วันพุธที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2564

อยู่ในคุกประหาร (ยังเบิกบานกันอยู่ได้) ชีวิตคือการเดินทางขึ้นสูง หมายมุ่ง พระนิพพาน แต่คนส่วนใหญ่นั้น ไหลลงต่ำ ตามกันเหมือนน้ำ ตามกระแส กิเลสกรรมวิบาก ชักนำ ทุกข์กระหน่ำ ดำดิ่ง ในวัฏฏสงสาร

 อยู่ในคุกประหาร
(ยังเบิกบานกันอยู่ได้)

ชีวิตคือการเดินทางขึ้นสูง หมายมุ่ง พระนิพพาน
 แต่คนส่วนใหญ่นั้น ไหลลงต่ำ ตามกันเหมือนน้ำ
ตามกระแส กิเลสกรรมวิบาก ชักนำ
ทุกข์กระหน่ำ ดำดิ่ง ในวัฏฏสงสาร

วัฏฏสงสาร ก็คือคุกประหาร นั่นเอง
คนเก่งๆ มีน้อยนัก ที่จะออกจากคุกนี้ได้
ด้วยพญามาร ใช้อวิชชา ปิดบังตาไว้
สั่งสอนไม่ได้ ดื้อหลาย บอกเท่าไหร่ๆ ก็ไม่เชื่อ

ทางสายกลาง เอกานยมรรค ทางออกจากวัฏฏะ
เป็นทางเอกะ อริยมรรค สายเดียว
ผ่านศูนย์กลางกาย ภายในตน คนไม่เฉลียว
เหมือนหญ้าปากคอก นั่นเทียว วัวควายไม่เหลียวแล

วัฏฏสงสาร มีทั้งหมดด้วยกัน 31 ภูมิ
แบ่งเป็นสองกลุ่ม สุคติ กับทุคติ
สวรรค์6 รูปพรหม16อรูปพรหม4 และมนุษย์ภูมิ1 คือสุคติ
ส่วนทุคติ อบายภูมิ4 นั่นเอง

ใน31ภูมินี้ มีเพียงภูมิมนุษย์ ดีสุด แสวงบุญได้
นอกนั้นโชคร้าย เสวยผล ได้อย่างเดียว
เหมือนชาวนา เลิกทำนา เอาแต่เล่นแต่เที่ยว
มีมนุษย์ภูมิ ภูมิเดียว ที่ทั้งแสวงบุญและเสวยผล

บนสวรรค์ สุขสำราญ ด้วยเสวยผลบุญอย่างเดียว
เมื่อบุญหมดหน้าเขียว วิบากกรรมเหนี่ยว ลงอบาย
เหล่าเทวดา อิจฉา เหล่ามนุษย์ที่แสวงบุญได้
หิวกระหาย..บุญนัก ด้วยไม่อยากไปทุคติ

 ภูมิมนุษย์ก็อายุน้อยเหลือใจ คล้ายฟองน้ำฝนฟองหนึ่ง
เมื่อเทียบกับฟองน้ำฝน ซึ่ง ตกทั่วจักรวาล
น่าประหลาดใจ ที่ต่างกันไกล ปานนั้น
ก็ด้วยพญามารกีดกัน การแสวงบุญ สร้างบารมี

วัฏฏสงสาร คุกประหาร ยากแก่การหลบหนี
เนื่องด้วยมี วัฏฏะ กิเลสกรรมวิบาก สุดยากจะออก
เพราะมีตัณหา ความทยานอยาก ยากจะสำรอก
ใจคนชอบออก อยู่ภายนอก ตามอารมณ์โลภโกรธหลง

ใจขาดสติ นี้คือเหตุใหญ่ ใจไม่อยู่ในตัว
ใจจึงมืดมัวซัว ด้วยกิเลส เหตุ
ก่อกรรมวิบาก
เป็นวัฏฏะ วนไปมา ซ้ำซาก
ยิ่งนาน กิเลสยิ่งมาก ทับทวี

ใจจะมีสติ ต้องมีกัลยาณมิตร ผู้ประเสริฐ
ที่มีบารมีเลิศ ก่อเกิดศรัทธา
มหาปูชนียาจารย์ ทุกท่านไม่ธรรมดา
ท่านลงมา ปราบมาร โดยเฉพาะ

