วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ชีวิตอันตราย (ถ้าไม่รู้เรื่องโลกและชีวิต) สิ่งที่ไม่รู้ไม่ได้ อันตรายอย่างยิ่ง นั่นคือ เรื่องจริง ของโลกและชีวิต ทำให้ไม่มัวเมา ได้คิด เดินทางถูกทางชีวิต ทางสมปราถนา

 ชีวิตอันตราย
(ถ้าไม่รู้เรื่องโลกและชีวิต)



สิ่งที่ไม่รู้ไม่ได้ อันตรายอย่างยิ่ง
นั่นคือ เรื่องจริง ของโลกและชีวิต 
 ทำให้ไม่มัวเมา ได้คิด
เดินทางถูกทางชีวิต ทางสมปราถนา

 โลก ตกอยู่ ในกฎไตรลักษณ์
เป็นสิ่งที่ไม่อาจจัก ยึดติดได้
ไม่เป็นแก่นสาร เกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป
เหมือนจะจับต้องได้ คล้ายกับ พยับแดด

โลกหรือโลกียะ มาพร้อมกับตัณหา 
หมู่สัตว์กระหายนักหนา อิ่มไม่เป็น
มัวเมาหมกมุ่น บ่อเกิด ทุกข์เข็ญ
ด้วยอวิชชาพาเป็น เช่นผงเข้าตา

โลก๓ สัตวโลก สังขารโลก โอกาศโลก
สัตวโลก คือใจหรือจิต
สังขารโลก คือสรรพสัตว์ ทุกชนิด 
โอกาศโลก ที่สถิตย์ ที่อยู่ของสรรพสัตว์

สัตวโลก หรือจิตใจ มันไม่เที่ยง
มันหันเหียน เปลี่ยนแปลง ปลิ้นปล้อน
ไร้สัจจะ ไร้ความแน่นอน
ที่ทุกข์ร้อน ก็ด้วยจิตนั้น มันไม่ใช่อัตตา

สังขารโลก กายสรรพสัตว์
ไม่ขาด ดินน้ำลมไฟ
ตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์ กฎใหญ่
ไม่มีอะไร เป็นแก่นสาร

โอกาศโลก หรือสิ่งแวดล้อม
ย่อมแน่นอน ทุกอย่างดับสูญ
ไม่มั่นคงถาวร เป็นปฏิกูล
สิ้นสูญ ย่อยยับ ไปกับเวลา

ชีวิต เป็นเรื่องใหญ่ ต้องรู้
 มีชีวิตต้องสู้ จึงจะอยู่รอด
 สู้ความทุกข์ยากลำบาก ให้ตลอด
ไม่ยอมแพ้ สู้ตลอด ไม่ทอดทิ้งความดี

มีชีวิตต้องสู้ อยู่อย่างมีอุดมการณ์ 
ด้วยกายมนุษย์นั้น สำคัญหลาย
แสวงบุญสร้างบารมี ให้สุดใจ
เป้าหมาย บรรลุให้ได้ พระรัตนตรัยในตัว

ชีวิตของคนทั่วๆไป ที่ไม่มีศรัทธา
แน่นักหนา ไปอบาย
รับกรรมวิบาก ทุกข์หนัก ปางตาย
นับกาลไม่ได้ อจินไตย เกินคิด

 แสวงบุญสร้างบารมี กรณียกิจ
ทางชีวิต ทางสายกลาง
ทานศีลภาวนา ทางสว่าง
ทางให้สุขสมหวัง มีพระรัตนตรัยอยู่ในตัว

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ให้อภัย (ลักษณะผู้ใหญ่ผู้ปกครอง) ให้อภัย ลักษณะผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง ปกป้อง คุ้มครอง ผู้น้อย ผู้ใหญ่ใจดี ไม่คอย เพ่งโทษผู้น้อย แต่คอย ดูแล

ให้อภัย
(ลักษณะผู้ใหญ่ผู้ปกครอง)

ให้อภัย ลักษณะผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง
ปกป้อง คุ้มครอง ผู้น้อย
ผู้ใหญ่ใจดี ไม่คอย
เพ่งโทษผู้น้อย แต่คอย ดูแล
 
