แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขสมปราถนา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สุขสมปราถนา แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ยกใจไม่ปล่อยให้ตก (หายโศก สุขสมปราถนา) สิ่งที่มี ที่เป็น ที่ได้ กรรมวิบากจัดให้ ทั้งนั้น จากอดีต อย่างน่าอัศจรรย์ ผลของกรรมปัจจุบัน ไม่ใช่

 ยกใจไม่ปล่อยให้ตก
(หายโศก สุขสมปราถนา)

สิ่งที่มี ที่เป็น ที่ได้
กรรมวิบากจัดให้ ทั้งนั้น
 จากอดีต อย่างน่าอัศจรรย์
 ผลของกรรมปัจจุบัน ไม่ใช่
กรรมวิบาก กำกับ คิดพูดทำ
เหมือนล้ำ กับการเล่นละคร
พระท่านจึงว่า โลกนี้กะล่อน
เป็นเพียงโรงละคร เท่านั้น

ปุถุชนไม่รู้ ถือเป็นจริงเป็นจัง
ไม่ยอมปล่อยวาง ไม่เลิกเล่น
ทางธรรม ทางชีวิตจริง ไม่เห็น
จึงเป็นเช่นแมงเม่า บินเข้าไฟ
ทางชีวิต มีชั้นระดับ นับไม่ถ้วน
เป็นกระบวน..ของใจ ที่ใสหรือหมอง
กฎแห่งกรรม นำวิบาก มาสนอง
บุญบาป จึงเกี่ยวข้อง โดยตรง
ชั้นระดับของใจ ใช่ ภูมิหรือมิติ
ชั้นวัฏฏะ แบ่งไว้หยาบๆ มี ๓๑ภูมิ
ตามหมองใส ของใจ เป็นกลุ่ม
แต่จริงๆแล้ว ใจลุ่ม..ลึก ละเอียด
 ชั้นของใจ จะไม่คงที่
ขึ้นกับบุญบาป ที่มีในปัจจุบัน
สุขทุกข์ มีวิบาก เป็นรางวัล
บัณฑิตผู้รู้ทัน จึงแสวงบุญ
รักษาใจ ให้ผ่องใส
ยกใจ..ไว้เสมอ ไม่ปล่อยให้ตก
หนีจากตัณหา โลกีย์โลก
หายโศก หายเศร้า สุขสมปราถนา

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2567

รักเคารพบูชา (สุขสมปราถนาชีวิต) ความรัก ความเคารพ การบูชา หรีอ ทานศีลภาวนา ทางชีวิต เป็นทางธรรม ทางบุญ กรณียกิจ สมบัติสามตามติด สุขสมปราถนา

 รักเคารพบูชา
(สุขสมปราถนาชีวิต)

ความรัก ความเคารพ การบูชา
หรีอ ทานศีลภาวนา ทางชีวิต
เป็นทางธรรม ทางบุญ กรณียกิจ
สมบัติสามตามติด สุขสมปราถนา

บำเพ็ญทาน ก็ด้วยมีความรัก
สุขยิ่งนัก เมื่อได้อนุเคราะห์ สงเคราะห์
การทำทาน ขจัดตระหนี่ จึงเหมาะ
เป็นการก่อ ความรัก ความใจกว้าง
 
ความเคารพ สำรวมกายวาจา
ด้วยตระหนักว่า เขามีความดีอยู่
สงบเสงี่ยมงาม น่าดู
มีศีล จึงเป็นผู้ ที่มนุษย์และเทวดารักษา
 
ผู้มีศีล มีใจสดใส
ด้วยเอาใจ จับดี เป็นประจำ
ผิวพรรณผ่องใส มารยาทงาม
มีอานุภาพล้ำ ศีลบารมี
การบูชา ผูกใจไว้ที่สูง
มีศรัทธาจูง ใจ ไม่ไปไหน
หยุดนิ่ง ปีติยิ่ง อยู่ภายใน
อานุภาพยิ่งใหญ่ อจินไตยเลยทีเดียว
ปฎิบัติบูชา ภาวนา สวดมนต์
มหากุศล อุดมภ์การชีวิต
แผ่บารมี สุขทั้งตน และญาติมิตร
ชนทั่วทิศ แซ่ซร้องบูชา

