วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ความประมาท (ทำลายชาติประชาชน) คฤหัส เกียจคร้าน ไม่ดี บรรพชิตที่ดี สำรวมสงบ พระราชา ใคร่ครวญก่อน งามจบ บัณฑิตขี้โกรธ ไม่ดี

 ความประมาท
(ทำลายชาติประชาชน)

คฤหัส เกียจคร้าน ไม่ดี
บรรพชิตที่ดี สำรวมสงบ
พระราชา ใคร่ครวญก่อน งามจบ
บัณฑิตขี้โกรธ ไม่ดี

คฤหัส ผู้บริโภคกาม
ต้องทำงาน เลี้ยงชีวิต
เกียจคร้านไม่ได้ หมดสิทธิ์
เป็นชีวิต คฤหัสที่ดี
บรรพชิต งาม ด้วยความสำรวม
เกิดศรัทธาท่วม ในผู้พบเห็น
มีจิตแสวงบุญ นี้ช่างเป็น
การบำเพ็ญ..ทาน จึงเห็น เป็นวัตร
พระราชา มีอำนาจ
คนขยาด ถ้าไม่ใคร่ครวญ
ไม่เป็นที่รักประชา ไม่สมควร
สังคมเรรวน ไม่เป็นสุข
บัณฑิตขี้โกรธ ไม่ใช่บัณฑิต
บัณฑิต คือผู้พิชิต ความโกรธ
ฝึกตนฝึกใจ จิตปราโมทย์
คนขี้โกรธ คนพาล
เหตุทั้งหมดทั้งสิ้น  คือประมาท
ยังไม่ขยาด ตัณหาอุปาทาน
เห็นโลกโลกีย์ ยังหอมหวาน
ไม่ทุ่มชีวัน ฝึกตน
กัลยาณมิตร สำคัญยิ่ง
เกิดศรัทธาจริง เดินทางธรรม
มีชีวิตใหม่ ที่เลิศล้ำ
พ้นวิบากกรรม วิบากมาร

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

กามคุณห้าต้องละ (ถ้าไม่อยากไปอบาย) กาม รูปรสกลิ่นเสียงและสัมผัส สุดคาด ของผู้คน มีความยินดีน้อย มีทุกข์มากล้น ทุกข์ท่วมท้น ยิ่งกว่ากามไม่มี

 กามคุณห้าต้องละ
(ถ้าไม่อยากไปอบาย)

กาม รูปรสกลิ่นเสียงและสัมผัส
สุดคาด ของผู้คน
มีความยินดีน้อย มีทุกข์มากล้น
ทุกข์ท่วมท้น ยิ่งกว่ากามไม่มี

ผู้ใดซ่องเสพกาม ผู้นั้นเข้าถึงนรก
เป็นผู้ตก อยู่ในกระแสกิเลสตัณหา
กระแสโลก โลกา
พัดพาสรรพสัตว์ ไปอบาย
กามคุณ๕ เหยื่อล่อสรรพสัตว์
เหมือนปลา ที่ไม่อาจ หนีพ้นเหยื่อ
ซ่องเสพ ระเริงรื่น ไม่มีเบื่อ
สติ มิเหลือ ตกเป็นเหยื่อมาร
วัฏฏสงสาร ก็คือคุกประหาร
อยู่สวรรค์ นั้นยังไม่พ้น
หมดบุญเมื่อใด ก็หล่น
มาเวียนวน ไม่พ้น ไปอบาย
หนีคุกประหาร อุดมการณ์ชีวิต
มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัยในตัว
เส้นทางธรรม ไม่มืดมัว
อยู่นอกตัว แม้สว่าง แต่ทางตัน
แม้มีฤทธิ์ เหาะได้ เดินอากาศ
ถ้ายังไม่พบ พระไตรรัตน์ ในตัว
ก็ยังไม่ชนะกาม ใจยังระรัว
ยังลืมตัว..ลืมตน ไม่ทนกาม
ธรรมกาย พุทธแท้ มารแพ้พ่าย
มารไม่อาย ลดหางก้มหัวหนี
ยิ่งตียิ่งดัง ยิ่งดี
ใครศรัทธามี มิธรรมดา

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ทางธรรมทางบุญ (ผ่านศูนย์กลางกาย) ภิกษุ พึงสงบกิเลส บาปธรรม อาเพท ภายในเสีย สิ้นสุด กรรมลามเลีย สิ่งที่จะเสีย หรือจะได้ ไม่มี

ทางธรรมทางบุญ
(ผ่านศูนย์กลางกาย)


ภิกษุ พึงสงบกิเลส
บาปธรรม อาเพท ภายในเสีย
สิ้นสุด กรรมลามเลีย
สิ่งที่จะเสีย หรือจะได้ ไม่มี

เสร็จกิจ๑๖ ไม่ตกกันดาร
เรียกว่านิพพาน ก็ได้
พิจารณา กายในกาย
เข้าถึงได้ พระรัตนตรัย ในตัว