ให้อภัยไม่ง่าย ใจ ต้องสูง
ไม่ยุ่ง ไม่มุ่งร้าย หมายขวัญ
ใจสงบ ไม่ขุ่นข้อง หมองใจกัน
แม้เขานั้น ทำร้ายฉัน ก็ตาม
ข่มใจตน อดทน คือคนชนะ
เป็นพ่อพระ ถ่อมตน คนยกย่อง
เหมือนเทวดา คนปราถนา เรียกร้อง
เสียงแซ่ซร้อง เทอดไว้ ในที่สูง
ควบคุมตนได้ ไม่ใช่ อ่อนแอ
ไม่เหมือนคนแก่ และ เด็กอ่อน
กล้าหาญ เสียสละ และอาทร
ละเอียดอ่อน ปัญญาไว ไม่ถือคนบ้าฯ
ไม่ลดตัว ทำชั่ว มัวทะเลาะ
หลวงพ่อดีน้อ รักษาธรรม นำชีวิต
กฎหมายประเพณี ศีลธรรมไม่อาจผิด
ทำชั่วแม้นิด มีสิทธิ์ ลงนรก
การต่อสู้ต้องอยู่ใน กฎกติกา
เมื่อชนะ โลกา สรรเสริญ
หาญกล้า พาไปสู่สุข และเจริญ
ผู้แพ้ กลับสรรเสริญ อย่างจริงใจ
มหาบุรุษ ผู้ยิ่งใหญ่ ในอดีต
ล้วนมีจิตให้อภัย ที่ใครๆ ล่วงเกิน
เรื่องส่วนตัววาง เรื่องส่วนกลางไม่เมิน
น่าสรรเสริญยิ่งนัก คนรัก ส่วนรวม
การให้อภัย สดใส ใจจาคะ
ได้เสียสละ ความโกรธออกจากใจ
เป็นสุขสดชื่น ชื่นมื่น สว่างไสว
น่าเคารพเลื่อมใส สุขใจ ที่ได้อยู่ร่วม

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

โภคทรัพย์ (สำหรับโลกนี้เท่านั้น) โภคทรัพย์ สำหรับโลกนี้เท่านั้น ตั้งสติให้มั่น เราอยู่โลกนี้ไม่นาน ไม่เกินร้อยปี แล้วก็กลับบ้าน แต่ปุถุชน ไม่คิดอ่าน เตรียมตัวตาย

 โภคทรัพย์
(สำหรับโลกนี้เท่านั้น)

โภคทรัพย์ สำหรับโลกนี้เท่านั้น
ตั้งสติให้มั่น เราอยู่โลกนี้ไม่นาน
ไม่เกินร้อยปี แล้วก็กลับบ้าน
แต่ปุถุชน ไม่คิดอ่าน เตรียมตัวตาย

บ้านที่จะกลับ โภคทรัพย์ไม่ใช้
สำคัญหลาย ใช้แต่ อริยทรัพย์
อริยทรัพย์ คือบุญ จงทราบ
กับบาป ตัวร้าย ตามไปล้างผลาญ
เวลา ที่อยู่ในโลกนี้
เปรียบกับเวลาที่ จะอยู่ในโลกหน้า
เปรียบปาน ฟองน้ำฝน เท่านั้นหละ
น้อยนักหนา เวลาในโลกนี้
ผู้ไม่แสวงบุญ จึงประมาท
เป็นธรรมชาติ ของปุถุชน
ขาดปัญญา ไม่รู้สา เพียงเป็นคน
น่าเสียดายล้น กายมนุษย์
ทุกสิ่งอย่าง หายวับ
เหมือนกับ พยับแดด กลางถนน
ไม่มีตัว ไม่มีตน
แต่ปุถุชน ก็หลงไหล คล้ายดูละคร
พระท่าน จึงว่า
โลกนี้หนา คือโรงละคร
เป็นกฎแห่งกรรม สะท้อน
พระท่านสอน ให้แสวงบุญสร้างบารมี
ทำพระนิพพานให้แจ้ง ฝึกตน
ฝึกฝน ทานศีลภาวนา
เดินทางธรรม เท่านั้นหนา
แล้วจะ สุขสมปราถนา ทุกภพชาติ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ความพร้อมเพรียง (ก่อเกิดสุข) ความพร้อมเพรียง ก่อเกิดสุข ภัยทุกข์ แพ้กำลังสามัคคี ในหมู่ ต้องมีผู้มีบารมี ในหมู่พาลี สามัคคี มีชั่วคราว