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2567

จิตชื่นฉ่ำ (ย่อมนำความสุขสม) พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด ที่บ้านที่ป่า ที่ลุ่มที่ดอน ก็ตาม ด้วยจิตของท่าน ชื่นฉ่ำ ที่นั้นๆ ย่อมดื่มด่ำ น่ารื่นรมย์

 จิตชื่นฉ่ำ
(ย่อมนำความสุขสม)

พระอรหันต์ทั้งหลาย อยู่ในที่ใด
ที่บ้านที่ป่า ที่ลุ่มที่ดอน ที่ไหนก็ตาม
ด้วยจิตของท่าน ชื่นฉ่ำ
ที่นั้นๆ ย่อมดื่มด่ำ น่ารื่นรมย์
คนเหล่าใด รู้ความตาย อยู่ใกล้
ยังอาลัย ประมาทอยู่
ย่อมมี ทุคติ ไปสู่
ย่อมเป็นผู้ เศร้าโศกสิ้นกาลนาน

โจรผู้ชั่วช้า ถูกจับได้
เดือดร้อนใหญ่ เพราะกรรม ของตน
 คนผู้ละไปแล้ว เดือดร้อน คือปุถุชน
เพราะวิบากกรรมของตน ในโลกหน้า

ผู้หยิ่ง เพราะชาติทรัพย์สกุล
ใจขุ่น ย่อมดูหมิ่นญาติของตน
ขาดบำเพ็ญบุญ การกุศล
หนีไม่พ้น ความเสื่อม 


เราเรียก ผู้ไม่เยื่อใยในกาม
ใครก็ตาม เป็นท่าน ผู้สงบ
เครื่องร้อยรัดของเขา ถูกลบ
 ตัณหาถูกกลบ จึงไม่ว้าวุ่น

ถึงเป็นคนมีเดช มีปัญญามาก
 มีคน สักการะ บูชา

แต่อยู่ในอำนาจของสตรี จึงเสียท่า
เหมือนจันทรา 
ถูกราหูบังฉะนั้น

สัตบุรุษ ปรากฏได้ ในที่ไกล
 เหมือนภูเขาใหญ่ หิมพานต์

ส่วนอสัตบุรุษ
ไม่ปรากฏ แม้ใกล้กัน 
เป็นลูกศรก็ปาน ที่ยิงไป ในกลางคืน

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2567

เป็นคนดี (มีสุขสมปราถนา) คนดี มีสุข สมปราถนา ด้วยว่า คนดี มีน้ำใจ ใจจึงไม่แห้ง ไม่เหี่ยวซึมเซ็งได้ มีใจสดใส ปีติใจเสมอ

 เป็นคนดี
(มีสุขสมปราถนา)

คนดี มีสุข สมปราถนา
ด้วยว่า คนดี มีน้ำใจ
ใจจึงไม่แห้ง ไม่เหี่ยวซึมเซ็งได้
สดใส ปีติใจเสมอ

น้ำใจ เกิดจากการให้ การสละ
เพื่อดับ ตัณหา อุปาทาน
ดับความตระหนี่ ยึดมั่น
ดับตัวกลั่น ความกระหายอยาก 
คนดี มีการบำเพ็ญทาน
แม่นมั่น ประพฤติธรรม
และสงเคราะห์ญาติ ติดตาม
สำคัญล้ำ ทำงานไม่มีโทษ
คนดี มีน้ำใจ จึงมีความอดทน
เป็นคน ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
ไม่ก่อบาป หยาบช้า ทั้งหลาย
พาลีพ่าย ด้วยบารมี
ส่วนคนไม่ดี แล้งน้ำใจ
ใจแห้งเหี่ยว กระวนกระวาย เป็นทุกข์
กระหายอยาก จมปลักความสนุก
กลบทุกข์ ด้วยบาปหยาบช้า
คนไม่ดี หนีทุกข์ไม่พ้น
ปุถุชน หนีไม่พ้นกรรม
เมื่อถึงเวลาสุก ทุกข์ก็กระหน่ำ
หัวขมำ ตายทั้งเป็น
ชีวิต มีกฎแห่งกรรม
เป็นธรรมชาติ ธรรมดา
คนดีเท่านั้น สุขสมปราถนา
จงทุ่มชีวา บำเพ็ญทาน ประพฤติธรรม

