พระนิพพาน
เส้นทางนี้ ต้องมี หมู่คณะ
ครูนำหน้า นำพา ศิษย์ 
หมู่มาร คอยระราน ตามติด
จับลูกแกะ ตัวนิด หนีเที่ยว
กิจวัตรดี ไม่มี ขาด
เป็น อัตโนมัติ เป็นนิสัย
ไม่ช้า จะเป็น เช่นจอมปลวกใหญ่
อัศจรรยใจ ทำได้ไง บารมี

 ;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

รู้จักหน้าที่อันยิ่งของตน (คือคนอภิชาติ) สติสัมปชัญญะ มีอุปการะอย่างยิ่ง และก็เป็นความจริง ที่บุพพการี มีอุปการะมาก บิดามารดา มีอุปการะ เราประจักษ์ แต่ก็เพียงมีอุปการะมาก ยังไม่นักเท่าอุปการะยิ่ง

รู้จักหน้าที่อันยิ่งของตน
(คือคนอภิชาติ)

สติสัมปชัญญะ มีอุปการะมาก
และมีอุปการะนัก ประดุจบุพพการี
คืออุปการะก่อน เข้าอุ้มเข้าช้อน ด้วยชีวี
ทุกเวลานาที ไม่มีหน่าย
การได้เกิดเป็นมนุษย์ สำคัญสุดๆ
ผู้มีชีวิตอุทิศให้บุตร นั่นหรือ คือมารดาบิดา
เหตุการณ์ต่างๆ กรรมวิบากอยู่เบื้องหลัง อย่างว่า
การมีมารดาบิดาอุปการะ 
บุญบาปนำพา ให้เป็นไป

ชีวิตสรรพสัตว์ เซซังซัด ไปตามวิบากกรรม
บุญบารมีอุปถัมภ์ ค้ำจุนชีวิต
บาปกิเลส เป็นอาเพศ ทำลายล้างอย่างอำมหิต
ก่อเหตุวิปริต สรรพสัตว์ทุกข์หนัก น้ำตานอง

การเกิดเป็นมนุษย์ สุดยากยิ่ง
ต้องมีบุญบารมีมากจริงๆ จึงเกิดได้
เปรียบกับเขาโคสองเขา เมื่อเอามาเทียบกับ ขนโคมากมาย
ล้วนไปสู่อบาย ยากหลายจะได้กลับมา

ฝุ่นในเล็บมือน้อยนัก หากเปรียบกับ ฝุ่นในแผ่นดิน
สรรพสัตว์แทบทั้งสิ้น เท่าฝุ่นในแผ่นดิน ไปสู่อบาย
น้อยแสนน้อย เท่าฝุ่นในเล็บมือ 
เกิดเป็นมุษย์ได้
เกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น โชคดีหลาย ได้สร้างบารมี

ผู้มีบุญบารมีมาก รู้จักแยกแยะ และเตือนตน
พ่อแม่ไม่ต่องบ่น นี้คือคนอภิชาติ
เกิดมาเพื่อเลี้ยงดูมารดาบิดา และสงเคราะห์ญาติ
สงเคราะห์ สังคมประเทศชาติ มหาชน


การสร้างบารมี ต้องเต็มที่ หน้าที่มนุษย์
หลังตายรู้ดีสุด แต่เมื่อได้เกิดเป็นมนุษย์ ลืมหมด
ด้วยว่า นิวรณ์ห้า ปิดบังปัญญา เหมือนเมฆบังบด
ขจัดนิวรณ์ห้าไม่ละลด  คือผู้มีสติสัมปชัญญะ

การรักษาสติไว้ในตน คือคนมีสติสัมปชัญญะ
นี้เป็นกิจกรณียะ อย่างยิ่งของทุกคน
สุขสมปราถนา จะมีมา อย่างเหลือล้น
 รู้จักหน้าที่อันยิ่งของตน คือคนอภิชาติ

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ประโยชน์ตนแท้ (ได้แก่บุญ) บุคคล ไม่ควรทำลายประโยชน์ตน ด้วยประโยชน์คนอื่น แม้มาก การเสียสละนั้นดี แต่แต้องมีสติ รู้จัก ประโยชน์ตนและท่าน นั้นคือตระหนัก ในบุญ