 ความพร้อมเพรียง
(ก่อเกิดสุข)

ความพร้อมเพรียง ก่อเกิดสุข
 ภัยทุกข์ แพ้กำลังสามัคคี
ในหมู่ ต้องมีผู้มีบารมี
ในหมู่พาลี สามัคคี มีชั่วคราว

เผด็จการ ปกครองกัน ด้วยความกลัว
ต้องมีรั้ว มีกำแพงกั้น
ไม่มีอิสระ ไม่มีแบ่งปัน
ต้องแยกเขี้ยว แยกฟัน เหมือนสัตว์

สามัคคีจะมีด้วย รักเคารพบูชา
ทานศีลภาวนา จึงต้องมี
เป็นการสละ ทรัพย์อวัยวะและชีวี
เพื่อหนี กิเลสตัณหา
ความเพียร พร้อมเพรียงกัน เกิดสุข
สนุก กับการทำความดี
เป็นแม่น้ำใหญ่ ไหลชุบชีวี
ของชาวบุรี ตลอดกาล
 จงเห็นความวิวาท เป็นภัย
ทำลาย ความพร้อมเพรียง
จงปรานีประนอม ไม่เกี่ยง
ไม่ทุ่มเถียง นี้เป็นพระพุทธานุศาสนี
พึงศึกษา ความสามัคคี
 อันท่านผู้รู้ดี ทั้งหลาย สรรเสริญแล้ว
ผู้ยินดีในสามัคคี เหมือนมีแก้ว
ย่อมไม่คลาดแคล้ว จากธรรมอันเกษม
ความพร้อมเพรียง ของหมู่ เป็นสุข
หมดทุกข์ มีสุขพร้อมหน้า
รวมทั้งผู้สนับสนุน อย่าสงกา
ย่อมไม่คลาดจากธรรมะ อันเกษม 

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

อยู่อย่างต่ำทำอย่างสูง (ชีวิตรุ่งเร็วแรง) อยู่อย่างต่ำ ทำอย่างสูง ชีวิตรุ่ง เร็วแรง สร้างบารมี บุญแสวง ทำให้แจ้ง พระนิพพาน

อยู่อย่างต่ำทำอย่างสูง
(ชีวิตรุ่งเร็วแรง)

 ความสุขสมปราถนา จะมี
เมื่ออยู่ถูกที่ ถูกทาง
เหมือนคนขายของ ที่สมหวัง
ขายดีจัง เมื่อถูกทางถูกที่
ทางธรรมทางบุญ ทางสมบัติ
สมบัติ แน่นขนัด อยู่ที่นี่
แต่ปุถุชน คนทั้งหลาย หน่ายหนี
แล้วจะมี สมบัติ ได้อย่างไร
นอกทางบุญ ได้ทรัพย์ปนกิเลส
เป็นอาเพท ตระหนี่ มีตัณหา
เป็นวิบัติ ขาดสุขและเมตตา
เป็นเพียงภาพมายา เหมือนว่าดูหนัง
ตอนใกล้ตาย จะเข้าใจดี
ตอนดีดีนี่ หัวแข็ง
คนมีศรัทธา บุญจึงแรง
ชีวิตมุ่ง บุญแสวง สร้างบารมี
 มีชีวิต จึงต้องยกจิตยกใจ
ให้สูงเข้าไว้ หนีกิเลสตัณหา
ด้วย ทานศีลภาวนา
สุขสมปราถนา มีมาง่ายๆ
เมื่อมีปัญหา ให้ชนะด้วยขันติ
ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
รักษา ทานศีลภาวนา ไว้
ทำเป็นสาย ชนะได้ ด้วยบารมี
อยู่อย่างต่ำ ทำอย่างสูง
ชีวิตรุ่ง เร็วแรง
สร้างบารมี บุญแสวง
ทำให้แจ้ง พระนิพพาน

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

สมณะ (ทหารกล้ากองทัพธรรม) สมณะ พึงเป็นสมณะที่ดี สมณะ พึงเป็นสมณะที่ดี มีกายวจี ใจ สงบ บำเพ็ญสมณะธรรม ครบ เป็นนักรบ แห่งกองทัพธรรม