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2564

รักแท้ (มีแต่ในพ่อแม่เท่านั้น) การครองเรือนนี้ ต้องมี ฆราวาสธรรม พระไม่ได้ห้าม แต่ต้องย้ำ การมีธรรมะ ขอให้มีสติ มีรักแท้ และมีสัจจะ จริงจังจริงใจ ไม่เลิกลา ตราบฟ้าดินสลาย

รักแท้
(มีแต่ในพ่อแม่เท่านั้น)
การครองเรือนนี้ ต้องมี ฆราวาสธรรม
พระไม่ได้ห้าม แต่ต้องย้ำ การมีธรรมะ 
ขอให้มีสติ มีรักแท้ และมีสัจจะ
จริงจังจริงใจ ไม่เลิกลา ตราบฟ้าดินสลาย
สัจจะธรรม มีอานุภาพล้ำ นำสุขสมปราถนามาให้
คุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ ครองใจคน
ได้ลาภยศ ปรากฏนาม ในปวงชน
บุญท่วมท้น ขจัดบาปอกุศล พ้นภัยทั้งปวง
จริงใจต่อตน ต่อทุกคน ต่อคุณงามความดี
จะได้อย่างนี้ จะต้องมีใจศรัทธา
เดินตามทางสายกลาง ทานศีลภาวนา
ที่สำคัญนักหนา คือสัมมาสมาธิ
สัมมาสมาธิ เอาสติไว้ในตน
วิตกวิจาร สำคัญล้น อยู่ภายใน
เอาใจมาอยู่ แล้วหยุด สดุดลมหายใจ
ใจโล่งโปร่งสบาย ปีติสุข
ความสุขใจนี้ จะมีมา พร้อมกับรักแท้
กตัญญูต่อพ่อแม่ เป็นเบื้องต้น 
รักครอบครัว ได้สติ มีความอดทน
ไม่ปะปนเกลือกกลั้ว กับคนชั่วคนพาล
 กตัญญู น้อยคนรู้ ความยิ่งใหญ่
รักษาได้ สบาย ทุกชาติ
เป็นบารมี แสนสุดดี สุขสมมาด
ภัยใดใด ไม่อาจ ทำร้าย
ชิงสุกก่อนห่าม ก่อกรรม กิเลส
 เป็นเหตุ ก่อปัญหา พาทุกข์
ผู้ไม่รู้ นึกว่า แสนสนุก
 แสนสุข แสนสบาย คล้ายๆหนอน
 รักแท้ ได้แก่ เสียสละ
ไม่หวังจะ สมมาด ปราถนา
ขอแต่เพียง ให้เขา สุขอุรา
ส่วนเรา นั่นหนา ไม่เป็นไร
 รักแท้ มีแต่ พ่อแม่ 
สุดยากแท้  มีอยู่ ในผู้อื่น
อยากลองรัก เตรียมอกหัก ไม่ฟื้น
เจ้าจงตื่น ได้สติ อย่าริรัก
วันวาเลนไทน์ ควรใช่ วันรักแท้
มอบให้แก่ พ่อแม่ จะดีกว่า
สั่งสม คุณธรรม กตัญญุตา
สุขสมปราถนา จึงจะมา สู่ชีวิต

;;;;;;;;;;;


วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2564

สวดมนต์เป็นประจำ (สุขสมปราถนาล้ำ ตลอดกาล) สวดมนต์ เปี่ยมล้น อานิสงส์ บูชา พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ พระรัตนตรัย ได้ที่พึ่งประเสริฐ เลิศดี ยิ่งใหญ่