ประโยชน์ตนแท้
(ได้แก่บุญ)

บุคคล ไม่ควรทำลายประโยชน์ตน
ด้วยประโยชน์คนอื่น แม้มาก
การเสียสละนั้นดี แต่แต้องมีสติ รู้จัก
ประโยชน์ตนและท่าน นั้นคือตระหนัก ในบุญ
การทำลายทำร้าย ได้ชื่อว่า
ได้พร่า ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน
การรักษาชาติ พิฆาตศัตรู ของตำรวจทหาร
ได้บาปบาน ทำเกินดี หนีนรกไม่พ้น 
ประโยชน์ทั้งสอง ต้อง ถึงพร้อม
 ชีวิตจึงจะ กลมกล่อม สมบูรณ์ 
สมบัติสาม งอกงาม จรูญ
 ประโยชน์ตนไม่สูญ ยังจำรูญประโยชน์ท่าน 
ประโยชน์สอง มองคล้าย สร้างเจดีย์
จะคงทนต้องมี ลักษณะที่ ทั้งสูงและใหญ่
ลักษณะสูง ประโยชน์ตน มุ่งภาวนาไป
 สร้างบารมี ลักษณะใหญ่ ประโยชน์ท่าน
พระปัจเจก มุ่งภาวนา ถือประโยชน์ตน
ไม่สนประโยชน์ท่าน คือการสร้างบารมี
 
มุ่งอบรมตน ไม่สน ประชาชี
พาชีวี หนีรอด ปลอดภัยแต่ผู้เดียว
สร้างบารมี จะต้องมีหมู่
รวมกัน เราอยู่ สู้ภัยพาล
ใช้ขันติ ไม่สู้ไม่หนี ทำดีไม่ยั่น
ไปพร้อมกัน เรียงหนึ่ง ถึงสุดธรรม
ทานศีลภาวนา นั่นหละ ประโยชน์ท่าน
ทำให้ชำนาญ ไม่ข้องขัด สมบัติสาม
ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ได้ทำ
 พร้อมอย่างงาม ทำด้วย ทานศีลภาวนา
 ถือแต่ประโยชน์ตน คนตระหนี่
 ชาตินี้ แม้รวยทรัพย์ นับไม่ไหว
เป็นคน ไร้คนนับถือ เห็นแก่ได้
 อาภัพเพื่อน มหันตภัย ในชีวิต
ทานศีลภาวนา มาพร้อม 
  เพชร ย่อม มีน้ำ เนื้อและแสง
 ภาวนา เท่ากับว่า แม่ไก่กกไข่ ไม่ตะแบง
บุญแรง สมบัติสาม ไหลตามมา

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

AN IDIOT (becoming a genius easily) An idiot can become a genius/ATATAKKA, by the bright of wisdom, the key of life unlocked.

AN IDIOT
(becoming a genius easily) 

An idiot can become a genius/ATATAKKA,
by the bright of wisdom, the key of life unlocked.
Glory eliminates the dark in the mind.
As so, practicing the mind is an essential activity.

There are three faculties in ordering:
 SUTTAMAYAPUNNA/recognizing obtained from
listening and reading,
only inferior intelligence,
fundamental intelligence, is impracticable.
JINTAMAYAPANNA, an intelligence derived from thinking.
Think and think, search and search, to find out
the truth until being proficient,
of the teacher and the expert.
But just only is a person of blank palm leaf.
YONISOMANASIKARN/consideration 
happen the vision moderately clear,
not reaching the level of knowing brightly and thoroughly.
Importantly, faith in meditation.
PAWANAMAYAPANNA, meditated intelligence 
is enlightened with mindfulness.
Practice meditation is excellence intelligence,
along with the virtue of kindness and benevolence,
happiness, fulfillment and the refuge of public.
PAWANAMAYAPANNA, enlightened Dhammakaya body,
got Dhamma eyes, 
Being the know, the awake, the enlightened one,
and the brightest,
the birth of a supper genius miraculously.
Dhamma eyes, the magic eye, 
seeing the cause far and near.
Amazing the inner Triple Gems
knowing and seeing thoroughly,
knowing scarily, knowing all in our mind,
knowing all in intestines and bowels.
Very stupid, used to insult people in the past.
As if  a sharp knife slit a stone.
JURAPANTOK is as so, too stupid to teach,
but instantly becoming a genius.
Even the dark, has the right to access Dhamma.
Just entering the Middle, following the principle.
It is only a hair conceal mountain,
 just touching the dark with the mind,
gentle and soft, little by little
seeking the key of life unlocked.