 สมณะ
(ทหารกล้ากองทัพธรรม)


สมณะ ในศาสนานี้
ใช้ขันติ เป็นอาวุธ ประจำ
เป็นทหารกล้า กองทัพธรรม
ย่ำ ธรรมเภรี ปราบกิเลส


 บรรพชิต เบียดเบียน และฆ่า
 ไม่เรียกว่า สมณะ
เป็นนักบวช ธรรมดา
ไม่บำเพ็ญภาวนา สมณะธรรม

บรรพชิตผู้ไม่สำรวม ไม่ดี
การบวชนี้ ก็เพื่อที่ฝึกตน
การไม่สำรวมนั้น เพียงเป็นคน
ไม่ฝึกตน เพียงคนห่มเหลือง

ผู้ปราศจาก ทมะและสัจจะ
 ควรเลิกละ การครองจีวร
ยังประพฤติตน ประดุจหนอน
ยังอาลัยอาวรณ์ ในโลกโลกีย์
ผู้ประกอบด้วย ทมะและสัจจะ
 ควรครองผ้า กาสาวะ
เห็นโทษทัณฑ์ การอยู่ในโลกา
จึงครองผ้ากาสาวะ ตั้งหน้าฝึกตน
ฤษีทั้งหลาย มีสุภาษิตเป็นธงชัย
 ไม่มีธรรมะภายใน เป็นที่พึ่ง
ตั้งหน้าเผากิเลส ตะบึง
ยังรู้ไม่ซึ้ง ถึงพระรัตนตรัย
สมณะ พึงเป็นสมณะที่ดี
มีกายวจี ใจ สงบ
บำเพ็ญสมณะธรรม ครบ
เป็นนักรบ แห่งกองทัพธรรม

;;;;;;;;;;

อยากได้ลาภใหญ่ (ฝึกใจให้สันโดษ) ไม่ควรดูหมิ่น ลาภของตน ฝึกให้เป็นคน พอใจ นี้เป็น กุศโลบาย จะได้ลาภใหญ่ ในไม่ช้า

 อยากได้ลาภใหญ่
(ฝึกใจให้สันโดษ)

ความสันโดษ เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง
ใจนิ่ง ใจหยุด ที่สุดแห่งบุญ
สันโดษ พอใจ เราพอคุ้น
พอใจ ใจจึงหยุด ที่ศูนย์กลางกาย

บุญ อริยทรัพย์
เท่ากับ บ่อเกิดแห่งทรัพย์ทั้งหลาย
ทำชั่ว ได้ทรัพย์ แต่ไม่พอใจ
ยิ่งอยากได้หลาย เท่าใดก็ไม่พอ
ความสันโดษพอใจ ในที่มีที่ได้
 นำสุขมาให้ นั่นแหละใช่ บุญไหลมา
จิตเกิดเมตตา กรุณา
จึงสงเคราะห์ญาติกา บำเพ็ญทาน 
ความสงัด ของผู้สันโดษ
 มีดวงธรรมปรากฏ เห็นอยู่ นำสุขมาให้
ใจหยุด จึงเห็นได้
ความสุขหลั่งไหล มาพร้อมกับบุญ
บุญ เป็นสิทธิธาตุ
เป็นธรรมชาติ ของบุญ
ให้สุขสำเร็จ อุปถัมภ์ เกื้อกูล
บุญ ตรงข้ามกับบาป
ได้สิ่งใด ให้พอใจด้วยสิ่งนั้น
เป็นเงื่อนไขสำคัญ ของชีวิต
อย่าดูหมิ่น ว่าน้อยนิด
และอย่าคิด ในทางไม่ดี
ให้คิดอย่าง หลวงพ่อดี
อะไรก็ดี ดีดีทั้งนั้น
แม้ตกกระได ก็เหมือนกัน
หลวงพ่อท่าน ก็ยังว่าดี ได้ก้าวทีเดียว
ไม่ควรดูหมิ่น ลาภของตน
ฝึกให้เป็นคน พอใจ
นี้เป็น กุศโลบาย
จะได้ลาภใหญ่ ในไม่ช้า

;;;;;;;;;;