เส้นทางธรรม ทางบุญ
ผ่านศูนย์..กลางกาย
เหนือสะดือสองนิ้วมือ สำคัญหลาย
จึงจะได้ พบกายต่างๆ
ยากหลาย ที่ใครๆจะเชื่อ
มันเหลือเชื่อ เหนือธรรมดา
ต้องมีความเคารพ คารวะ
นิวาโตธรรมะ ละการถือตัว
คนทั้งหลาย เห็นใครๆ
จะดูถูก ไว้..ก่อน
นิวาโต ยังไม่ตกตะกอน
จึงไม่เห็น สิ่งที่ซ่อน..ไว้ลึกๆ
คุณยายฯ ซ่อนอยู่ในกายผอมแห้ง
แต่หลวงพ่อฯ รู้แจ้ง..ใจ
จึงขอเป็นศิษย์ยายฯ
ต่างจากคนทั่วไป ดูหมิ่นดูแคลน
กิเลสสงบ สยบด้วยทางสายกลาง
ทางสว่าง ทางบุญ
ในกายมนุษย์ ตรงกลาง เป็นศูนย์
เหมือนรุ่งอรุณ สว่าง กลางดวงธรรม

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

บุญเป็นมารดา (รักษาตน) บุคคล ไม่หลงเพลินเวทนา แม้สุขทุกข์นักหนา ภายนอกภายใน มีสติ ไม่กลับกลอก แจ่มใส จิตจึงดับได้ ไปสู่มิติใหม่

 บุญเป็นมารดา
(รักษาตน)

บุคคล ไม่หลงเพลินเวทนา
แม้สุขทุกข์นักหนา ภายนอกภายใน
มีสติ ไม่กลับกลอก แจ่มใส
จิตจึงดับได้ แล้วเข้าในต่อ
จิตดับ ใจหยุดนิ่งสนิท
สุดคาดคิด ใจตกศูนย์
เคลื่อนไปได้ ใจแสนอบอุ่น
นี่หละคุณ ทางบุญ ทางประเสริฐ
เวทนา ความรู้สึกสุขทุกข์
อย่าพันผูก..ยึดติด
มีสักแต่มี เป็นสักแต่เป็น มีสติ
เอาใจไว้ที่ ในตน
เป็นหลวงพ่อดี ดีไปหมด
ไร้โกรธ ไร้ผิดหวัง
ทุกข์ก็ดีสุขก็ได้ ไม่ชิงชัง
ขันติตั้ง ได้สร้างบารมี
ตัณหาก็ดี ถ้าขันติตั้ง
ได้บารมีเป็นพลัง พลิกผันชีวิต
เป็นมนุษย์ จึงทำได้ สุดคาดคิด
ส่วนปุถุชน ไร้สิทธิ์ ด้วยมิจฉา
ศรัทธามา ด้วยมีกัลยามิตร
ชีวิต แสวงบุญสร้างบารมี
ปฏิบัติธรรม เลิศล้ำชีวี
เจริญสติ ทุกที่ ทุกอิริยาบถ
เราคือจิต บุญเป็นอัตตา
บุญเหมือนมารดา รักษาจิต
บาป มารร้าย อำมหิต
ล่อลวงจิต หลงเพลินเวทนา

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ประหยัดสุดประโยชน์สูง (มุ่งบำเพ็ญทาน) ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก ดียิ่งนัก มีแต่คนรักใคร่ แต่คนทั้งหลาย ไม่เข้าใจ ความรักใคร่ กินไม่ได้ ไม่ใช่เหรอ

 ประหยัดสุดประโยชน์สูง
(มุ่งบำเพ็ญทาน)

ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก
ดียิ่งนัก มีแต่คนรักใคร่
แต่คนทั้งหลาย ไม่เข้าใจ
ความรักใคร่ กินไม่ได้ ไม่ใช่เหรอ
ความรักใคร่ กินไม่ได้
แต่ใจเป็นสุข ด้วยบุญ
บุญคืออาหารทิพย์ ของเทวดานะคุณ
มีธาตุอจินไตย หนุน สุขสมปราถนา
มีเพื่อนรักใคร่ ใจท่านอบอุ่น
ใจไม่วุ่น ต่างจากเกลียดโกรธ
ใจเป็นสุข ปราโมทย์
การงานรุ่งโรจน์ ด้วยใจนุ่มรักงาน
คนใจนุ่ม คนรุมรัก
มีใจภักดิ์ อยากช่วยเหลือ
มีกำลังใจ อย่างเหลือเชื่อ
มีความเพียร ไม่เบื่อ เมื่อรักงาน
ทางพระ เรียกว่าฉันทะ
จะมีวิริยะ และจิตตะ
และท้ายสุด วิมังสา
ผลงานออกมา ปานเทวดาเนรมิตร
มีความสุขสำเร็จ ในการงาน
คนกล่าวขาน มีชื่อเสียง
มีบุญอยู่เบื้องหล้ง เป็นพี่เลี้ยง
เป็นตะเกียง ส่องทางสำเร็จ
การบำเพ็ญทาน งานชีวิต
บุญลิขิต ชีวิตสดใส
มิฉนั้น ก็จะเป็นบาปจัญไร
ชักใย เสือกไส ไปอบายภูมิ
 มีความรักใคร่ ใจใส ประหยัดสุด 
ประโยชน์สูง มุ่งบำเพ็ญทาน
เหมือนแม่น้ำใหญ่ ไม่เคยกันดาร
มหาชน สำราญ ด้วยแม่น้ำ
คนทั่วไป ทำงานด้วยตัณหา
ตอนแรกนั่นหนา ทำท่าจะดี
เหมือนไก่หลงเหยื่อ ลืมชีวี
เมื่อได้สติ คิดได้ ก็สายเกินแก้

