แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมถะ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สมถะ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566

วันธรรมชัย (บูชาไท้ ประกาศคุณ) ๒๗สิงหา วันธรรมชัย วันยิ่งใหญ่ วันสำคัญ กตัญญู เราเป็นหนี้ท่านหลาย ใครๆรู้ เราได้เป็นศิษย์มีครู คือท่าน

วันธรรมชัย
(บูชาไท้  ประกาศคุณ)

๒๗สิงหา วันธรรมชัย
วันยิ่งใหญ่ วันสำคัญ กตัญญู
เราเป็นหนี้ท่านหลาย ใครๆรู้
เราได้เป็นศิษย์มีครู คือท่าน
 ทำให้เรามีศรัทธา ในคุณพระรัตนตรัย
เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ เปรียบได้ ดังพ่อแม่
พระรัตนตรัย คือแก้วสารพัดนึกแท้ๆ
แม้แต่พ่อแม่ ยังให้ไม่ได้

คุณธรรมยิ่งใหญ่ ในตัวท่าน
ที่ผลักดัน ให้ท่านยิ่งใหญ่
ด้วยคุณธรรมนี้ จึงได้พบยายฯ
คุณธรรมนั้น ใช่ ความเคารพ นั่นเอง
ความเคารพ ทำให้อยากพบครู
ไม่อวดรู้ แต่อยากเรียนรู้ เป็นกำลัง
จึงออกติดตาม เหมือนโดนยาสั่ง
จนกระทั่ง สมใจตั้ง ได้พบยายฯ
มีคุณธรรม ความเคารพ น้อมนบได้
ใจต้องใส ผิดไปจากธรรมดานัก
จะต้องฝึกสติ เจริญภาวนา มาอย่างหนัก 
เหล้ายาปลาปิ้ง มักมาก ทิ้งหมด
อันคุณธรรม ความเคารพนี้ 
 มองข้าม ความไม่ดี ของเขา
แม้มากมาย ไม่ใส่ใจเอา
ยกความดีของเขา แม้น้อย
ความดี แม้เรามี มากมาย
ไม่พูดโม้ นิวาโต โอ่อวดอ้าง
แกล้งทำเป็นโง่ ตั้งใจฟัง
จิตเมตตา ตั้ง ไม่ขัดคอ
 
เป็นดังนาคา แม้พิษมาก อักโข
เลื้อยบ่อทำเดโช แช่มช้า
แมงป่องพิษน้อยยะโส แต่ดูท่า
 ชูแต่หางเอ็งอ้า อวดอ้างฤทธี
หลวงพ่อมีคุณธรรม ความเคารพ
จึงงามจบ บริสุทธิ สะอาด
เพื่อนฝูงทั้งรัก ทั้งขยาด
น่าประหลาด อย่างนี้ก็มี
ท่านเป็นเหมือนไข่ ในฝูงกา
พากันรักษา ปกป้อง
แม้มีคนพาล ใจดำ ระห่ำผยอง
ต้องข้ามพวกพ้อง เข้ามาแตะต้อง ไม่ได้เลย
นิวาโต ไม่คุยโวอวดอ้าง
มีทุกอย่าง แต่มีสักแต่มี
สันโดษสมถะ เต็มที่
พอใจในสิ่งที่ตนมี ตนควร
จึงฝักใฝ่ ใส่ใจ ความสะอาดระเบียบ
อย่างเนียบ เฉียบ อย่างยายฯสอน
ความสะอาดฯ เป็นพื้นฐานแน่นอน
ใจไม่มีร้อน เกิดสุขสันโดษ
เกิดปัญญาสว่างจ้า รู้เห็น
นี้ช่างเป็น รู้เห็นคุณค่า
ของคุณยายฯ จึงได้ กตัญญุตา
แม้ว่าคุณยายนั่นหนา ซ่อนดีเอาไว้