สวดมนต์เป็นประจำ
(สุขสมปราถนาล้ำ ตลอดกาล)
สวดมนต์ เปี่ยมล้น อานิสงส์
บูชา พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ พระรัตนตรัย
ได้ที่พึ่งประเสริฐ เลิศดี ยิ่งใหญ่ 
 สุขสมปราถนาตลอดไป นิรันดร์กาล
อานุภาพพระรัตนตรัย ไม่มีประมาณ
เพียงศรัทธามั่น สวดมนต์ทุกวัน สม่ำเสมอ
ผูกใจ ไว้ที่สูง ชีวิตรุ่งเรือง เลิศเลอ
นี่แหละเธอ ชีวิตง่ายๆ ใครๆคิดไม่ถึง
  ศรัทธา จึงเป็นอริยทรัพย์
ใจสว่างวาบวับ เมื่อมีศรัทธา
มีอานุภาพ ให้สมบัติสาม สุขสมปราถนา
การสวดมนต์บูชา จึงไม่ธรรมดา..เลยจริงๆ 
สวดมนต์ทุกวัน สำคัญ คล้ายน้ำไหลหยาดหยด
 ธรรมชาติ มีปรากฎ เป็นหินย้อย
เพดานถ้ำ แสนงาม เลิศลอย
ทำบุญทีละน้อย งามหลาย ได้บารมี
 สวดมนต์ อวัยวะน้อยใหญ่ ได้ใช้ทำความดี
อวัยวะเหล่านี้ ย่อมเต็มที่ สมบูรณ์เลิศ
   ความไม่โรค เป็นลาภอันประเสริฐ 
ชีวิตบันเจิด เลิศล้ำ ด้วยสวดมนต์
เสียงสวดมนต์ เป็นกระแส แผ่กระจาย
เทวาเทพไท้ ชอบใจนัก ลงรักษา
 คอยอุปถัมภ์ ค้ำจุน ดุจดั่งมารดา
จึงมีแต่สุขสมปราถนา ชีวาเจริญ
พระรัตนตรัย อจินไตย ใครคิดไม่ถึง
อันเป็นที่พึ่ง ซึ่งสิงอยู่ภายใน กายของทุกคน
 เป็นพระธรรมกาย สว่างไสว อยู่ในตน
เปล่งเสียงสวดมนต์ ขจัดปัญหานานา ในชีวิต
สวดมนต์ไหว้พระ สัลเลขะ ธรรม
เหมือนอาบน้ำ  ยาม จะเข้านอน
 ชำระใจ ให้ใส ให้ตกตะกอน
ความทุกข์ร้อน หนีหาย หลับได้ฝันดี

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2564

เสร็จนาฆ่าโคถึก (คนพาล กว่าจะนึกได้ ก็สายแล้ว) สติดี มีใจใส ไม่ประมาท สายบุญไม่ขาด ขจัดบาป อกุศล

เสร็จนาฆ่าโคถึก
(คนพาล กว่าจะนึกได้ ก็สายแล้ว)

สติดี มีใจใส ไม่ประมาท
สายบุญไม่ขาด ขจัดบาป อกุศล
 ทานศีลภาวนา เป็นมรรคา หลุดพ้น
เมื่อมีทุกข์ทน ขันติมาเสริม เพิ่มพูนบารมี
ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย กลายเป็นอมตะ
พ้นบ่วงมารา พ้นวัฎฎะ ไม่ต้องเวียนว่าย 
พ้นกฎแห่งกรรม พ้นกฎไตรลักษณ์ ของมารร้าย
บรรลุธรรม อำไพ เป็นพระอรหันต์
ปราชญ์ย่อมรักษา ความไม่ประมาท สุดชีวี
คือรักษาสติ เหมือนมี ทรัพย์ประเสริฐสุด
เหมือนจามรี รักษาขนหาง ไม่ให้หลุด
ยอมหยุด ยอมยั้ง ยอมกระทั่งสละชีวิต
ยศย่อมเจริญแก่ผู้ รู้จักขยัน อย่างมีสติ
อันมีการงานสะอาดดี ที่ใคร่ครวญดีแล้ว ระวังดีแล้ว จึงทำ
รักษาความไม่ประมาท ยืนหยัด อยู่ในธรรม
ธรรมย่อมค้ำ ย่อมรักษา ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ
กามคุณ เสนาใหญ่ ของฝ่ายมาร
สะทกสะท้าน เมื่อพบพาน สติ
ความมัวเมาหาย จิตแจ่มใส ขึ้นมาทันที
 สติสัมปชัญญะ นี้ มีอุปการะยิ่ง  
สติดี มีใจหยุดนิ่งที่ ศูนย์กลางกาย
ความมืดสลาย หายไป ความสลัว
  โล่งโปร่ง เบาใจ สะบายตัว
ความเกลียดกลัว เมามัวหาย ใจปีติ 
สัมมาสติ มีอยู่ที่ ศูนย์กลางกายเท่านั้น  
จงเชื่อมั่น ที่อื่นนอกนั้นไม่ใช่ ไปศึกษา 
อย่าเชื่อง่ายๆ จงสนใจ อย่าหลบหูหลับตา
บัณฑิตา คนกล้า ให้มาพิสูจน์  
พุทธศาสนา เป็นวิชชา วิทยาศาสตร์
 สามารถ เข้าถึง ซึ้งคำสอน
 ตนเป็นที่พึ่งของตน อย่างแน่นอน
นั่นคือสอน ให้พึ่งพระรัตนตรัย ภายในตัวนั่นเอง  
ฤทธิ์เดช ขาดศีล เป็นมิจฉา  
ระวังหนา พญามาร  ส่งมาให้
เป็นเหยื่อล่อ ตะขอเบ็ด อันตราย
 หมดทางใช้ โคถึกถูกลากไป ลงนรก