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

รถด่วนสามขบวน (ไปสุดธรรม) สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้ สิ่งที่คิดไว้ เสียหายได้ ก็มี โภคะของบุรุษ หรือสตรี ไม่มี ที่สำเร็จได้ ด้วยนึกเอา

 รถด่วนสามขบวน
(ไปสุดธรรม)

สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้
สิ่งที่คิดไว้ เสียหายได้ ก็มี
โภคะของบุรุษ หรือสตรี
ไม่มี ที่สำเร็จได้ ด้วยนึกเอา
ด้วยสิ่งต่างๆ ภายนอก
ถูกตัณหาหลอก ดูเป็นจริงเป็นจัง
เล่นละครแท้ๆ กรรมวิบากสร้าง
เล่นเอาจริงเอาจัง จนกระทั่งลืมตัว
ตอนจะตายนั่นหละ จึงจะได้สติ
เป็นอย่างนี้ทุกที ทุกชาติ
จึงเวียนว่ายไม่หยุด น่าอนาถ
สรรพสัตว์ทุกข์หนัก น้ำตานอง
เป็นมิจฉาทิฏฐิ อันนี้หนัก
เหมือนจมปลัก ยากจะออก
ทำคนประมาท แม้บอกแล้วบอก
ยังรักจะเป็นวอก อยู่อย่างนั้น
พระผู้รู้ ตรัสรู้ ที่ผ่านมา
มากกว่า เม็ดทราย ในมหาสมุทร
กอบกู้ธรรมธาตุ อย่างสุดๆ
แต่สรรพสัตว์ มีไม่สิ้นสุด อจินไตย

หลวงปู่ฯ พระผู้ปราบมาร
จึงมุ่งมั่น สู่สุดธรรม
เป็นบ้าน ต้นตอ ของไอ้ดำ
มารระส่ำ กลัวล้ำ ธรรมกาย

รถด่วนสามขบวน ไปสุดธรรม
หลวงพ่อฯเลิศล้ำ ขบวนที่สาม
นำพาหมู่คณะ เร่งปฏิบัติธรรม
สร้างบารมีให้ฉ่ำ เพื่อปราบมาร

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

อดทนขันติ (ชีวีพลิกผัน) แม้มีปัญญารุ่งโรจน์ อย่างไฟ เมื่อไม่ได้อยู่ ในที่ของตน สติตั้ง มีขันติ จงอดทน ต่อคำคน ที่ขู่เข็ญ แม้เช่นทาส

 อดทนขันติ
(ชีวีพลิกผัน)

แม้มีปัญญารุ่งโรจน์ อย่างไฟ
เมื่อไม่ได้อยู่ ในที่ของตน
สติตั้ง มีขันติ จงอดทน
ต่อคำคน ที่ขู่เข็ญ แม้เช่นทาส

อยู่บ้านท่าน อย่านิ่งดูดาย
ปั้นวัวปั้นควาย ให้ลูกท่านเล่น
เป็นภาษิตโบราณ ท่านเห็น
ไม่ใช่เล่นๆ การเป็นผู้อาศัย
เป็นผู้อาศัย กินน้ำใต้ศอก
เป็นคนนอก ต้องเจียมตน
เป็นภรรยาน้อย ยอมอดทน
เจียมใจเจียมตน คนอาศัย
ไม่อวดดี ไม่อวดเก่ง ไม่อวดรู้
ความเป็นผู้..มาอยู่ใหม่
ถ่อมเนื้อถ่อมตน อดทนไว้
เออออเรื่อยไป ให้ความร่วมมือ
ควรพูดน้อยๆ ประนมกร
ไม่อวดดี ไปสอนไปสั่ง
คนอวดรู้ น่าเกลียดน่าชัง
แกล้งไม่รู้บ้าง ฟัง แล้วเออออ
แม้ได้ฟังคำ ที่ขัดหู
ก็ต้องอยู่ อย่างสงบ
อดทนอดกลั้น ดุจนักรบ
ใจเย็น สงบ สยบศัตรูกล้า
ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
เอาอย่างยายฯ ได้บารมี
อดทนเรื่อยไป พลิกผันชีวี
คุณธรรมขันตินี้ ดีที่หนึ่ง

;;;;;;;;;;