แปลกนัก ใครๆไม่ยักเห็น
นี้ช่างเป็น มีแต่หลวงพ่อ
ด้วยคุณธรรมเคารพ นี่ละหนอ
หลวงพ่อฯจึงขอ เป็นศิษย์ยายฯ

คุณธรรม ความเคารพ
จะพบในบุคคล ทนนั่งสมาธิ
ทุ่มชิวิต เอาเป็นกิจกรณีย์
ไม่ปล่อยใจ ให้หนี..ไกล ไปจากตน
ในโอกาศสำคัญ วันธรรมชัย
เราควรได้ น้อมรำลึกถึง
คุณอันประเสริฐ คนตลึง
ของบุคคลเป็นที่พึ่ง ของมวลชน
หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ ใช่ หลวงพ่อธัมมชโย
๒๗ สิงหาคมปีนี้ วัดพระธรรมกายเติบโต เป็นอัศจรรย์
คุณธรรมยิ่งใหญ่ ที่อยู่ในใจ ของท่าน
มีมานาน ตั้งแต่ท่าน เป็นนักเรียนนักศึกษา
ผลักดันให้ท่าน แสวงหา ครูบาอาจารย์
ท่านด้นดั้น วิ่งพล่าน ค้นหา ทั่วทุกจังหวัด
วัดทุกวัด ทุกสำนัก ท่านรู้จัก 
สมใจยิ่งนัก เมื่อได้มารู้จักยายฯ
กตัญญู บูชาหลวงพ่อ
ที่ให้เราหนอ ศรัทธา ในวิชชาธรรมกาย
พระคุณล้นฟ้า สุดหาได้
ขอบูชาไท้ ด้วยการประกาศคุณ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2566

หยุดที่ศูนย์กลางกาย (จึงใช่สมถะ) สมณะพราหมณ์บางเหล่า กล่าวว่า ธรรมของข้า ไม่มีสอง ธรรมผู้อื่น ดาดดื่น บกพร่อง ส่งเสียงก้อง เรียกร้องคนฟัง

 หยุดที่ศูนย์กลางกาย
(จึงใช่สมถะ)

สมณะพราหมณ์บางเหล่า กล่าวว่า
ธรรมของข้า ไม่มีสอง
ธรรมผู้อื่น ดาดดื่น บกพร่อง
ส่งเสียงก้อง เรียกร้องคนฟัง

พระพุทธองค์ ทรงตรัส 
การทะเลาะวิวาท มารมันแซก
ธรรมไม่ดี สติแตก
จึงไม่แปลก ขาดขันติโสรัจจะ 
ธัมมเทสนามัย ให้ความเห็นถูก
ปลูกศรัทธา ปสาทะ
 จิตใจงอกงาม สมถะ
สามารถสละ ตัณหาอุปาทาน
การยกตน กดคนอื่นต่ำ
คนดีไม่ทำ แน่ล้ำคนพาล
เป็นคนหลงตน เที่ยวระราน
สติแตกซ่าน ร้อนร่าน ไม่สงบ
อยู่คนเดียวไม่ได้ ใจไม่สันโดษ
เรื่องทั้งหมด ไม่ฝึกตน ไม่ฝึกใจ
เสียดายวันเวลา ที่ผ่านไป
คิดว่าตนบุญหลาย ประมาท
แม้ฝึกตน ก็ยังประมาท
ถ้าไม่อาจ ทำใจหยุดนิ่งได้
สำคัญสุด หยุดที่ศูนย์กลางกาย
มิฉนั้น ฝึกให้ตาย ก็ไร้ประโยชน์
นอกศูนย์กลางกาย มารไม่กลัว
สมาธินอกตัว ฤาษีชีไพร
อาจมีฤทธิ์ เหาะเหินได้
แต่อดใจไม่ไหว ปากไวพอกัน

;;;;;;;;;; 