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2566

สุขสมปราถนา (รักษาขันติ) ใจไม่หนักแน่น คนใจเบา โง่เขลา ประทุษร้ายมิตร ประพฤติกลับกลอก เป็นนิตย์ ชีวิต ย่อมไม่มีความสุข

 สุขสมปราถนา
(รักษาขันติ)

 ใจไม่หนักแน่น คนใจเบา
โง่เขลา ประทุษร้ายมิตร
ประพฤติกลับกลอก เป็นนิตย์
ชีวิต ย่อมไม่มีความสุข

ใจลอยได้ ไปตามอารมณ์
โง่บรม ปล่อยใจ ปล่อยทารก
ไร้มารดา คอยรักษา ตลก
ปุถุชน ซกมก ดูตลกเช่นนั้น
ทำอะไรตามใจ ทำร้ายมิตร
ไม่คิด ถึงจิตใจคนอื่น
เอาแต่ใจตน ระเริงรื่น
สุดขมขื่น คือมารดาบิดา

ครอบครัว ไม่อยู่เย็นเป็นสุข
นำทุกข์ และเดือดร้อนมาสู่
ขาดสติ ดีไม่ดี ไม่รู้
เอาแต่อารมณ์ของกู เป็นใหญ่

คนใจเบา นั้นร้าย ไร้ขันติ
ระเริงโลกีย์เต็มที่ หลงเหยื่อมาร
อะไรควรไม่ควร ไม่อดกลั้น
ผิดถูกช่างมัน ไม่สน
ขาดขันติ มีชีวีไหลตามน้ำ
ไหลตาม กระแสกิเลสกรรมวิบาก
ไหลลงต่ำ ตามชนหมู่มาก
สงสารนัก จมปลัก อบายภูมิ
คน กับมนุษย์ ต่างกัน
มนุษย์ ยึดมั่น ขันติธรรม
มีใจหนักแน่น ไม่ล่องลอยตามกรรม
ฝึกสติเป็นประจำ กรณียกิจ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สุขสมปราถนา (เมื่อได้พบกัลยาณมิตร) รูปโฉม ลวงคนโง่ ได้ คนที่ใจไม่ใส ไร้สติ ไม่รักษาใจ..ไว้ในตัวให้ดี ปุถุชนนี้ ใจมี..กิเลสตัณหา

 สุขสมปราถนา
(เมื่อได้พบกัลยาณมิตร)

รูปโฉม ลวงคนโง่ ได้
คนที่ใจไม่ใส ไร้สติ
ไม่รักษาใจ..ไว้ในตัวให้ดี
ปุถุชนนี้ ใจมีกิเลสตัณหา

กิเลสตัณหา พาหลงโลกโลกีย์
ที่มี..กระแส กิเลสกรรมวิบาก
 กฎแห่งกรรม กฎไตรลักษณ์
ทำโลก ให้เป็นสัก โรงละคร
รูปโฉม..จะเก้อ
เมื่อเจอ คนแสวงหา พระนิพพาน
เป็นคนถอนตน พ้นมาร
พ้นวัฏฏสงสาร เวียนว่าย
ความหลงไหล ใจตกปลัก
สุดยาก จะออกจากปลักตัณหา
ปลาคุ้นน้ำ หนอนคุ้นอุจจาระ
หรือสุนัข หมา คุ้นอาจม
โลกต้องการ กัลยาณมิตร
นำพาสู่ทิศ พระรัตนตรัย
มีอานุภาพ ปราบมารในใจ
มหาชนเลื่อมใส ศรัทธา
กัลยาณมิตร พาชีวิตพลิกผัน
อดทนอดกลั้น กระสันอยาก
สันโดษสมถะ ตระหนัก
สว่างยิ่งนัก ปัญญา
ออกจากตัณหาได้ กายเบาใจเบา
ไม่เหมือนเก่า เป็นคนใหม่
เป็นอิสระเสรี สว่างไสว
สุขกายใจ สดใส สมปราถนา

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ผู้ไม่ประมาท (ทุกภพชาติสุขสมปราถนา) ความไม่ประมาท ธรรมชาติไม่ตาย บุญไหลมาเป็นสาย ให้ความคุ้มครอง รู้จักอดทนอดกลั้น ภัยทั้งผอง บารมีคุ้มครอง ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป

 ผู้ไม่ประมาท
(ทุกภพชาติ
สุขสมปราถนา)


