วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2564

ทัศนานุตริยะ (เป็นบุญตา เห็นพระบิณฑบาต) พระภิกษุ สำหรับผู้ไม่รู้ จะดูประหลาดๆ อุ้มบาตร ขออาหาร การงานไม่ทำ ร่างกายก็ดี มีกายกำยำ แปลกล้ำ เดินเป็นแถว แล้วขออาหาร

 ทัศนานุตริยะ
(เป็นบุญตา เห็นพระบิณฑบาต)
พระภิกษุ สำหรับผู้ไม่รู้ จะดูประหลาดๆ
อุ้มบาตร ขออาหาร การงานไม่ทำ
ร่างกายก็ดี มีกายกำยำ
แปลกล้ำ เดินตามกันเป็นแถว แล้วขออาหาร
พระ คือผู้ประเสริฐ ที่เห็นภัยในวัฏฏสงสาร
แล้วออกจากบ้าน จากครอบครัว ไม่มัวเมากามคุณ
เห็นชีวิตตกอยู่ในอันตราย ต้องขวนขวายหาบุญ
มีบุญเกื้อหนุน ชีวิตหายวุ่น และปลอดภัย
 ศีลของพระ นั่นหละ คือห้วงสมบัติอจินไตย
กินใช้ไม่มีหมด ไม่มีอด ตลอดกาล
การบิณฑบาต เพียงโปรดสัตว์ ก็เท่านั้น
สาธุชนก้มกราบท่าน ด้วยศรัทธา นี่หละได้อริยทรัพย์
คนทั้งหลาย คล้ายกับมีไฟ กำลังไหม้บ้าน
ไม่สนใจมัน ปล่อยไว้อย่างนั้น ไหม้ก็ไหม้ไป
ความแก่ ความเจ็บ ความตาย คือไฟ 
ชีวิตมอดไหม้ ไม่มีเหลือ
ผู้นำทรัพย์มาทำบุญ ไม่สูญเปล่า
นี่อย่างไรเล่า เท่ากับ นำทรัพย์ออกจากไฟได้
การเสียสละ ผู้มีศรัทธา ได้บุญใหญ่
บุญติดตามไป รับใช้ ทุกภพชาติ
บิณฑบาต ประเพณี ที่ดีงาม
ทุกเขตคาม เห็นพระสงฆ์ องค์เจ้า
เป็นบุญตา ทัศนานุตริยะ ไม่เบา
สะกิดเอา บุญเก่า ไหลเข้ามา
กิริยาอาการ ของท่าน ผู้มีศีล
 ชื่นชีวิน ของทุกผู้ ที่รู้เห็น
 จิตอ่อนโยน เป็นผล ให้อยู่เย็น
ธรรมชาติ ที่เห็น เป็นสดใสสมบูรณ์
พระ ได้ชื่อว่า บัณฑิต
ทำเป็นนิจ ฝึกตน ทนกิเลส
นำสังคม หมู่ชน พ้นอาเพศ
พาสร้างเหตุ แห่งสุข พ้นทุกข์ภัย
  พระพุทธองค์ ทรงลง บิณฑบาต
ออก โปรดสัตว์ ไม่มีเว้น
 เสด็จไปหา ผู้มีบุญญา ที่ทรงเห็น
ไกลใกล้ ไม่เว้น เป็นนาบุญ
 มหาชน ศรัทธา สามัคคี
โอบอ้อมอารี พี่งพา อาศัย
ทั่วแว่นแคว้น กลายเป็นแดน ศิวิไลซ์
โลกทั้งใบ รักใคร่ ปรองดอง

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น