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2565

ใจหยุด (ที่สุดสมถะ):: สมถะเรียบง่าย ต้องอาศัย อยู่ในป่าหรือ? เพราะนั่นก็คือ พระปัจเจก อยู่เอกองค์

ใจหยุด
(ที่สุดสมถะ)

สมถะเรียบง่าย ต้องอาศัย อยู่ในป่าหรือ?
เพราะนั่นก็คือ พระปัจเจก อยู่เอกองค์
การอยู่ป่า ตามพระพุทธประสงค์
ปลีกวิเวก อยู่เอกองค์  เพื่อทรงหนี ที่วุ่นวาย
อยู่ป่าช้าป่าชัฏ ในที่สงบสงัด ก็อยู่ได้
มีดวงธรรมใส สว่างไสว เป็นเพื่อน
อบอุ่นใจ สุขใจ หามีใดเหมือน 
ความเมตตามาเตือน พระโพธิสัตว์ จึงไม่อาจอยู่นาน
การเผยแผ่ศาสนา พระ ต้องอยู่ในวัด
ที่สงบสงัดร่มรื่น ไม่ไกลไม่ใกล้ ไปจากหมู่บ้าน
ง่ายต่อการบิณฑบาต ไม่ขาด ของขบฉัน
โยมพากัน  มาบำรุง ด้วยมุ่ง แสวงบุญ

วัดกับบ้าน พึ่งพา อาศัยกัน
ต่างผูกพัน แยกกัน ไม่ได้
คนทำลายวัด จึงเป็นมารชัดชัด คนจัญไร
ทำลายวัดได้ เท่ากับทำร้ายตน และคนอื่น

วัดดีไม่ดี ไม่อยู่ที่ ใหญ่หรือเล็ก
เหมือนผู้ใหญ่กับเด็ก ดีไม่ดี ดูไม่ได้
อยู่ที่การฝึกตน ทนกิเลส ไหวไม่ไหว
ดูไม่ได้ ภายนอก สิ่งหลอกตา
ความเรียบง่าย อยู่โคนไม้ ก็ไม่ไหว
จึงขยับขยาย มาอยู่ที่พอสะบาย ในวัด
เล็กหรือใหญ่ อยู่ที่การใช้ ง่ายต่อปฏิบัติ
ถือหลัก สุดประหยัด ประโยชน์สูง มุ่งธรรม

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

หยุดเป็นตัวสำเร็จ (เสร็จกิจสมถะ) สติ สบาย สม่ำเสมอ และสังเกต หยุดเป็นตัวสำเร็จ เสร็จกิจ สมถะ ใจจะหยุดได้ เริ่มต้นที่มีสติ นั่นหละ สติจะดีได้นั่นหนา จะต้องบำเพ็ญทาน

หยุดเป็นตัวสำเร็จ
(เสร็จกิจสมถะ)

สติ สบาย สม่ำเสมอ และสังเกต
หยุดเป็นตัวสำเร็จ เสร็จกิจ สมถะ
ใจจะหยุดได้ เริ่มต้นที่มีสติ นั่นหละ
สติจะดีได้นั่นหนา จะต้องบำเพ็ญทาน

บำเพ็ญทาน บริหารใจให้กว้าง
ปีติใจจัง สติสตัง ตั้งขึ้นในตน
สุขจากทาน สามารถต้าน ความจน
กลายเป็นคน..ใจดี หนีอบายมุขได้

ทาน เปรียบปาน ประตูสวรรค์
เป็นเครื่องหมาย สำคัญ สัมมาทิฏฐิ
มีมากน้อย ไม่เป็นปัญหา ถ้าศรัทธามี
ใจยิ่งปีติ ได้ทานบารมี ที่วิเศษ

เมื่อใจคุ้นกับทาน ใจนั้น จึงไม่ไปไหน
ยิ้มละมุน อุ่นละไม อยู่ในตน
รับผิดชอบ ประกอบกิจ ดีเลิศล้น
เป็นสาธุชน บุคคลตัวอย่าง