ความไม่ประมาท ธรรมชาติไม่ตาย
บุญไหลมาเป็นสาย ให้ความคุ้มครอง
รู้จักอดทนอดกลั้น ภัยทั้งผอง
บารมีคุ้มครอง ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป

ปราชญ์ จะรักษาความไม่ประมาทไว้
คล้าย ทรัพย์ประเสริฐสุด
คือรักษาสติ ไม่ให้หลุด
ทำใจนิ่งใจหยุด อยู่ในตน

บัณฑิต ย่อมมีจิต สรรเสริญ
ดีเหลือเกิน ความไม่ประมาท
 มีปัญญา มีศรัทธา พระศาสน์
สมารถ..รักษาตน พ้นอบาย

บัณฑิต ย่อมบันเทิง ร่าเริงใจ
ได้ปีติหลาย ในความไม่ประมาท
รักษาสติไว้ในตน คนไม่คาด
ได้สุขสมมาด มาง่ายๆ

ผู้ไม่ประมาท ธรรมชาติ ไม่ตาย
คือไม่หน่าย ในบุญ คุณความดี
ผู้ประมาท เหมือนตาย จากโลกนี้
เป็นโลกที่ แสวงบุญสร้างบารมีได้

ผู้ไม่ประมาทพินิจ กิจวัตรของตน
ย่อมปีติล้น เข้าถึงสุขอันไพบูลย์
เป็นสุขที่ยิ่งใหญ่ แสนอบอุ่น
บุญเกื้อหนุน ชีวิตปลอดภัย

บัณฑิตผู้ไม่ประมาท เป็นธรรมดา
มีบุญตามรักษา ทุกชาติภพ
 เหมือนอยู่บนเรือใหญ่ ภัยใดๆไม่ประสพ
สุขสมปราถนา ทุกภพ ทุกชาติ

;;;;;;;;;;  

วันพฤหัสบดีที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สุขสมปราถนา (เป็นชื่อบุญญานั่นเอง) ท่านผู้ไกลกิเลสนี้ สุขีจริงหนอ รู้จักเพียงพอ ก็สุขได้ มีสันโดษสมถะ เป็นหัวใจ รู้จักใช้จ่าย ประหยัดสุด ประโยชน์สูง

 สุขสมปราถนา
(เป็นชื่อบุญญานั่นเอง)


ท่านผู้ไกลกิเลสนี้ สุขีจริงหนอ
รู้จักเพียงพอ ก็สุขได้
มีสันโดษสมถะ เป็นหัวใจ
รู้จักใช้จ่าย ประหยัดสุด ประโยชน์สูง 

ผู้มีห่วงกังวล ย่อมวุ่นวายอยู่
ด้วยเป็นผู้ ไม่รู้จักทาน การกุศล
เป็นคนตระหนี่ มีทรัพย์ หวงทรัพย์ล้น
จึงกังวล นอนไม่หลับ

ตราบใด ที่ยังคาบชิ้นเนื้อ แม้น้อยนิด
ก็ยังถูกกลุ้มรุม จากทุกทิศ ยื้อแย่ง
มีทรัพย์ เพื่อเก็บกัก ไม่แบ่ง
เป็นสิ่งแสลง แทงใจคน

ได้ลาภเสื่อมลาภ..ฯ เป็นธรรมดา
แล้วจะมัวมา..โศกา อยู่ทำไม
ก็ด้วยความตระหนี่ มีมากหลาย
คลายไม่ได้ ถ้าไม่รู้จักทาน

ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี
เป็นเศรษฐี ก็หามีความสุขไม่
มีทรัพย์ เก็บกัก ไม่รู้จักให้
ทำทาน สำคัญหลาย ใจสงบสุข

ทรัพย์ คือเครื่องปลื้มใจ เมื่อได้ทาน
ส่วนเก็บกักไว้นั้น ตระหนี่
ใจหวง ห่วงทรัพย์ สติหนี
แล้วมันจะมี..ความสุข ได้อย่างไร

สันโดษสมถะ ใจจึงจะเป็นสุข
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง มุ่งแสวงบุญ
ขจัดกิเลสตระหนี่ หนีโลกีย์ที่คุ้น
เข้าสู่เส้นทางบุญ ทางสุขสมปราถนา

;;;;;;;;;;