วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2567

อายุมนุษย์น้อยนัก (คนดีตระหนัก จึงไม่ประมาท) อายุของมนุษย์นี้ น้อยนัก คนดีตระหนัก จึงไม่ปมาทะ ทำตน ประดุจคน ไฟไหม้ศีรษะ มฤตยูจะไม่มา ย่อมไม่มี

 อายุมนุษย์น้อยนัก
(คนดีตระหนัก จึงไม่ประมาท)

อายุของมนุษย์นี้ น้อยนัก
คนดีตระหนัก จึงไม่ปมาทะ
ทำตน ประดุจคน ไฟไหม้ศีรษะ 
มฤตยูจะไม่มา ย่อมไม่มี

ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งเขลาและฉลาด
ล้วนตกอยู่ในอำนาจ แห่งความตาย
ไม่อาจ หลบหลีกได้
 ล้วนมีความตาย เป็นเบื้องหน้า
จะอยู่ในอากาศ อยู่กลางสมุทร
แม้อยู่ในสุด ในหลืบเขา
ก็ไม่พ้นจาก มฤตยูเจ้า
ทุกที่ภูมิลำเนา ความตายไม่เว้น
 
ความตาย ทำลายผู้ติดในกาม
ที่มีอารมณ์วาบหวาม กับสิ่งภายนอก
กามไม่มีอิ่ม ขอบอก
เอาคนเป็นวอก ไว้ในอำนาจ
ผู้เลี้ยงโค ย่อมต้อนฝูงโค
 ด้วยไม้พลองอันโต ฉันใด
ความแก่และความตาย
ย่อมต้อนอายุ ของสัตว์ ไปฉันนั้น
ภาชนะดิน ที่ช่างหม้อปั้น
 ที่สุดแล้วนั้น ล้วนมีความแตกสลาย
ชีวิตสรรพสัตว์ ก็ฉันนั้น ทนไม่ได้
สูญสลาย ไปตามกาลเวลา
ห้วงน้ำ ที่เต็มฝั่ง
 ยังพัดต้นไม้ ริมตลิ่งไป ฉันใด
สัตว์มีชีวิตทั้งหลาย
 ถูกความแก่ความตาย พัดไปฉันนั้น

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567

ผู้มีวาจางาม (ไร้ความเดือดร้อน) พึงเปล่งวาจางาม เท่านั้น วาจาชั่ว ให้อดกลั้น อย่าเปล่งเลย วาจางาม ยังประโยชน์ พาสะเบย ไม่ควรเปล่งวาจาชั่วเลย เดือดร้อน

 ผู้มีวาจางาม
(ไร้ความเดือดร้อน)

 
พึงเปล่งวาจางาม เท่านั้น
วาจาชั่ว ให้อดกลั้น อย่าเปล่งเลย
 วาจางาม ยังประโยชน์ พาสะเบย
ไม่ควรเปล่งวาจาชั่วเลย เดือดร้อน
บุคคล พึงกล่าวแต่วาจา
ที่ไม่นำพา ตน ให้เดือดร้อน
และไม่ควรมีวาจา เสี้ยมสอน
จะเดือดร้อน ด้วยวาจา ทุภาษิต
ไม่ควรพูด จนเกินกาล
 ไม่ควรนิ่งนาน เกินไป
เมื่อถึงเวลา ก็ควรพูดได้
 พูดอย่างมีสติใส ไม่ฟั่นเฝือ
ควรกล่าววาจา ที่น่ารัก
ยังผู้ฟัง ชื่นใจนัก เท่านั้น
เพราะคนดีไม่ใส่ใจ คำพาล
 คำไพเราะเท่านั้น ที่คนฟัง
บางคน ที่เกิดมา
เหมือนว่า มีมีดไม้ อยู่ในปาก
 คนกล่าวคำไม่ดี โง่ยิ่งนัก
เหมือนว่า มีมีดไม้ในปาก ถากตัวเอง
บุคคลทำสิ่งใด ควรพูดสิ่งนั้น
 ไม่ควรกระสัน พูดวิจารณ์ งานคนอื่น
ไม่ทำ ได้แต่พูด มีปากยื่น
คำพูดไหลรื่น หลั่งไหล ใจพาล
คนใด ถูกอ้างเป็นพยาน
 ให้การเท็จ เพราะตนก็ดี
เพราะผู้อื่นก็ดี เพราะทรัพย์ก็ดี
 พึงรู้ว่าคนอย่างนี้ เป็นคนเลว