;;;;;;;;;; 

คบคนพาล (น้ำตาลเคลือบยาพิษ) บุคคล ไม่ควรลืมตน หรือขาดสติ รักษาให้ดี กายวจี..ใจ อย่าผิดศีลธรรม จงจำ..เอาไว้ บาปนั้นร้ายสุดร้าย ตายเสียยังจะดีกว่า

 คบคนพาล
(น้ำตาลเคลือบยาพิษ)
บุคคล ไม่ควรลืมตน หรือขาดสติ
รักษาให้ดี กายวจี..ใจ
อย่าผิดศีลธรรม จงจำ..เอาไว้
บาปนั้นร้ายสุดร้าย ตายเสียยังจะดีกว่า
แม้จนขนาดไหน ก็ไม่ควรลักขโมย
แม้มีโอกาศ ไม่อาจกอบโกย เห็นแก่ได้
สัมมาอาชีวะ รักษาให้ดี สำคัญหลาย
จะบันดาลให้ มีกินมีใช้ ไม่อนาทร
ชนะตนนั่นแหละเป็นดี คือชนะกิเลส
อันเป็นเหตุ ของทุกข์ทั้งหลาย
ชนะกิเลสได้ ใจจะสว่างไสว
สุขใจ เมตตาหลาย บันดาลให้ ชนะทุกอย่าง
ตนแลฝึกได้ยาก รู้จักแต่จะสอนคนอื่น
บัณฑิตไม่ดาดดื่น คือผู้ใฝ่ฝึกตน
พ่อใบลานเปล่า กิเลสตัวเก่า ยังมากล้น
ยังสาละวน บ่นว่าแต่คนอื่น
ตนที่ฝึกดีแล้ว เป็นแสงสว่าง ส่องทางชีวิตของตน
เป็นทางหลุดพ้น..ภัย ได้พบแต่สุขสมปราถนา
เข้าสู่ทางสายสมบัติ ทางอริยะ
เป็นทางพระ ที่จะพา พบพระรัตนตรัย
ตนแล แน่แท้เป็นที่พึ่งของตน
ด้วยบุญส่งผล จึงมีคนอุปถัมภ์
เมื่อบุญหมดสิ้น ชีวินมืดดำ
ทุกข์เหลือล้ำ ดำดิ่งสู่อบาย
ให้อภัย ตนเองได้ ใจเป็นสุข
ไม่ควรทุกข์ หวนเสียใจ ในอดีต
รู้ตัวแล้ว ไม่สาย แก้ไขชีวิต
ปณิธานตั้ง ปลุกจิต แก้ไขตน
อดีตอนาคต ทั้งหมด จงปล่อยวาง
สะบายจัง ใจนิ่ง นุ่มนวล ควรแก่การ
เกิดกำลังใจ ใฝ่ฝึกตน พ้นภัยพาล
สุดขยัน รับผิดชอบ ในกรอบศีลธรรม
การโทษตน ซ้ำเติมตน เลวร้าย
บาปกระจาย คล้ายๆ โรคมะเร็ง
ยิ่งคิด ยิ่งแค้น แน่น หน้าเคร่ง
เป็นการเร่ง โรคร้าย หายนะ
 ปล่อยวาง อุเบกขา เป็นทางพระ
ยากนักหนา จะมาละ กิเลส
   สันดาน ฝังแน่น แก่นกว่าเพชร
 ต้นเหตุ มหาภัย ในมนุษย์
ละกิเลสได้ กลายเป็น อรหันต์
ทางนี้เท่านั้น เท่าทัน หมู่มาร
ทางอื่น ดูดี แต่สุดท้ายที่ โลกันต์
อย่าหลงกลมาร น้ำตาลเคลือบ ยาพิษ

;;;;;;;;;;