สติต้องคู่กับสบาย ใจจึงไม่ร้อนรน
ไม่เป็นคน..ขี้โกรธ โทษคนอื่น
 ใจใส ใส่ใจ มารยาท เป็นพื้น
ใจราบรื่น ไม่เป็นคลื่นทะเล

ความสะอาด มีระเบียบ เนียบมารยาท จึงมา
ก็คือศีลนั่นหละ ใจจะใส ไม่ร้อนรน
ศีล ทำใจให้สูง ไม่ยุ่ง ไม่สับสน
เปี่ยมล้น คุณธรรม คุณงามความดี

 ต่อไป ก็ให้ สม่ำเสมอ เป็นกิจวัตร
ค่อยๆฝึกหัด ธรรมปฏิบัติ เจริญภาวนา
ต้องใส่ใจ ฝึกไป ไม่มีทางอื่นเลยหนา
นี่หละ..ชีวิตา เราลิขิต ชีวิตเราเอง
ความสม่ำเสมอดีหลาย แต่ต้องใส่ใจ สังเกต
เห็นเหตุ เห็นผล ต้นสาย
อย่าหลับหูหลับตา ให้หมั่นสังเกตสังกา ต้นปลาย
ถ้าดีแล้ว ก็จดจำไว้ จะได้ทำอย่างเดิม

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ทานเป็นเบื้องต้น (ของคนสร้างบารมี) ทานนั้นสำคัญนัก ถ้ารัก จะสร้างบารมี ด้วยอันตรายมากมี ต้องมีพลังสามัคคี ของหมู่คณะ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย หลายคนศัตรูไม่กล้า

ทานเป็นเบื้องต้น
(ของคนสร้างบารมี)

ทานนั้นสำคัญนัก ถ้ารัก จะสร้างบารมี
 
ด้วยอันตรายมากมี ต้องมีพลังสามัคคี ของหมู่คณะ 
 คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย หลายคนศัตรูไม่กล้า 
หมู่มารา เหมือนฝูงสนุกป่า หิวกระหาย

พลังสามัคคี ของสุกร ที่อ่อนแอ
สัตว์ร้ายแท้ๆ เช่นฝูงสุนักป่า ไม่กล้ายุ่ง
ได้แต่รอ สอดส่องสายตา หาลูกสุกรหลงฝูง
งานสร้างบารมี ที่สุดสูง คือมุ่งปฏิบัติธรรม

หยุดเป็นตัวสำเร็จ เสร็จกิจสมถะ
สงบระงับตัณหา กามราคะ ที่พาตกต่ำ
หยุดที่ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ให้จดจำ
ใจจึงจะถลำ ตกศูนย์ไปฐานที่หก ยกดวงธรรมขึ้นมา

ดวงธรรมนี้ก็คือมรรค ที่คนรู้จัก ทางสายกลาง
เข้าสู่ทาง กลางของกลางเรื่อยไป
กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม และสุดท้าย
จะได้พบ พระธรรมกาย พระรัตนตรัยในตัว

ทางนี้เท่านั้น จึงจะได้พบพาน พระรัตนตรัย
ทางอื่นๆ แม้สว่างหลาย ก็ไม่ได้พบ
เหมือนตรอกตัน ด้นดั้นอย่างไรก็ไม่ประสพ
เป็นโยคี มีฤทธิ์ มีคนน้อมนบ ก็เท่านั้น

ยังไม่พ้นสมถะ ส่วนวิปัสสนายังอยู่ไกล
กิเลสทั้งหลาย เพียงถูกสยบ หลบหน้าเท่านั้น
เหมือนไฟถูกขี้เท่ากลบ เมื่อพบเชื้อ ก็ตื่นพลัน
ฤทธิ์ทั้งหลายที่มีนั้น พลันสลาย เหาะไม่ได้เหมือนเดิม