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2567

วาจางาม (ทำประโยชน์ให้สำเร็จ) เปล่งวาจา งาม ทำประโยชน์ ให้สำเร็จ ได้บุญใหญ่ พ้นภัยกิเลส จึงสำเร็จ สมปราถนา

 วาจางาม
(ทำประโยชน์ให้สำเร็จ)


วาจาเป็น อันเดียวกับใจ
เป็นหน้าต่างก็ใช่ ของใจนั่นเอง
สำรวมวาจา เรียกว่า คนเก่ง
คนพาล นักเลง ไม่สำรวม
เปล่งวาจา งาม
ทำประโยชน์ ให้สำเร็จ
ได้บุญใหญ่ พ้นภัยกิเลส
จึงสำเร็จ สมปราถนา
คนเปล่งวาจาชั่ว ย่อมเดือดร้อน
วิบากกรรมสะท้อน ส่งผล
บาปยังไม่มา ประมาทล้น
เมื่อบาปส่งผล ล้มทั้งยืน
คนโกรธ มีวาจาหยาบ 
เป็นบาป ตกนรก
ดับโกรธได้ พ้นภัยพาล สกปรก
เป็นโชค ของชีวิต
คนพูดไม่จริง ย่อมเข้าถึงนรก
คนโกหก กรรมหนัก
หน้าเป็นคน ใจเป็นสัตว์
มนุษย์ชาติ มีหิริโอตัปปะ
ความสะอาด พึงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ
คนใจดำ วาจาฟังไม่ได้
เป็นคนพาล อันตราย
ใครอยู่ใกล้ ได้อัปมงคล
ควรเปล่งวาจา งาม
ใครก็ตาม เมื่ออยู่ใกล้
เป็นมงคล ชีวิตสดใส
การคบบัณฑิต จึงใช่ ได้มงคล

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567

กาลเวลาผ่านไป (ภัยใหญ่ ภัยมรณะ) กาลเวลา ย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัย ย่อมละไป ทุกขณะ ภัยใหญ่ ภัยมรณะ อย่ารอช้า ทำบุญ อันนำสุขมาให้

 กาลเวลาผ่านไป
(ภัยใหญ่ ภัยมรณะ)

 
กาลเวลา ย่อมผ่านไป
 ชั้นแห่งวัย ย่อมละไป ทุกขณะ
ภัยใหญ่ ภัยมรณะ
 อย่ารอช้า ทำบุญ อันนำสุขมาให้

ภัยของสัตว์ ผู้เกิดมาแล้ว
ไม่แคล้ว ต้องตายแน่แท้
เหมือนผลไม้ สุกแก่
ย่อมแน่แท้ ต้องหล่น
ผู้กำหนดรู้ กายในกาย
 ไปถึง จิตในจิต
 ธรรมในธรรม ย่อมมีสิทธิ์
 เสร็จกิจ ละมัจจุราช ได้
ผู้มีปัญญาย่อม ไม่ขอเลย
ทานจนเคย เหมือนน้ำไหล
เหมือนแม่น้ำ สายใหญ่
น้ำไหล ไม่หยุด แต่ไม่เคยแห้ง
ผู้ขอ ย่อมไม่เป็นที่รัก
ผู้ให้ จึงจักเป็นที่รักได้
ผู้ให้ ย่อมมีกำลังใจ
บุญ อจินไตย บันดาลให้สำเร็จ 
 ผู้ถูกขอ เมื่อไม่ให้ 
ย่อมไม่ เป็นที่รัก
จำเป็นต้องให้ น้อยหรือมาก
ถ้าไม่ทุกข์หนัก คงไม่มาขอ
คนเป็นที่เกลียดชัง เพราะขอจัด
แม้จะเป็นญาติ ก็ตาม
คนไม่มีขันติ ไม่พยายาม
ใครก็ตาม ย่อมรังกียจ
ไม่ควรขอ สิ่งที่รู้ว่าเป็นที่รักของเขา
แต่คนโง่เขลา ทำได้
คำนึงถึง ตัวเองเป็นใหญ่
ให้ยากหลาย เท่ากับให้อวัยวะ