;;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2564

ความสามัคคีหมู่คณะ (พาเกิดสุข) ความสามัคคี ของหมู่คณะ มีพละทรงพลัง มีอานุภาพยับยั้ง โจมจู่ ของศัตรูได้ แว่นแคว้น หมู่คณะ อยู่เย็นเป็นสุข ไร้ทุกข์ภัย ศาสนาว่าไว้ สุขาสังฆัสสะ สามัคคี

ความสามัคคีหมู่คณะ
(พาเกิดสุข) 
ความสามัคคี ของหมู่คณะ มีพละทรงพลัง
 มีอานุภาพยับยั้ง โจมจู่ ของศัตรูได้
 แว่นแคว้น หมู่คณะ อยู่เย็นเป็นสุข ไร้ทุกข์ภัย
ศาสนาว่าไว้ สุขาสังฆัสสะ สามัคคี
 ประชุมเนืองนิตย์ ร่วมคิด ร่วมสร้าง
สามัคคี จึงจะหวัง ยั่งยืนได้
ใจเป็นหนึ่ง ร่วมแรง ร่วมใจ
ปัญหาน้อยใหญ่ ไม่ครนา 
รับประทานร่วมกัน ขบฉัน อย่างมีสติ
 เมตตาปราณี ถ้อยที ถ้อยอาศัย
พร้อมหน้า ร่วมกัน ทุกวันไป
ใจสดใส คณะสดสวย ด้วยไมตรี
กินอาหาร พร้อมเพียง นั่งเรียงหน้า
ผู้นำนั่งสง่า กล่าววาจา ปฏิสันถาร
ใครมีอะไร พูดออกไป เข้าใจกัน
 ตั้งใจมั่น สมาน สามัคคี
ความสะอาด ระเบียบ เนียบมารยาท 
  ไม่ขาด ตรงเวลา และสมาธิ
 ไม่ปล่อย คอยเอาใจใส่ ไว้ให้ดี
หัวหน้ามี ทำดี เป็นตัวอย่าง

 
 
ความสามัคคี จะมีได้ ต้องมีไว้ กฎระเบียบ
 ตายเรียบ ผิดระเบียบ ตายทั้งหมู่
รวมกันได้ ด้วยวินัย เราอยู่
วินัย รักษาหมู่ ให้คงอยู่ คู่ฟ้า
สามัคคี มีได้ด้วย ผู้นำดี
 มีศักดิ์ศรี ดูดี น่าเคารพนบไหว้
 บริวาร ยอมกราบกราน ด้วยใจ
อย่าใช้ แต่พระเดช เหตุแตกร้าว
หมู่คณะที่ดี สมาชิกมี สันโดษ
ไม่โกรธ ไม่น้อยใจ ในวาสนา
กินใช้พอดี มุ่งไปที่ ธรรมา
แสวงบุญญา มานะ สร้างบารมี
 ใจกว้าง เผื่อแผ่ แก่ผู้อยู่ไกล
 ญาติทั้งหลาย ไกลใกล้ มีไมตรี
คิดถึงเสมอ อยากเจอ เหลือที่
สามัคคี ของหมู่คณะ พาเกิดสุข

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2564

สวยจับใจ (ด้วยมีวินัยงาม) วัชพืช กับหญ้า คนละอย่าง แม้ต่างก็เป็นหญ้า ลักษณะ เดียวกัน เพียงอยู่ถูกที่ มีวินัย เท่านั้น ต่างกันหลาย คล้าย ฟ้ากับเหว