เข้าถึงพระธรรมกาย นั่นแหละใช่ วิปัสสนา
ได้จักขุธรรม เป็นดวงตา วิเศษ
เห็นแจ้ง เห็นตัวปัญหา ที่เราเรียกว่า กิเลส
จึงขจัด สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ เหตุของปัญหา


ทานบารมีเป็นเบื้องต้น ด้วยทุกคนต้องสร้างบารมี
พื่อหลีกลี้หนีภัย ไม่ไปอบาย ในสังสารวัฏฏ์
คนดี ทำหน้าที่ กัลยาณมิตร ตามคนเข้าวัด
หมู่ชนสุดประมาท ล้วนแต่ญาติของเรา

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564

วิชชาธรรมกาย (วิปัสสนา วิชชาของชีวิต) อยู่คนเดียว ระวังความคิด อยู่กับมิตร ระวังวาจา ระวังหนา รักษาสติสัมปชัญญะให้ดี เป็นพิเศษ

วิชชาธรรมกาย
(วิปัสสนา วิชชาของชีวิต)
อยู่คนเดียว ระวังความคิด อยู่กับมิตร ระวังวาจา
รักษา สติสัมปชัญญะให้ดี เป็นพิเศษ
กิเลสจัญไร ได้โอกาศใหญ่ ก่อเหตุ
ถ้าไม่ระวัง เป็นเสร็จ เกิดกิเลสก่อกรรม
ใจ ไวยังกับลิง ชอบวิ่งลงต่ำ
ใจมืดดำ ขาดสติ นี้เรียกว่าประมาท
เมื่อคิด เมื่อพูด ไม่มีหูรูด ปลูดปลาด
คนทั้งหลาย อวดฉลาด ไม่ใส่ใจจดจำ
โลกโลกีย์ มียอดหวาน แต่รากนั้นขม
ถูกรสนิยม เหมือนดื่มสุรา แต่ว่าทำลายสติ
อันเป็นคุณธรรม ประดุจมารดา รักษาบุตรสุดชีวี
ใครทำลายสติ ได้ชื่อว่า ไม่รักษาตน
คนขาดสติ สนุกล้ำ กามโลกีย์
เพลิดเพลิน แสงสี เป็นแมงเม่า 
มีอันตรายใหญ่หลวง ติดบ่วงมาร มัวเมา
วิบากกรรมเก่า ตามขยี้ มิได้ผุดมิได้เกิด
คนขาดสติ ฝังใจต่ำ นำความคิด
 กระหายจิต วิ่งใส่ สิ่งภายนอก
 ร้อนรน ไม่ทน สิ่งยั่วยวนหยอก
เกิดอวิชชา เป็นเมฆหมอก..บังตา หมดสภาพ
อย่าปล่อยให้จิตตก ให้ยกด้วยสติ
 คบหาเพื่อนดี กัลยาณมิตร ไว้
เกิดปัญญาสว่าง ส่องทางชีวิต ไฉไล
บาปอยู่ไม่ได้ บุญหลั่งไหลล้น
อยู่คนเดียว โดดเดี่ยว อย่าเปลี่ยวใจ
เป็นภัย ต่อตน คนไม่รู้
บาปได้ช่อง ไหลนอง ใจหดหู่
อุปสรรค นกรู้ กรูเข้ามา
อยู่กับมิตร อย่าประมาทแม้นิด ให้ระวังวาจา
เจริญเมตตา จึงจะระวังรักษาได้
 วาจา ที่ขาดสติ มีปัญหาใหญ่
 วาจาไหลรื่นไป บุญหดหาย บาปไหลมา
การระวังความคิดและวาจา คนธรรมดาทำไม่ได้
ต้องเข้าใจ คำว่าสมถะสันโดษ ขอย้ำ
คือประหยัดสุด ประโยชน์สูง มุ่งปฏิบัติธรรม
เห็นแจ้งเลิศล้ำ วิปัสสนา ด้วยวิชชาธรรมกาย

;;;;;;;;;;