สวยจับใจ
(ด้วยมีวินัยงาม)
วัชพืช กับหญ้า คนละอย่าง
 แม้ต่างก็เป็นหญ้า ลักษณะ เดียวกัน
เพียงอยู่ถูกที่ มีวินัย เท่านั้น
ต่างกันหลาย คล้าย ฟ้ากับเหว
หน้าตาเป็นมนุษย์ แต่เพียงเป็นคน ด้วยมีกิเลสปนหนา
เหมือนกันเพียงกายา และมีธรรมดา กินนอนถ่ายสืบพันธุ์
แต่ว่าใจ ต่างกันไกล เหมือนฟ้ากับเหว อย่างนั้น
มนุษย์มีศรัทธามั่น และมีคุณธรรมสำคัญ มนุษยธรรม
มนุษยธรรม คือศีลห้า ธรรมดาๆ ในสายตาคนทั่วไป
พระพุทธองค์ไท้ ตรัสว่า ศีลนั้นหละยิ่งใหญ่ เป็นเยี่ยมในโลก
ศีลเป็นอริยะวินัย พาให้พ้นอันตราย พ้นทุกข์โศก
ไม่ไปนรก ไม่ตกอบาย
ผู้ไม่มีศีล แม้อยู่สิ้นร้อยปี 
ก็ไม่อาจที่ เทียบเท่าผู้มีศีล แม้อยู่สิ้น วันเดียวเท่านั้น
ศีลที่บริสุทธิ์ดีแล้ว จะพาแคล้วบ่วงมาร
นำพาสุขสำราญ มาให้ ในปรภพ
ศีลเป็นที่พึ่งเบื้องต้น เหมือนคน มีมารดา 
 ยิ่งใหญ่นักหนา เป็นประธาน แห่งธรรมทั้งปวง
คุณธรรมทั้งหลาย ล้วนศีลค้ำไว้ จึงลุล่วง
ศีลจึงสำคัญอย่างใหญ่หลวง แต่คนทั้งปวงดูดาย
ศีลเป็นกำลัง สุดหยั่ง ไม่มีที่เปรียบ
เป็นอาวุธ สุดเทียบ ที่จะเปรียบปาน
เป็นอาภรณ์อันประเสริฐ ของเลิศคนเท่านั้น
เป็นเกราะอัศจรรย์ ปิดกั้นภัยทั้งปวง
ศีลเป็นสะพาน อันสำคัญ
จะข้ามฝั่งพระนิพพาน สำคัญ ต้องมีศีลา
กลิ่นของศีลหอมไกล ไม่มีกลิ่นใดยิ่งกว่า
ศีลเป็นเครื่องลูบไล้กายา ประเสริฐสุด
คนงามศีลงามวินัย เหมือนมาลัยร้อย
งามหยดย้อย ด้วยมารยาท ผูกมัดใจคน
  มีใจใส มีกินมีใช้ เหลือล้น 
เป็นคนเหนือคน ไม่ถือตนไม่ถือตัว 
แตกต่างไม่เหมือนใคร ด้วยวินัย ยกให้สูง
 เพราะมีวินัย จึงเจริญรุ่ง พุ่งเร็วแรง
ความสะอาด ระเบียบและมารยาท ที่แสดง
นั่นแหละ แหล่ง ของวินัย
 สะอาดระเบียบและมารยาท ถ้าขาดไป ไม่อาจเรียกวินัย
เป็นกฎหมู่ ไม่ใช่กฎหมาย ไร้ความเป็นธรรม
เป็นกดขี่ ซึ่งไม่อาจหนีบาปกรรม
ทหารตำรวจกลายเป็นโจร ถ้าถลำ ล้ำเส้นวินัย
วินัย ทำให้ สวยจับใจ
สวยมารยาท ติดใจ ใครพบเห็น 
ทั้งสวย และหอม นี้ช่างเป็น
 เพียงนึกเห็น ก็หอมชื่นใจ

สวยมารยาท คนไม่อาจ รุกล้ำ
คอยค้ำ คอยประคอง ปกป้อง รักษา
คนดีทั้งหลาย ทั้งเทพไท้ เทวา
ลงรักษา เป็นธรรมดา เป็นหน้าที่

;;;;;;;;;;