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

รักเคารพบูชา (ลักษณะคนดี ที่สมบูรณ์) รัก เคารพ บูชา ลักษณะ คนดีที่สมบูรณ์ มีสุขสมปราถนา แสนอบอุ่น สุขสมบูรณ์ ทุกภพชาติ

 รักเคารพบูชา
(ลักษณะคนดี ที่สมบูรณ์)

 
 รัก เคารพ บูชา
ลักษณะ คนดีที่สมบูรณ์
มีสุขสมปราถนา แสนอบอุ่น
สุขสมบูรณ์ ทุกภพชาติ

มีความรัก ใจจักนุ่มนวล
เห็นคนอื่น ล้วน น่ารัก
ยิ้มแย้มแจ่มใส ชื่นใจนัก
เหมือนมารดา รักบุตรน้อย
มีความรัก จึงรู้จัก แบ่งปัน
เป็นเครื่องหมายสำคัญ ของความรัก
ทาน จึงสำคัญนัก
ทำให้รัก หมู่คณะ สังคม
มีความรัก มารยาท จักตามมา
มีกายวาจา ละมุนละไม
มีใจเย็น ใจใส
ทานจึงใช่ เบื้องต้นของศีล
เมื่อใจเย็นใจใส จึงได้เห็น
ความดี ที่เขาเป็น เขามีอยู่
จึงได้ ตระหนักรู้
เป็นผู้ ที่เรียกว่า มีความเคารพ
 มีความเคารพ ตระหนักในความดี
สำรวมกาย วจี มารยาท
นิยมชมชื่น ไม่ขาด
เป็นผู้ฉลาด ในปฏิสัมพันธ์
มีความเคารพ ด้วยพบเห็นความดี
ที่เขามี แม้ไม่มาก
เรียกว่าใจสูง ผู้คนเกรงนัก
คนพาล หลงรัก แพ้ใจ
ด้วย ความเคารพ
ได้พบเห็น ผู้มีคุณธรรมสูงกว่า
และได้เลื่อมใส ศรัทธา
กราบไหว้บูชา ขอเป็นศิษย์
ความ รักเคารพบูชา นี้
บังเกิดมี ด้วย ทานศีลภาวนา
ทางสายกลาง ทางบุญ นั่นหละ
อย่ารอช้า มุ่งหน้าเข้าวัด ปฏิบัติธรรม

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

หน้าที่มนุษย์ (ที่สุดคิอแสวงบุญ) หน้าที่มนุษย์ ที่สุดคือ แสวงบุญ ทำให้คุ้น ทำบุญสม่ำเสมอ หมั่นตามระลึก นะเธอ บุญเลิศเลอ นำสุขมาให้

 หน้าที่มนุษย์
(ที่สุดคิอแสวงบุญ)

 
หน้าที่มนุษย์ ที่สุดคือ แสวงบุญ
 ทำให้คุ้น ทำบุญสม่ำเสมอ
หมั่นตามระลึกนึกถึง นะเธอ
บุญเลิศเลอ นำสุขมาให้

ไม่ควรดูหมิ่น ว่า บุญน้อย
หยาดน้ำห้อย ย้อยหยด เต็มตุ่มได้
ผู้มีปัญญา สั่งสมบุญเรื่อยไป
ไม่ว่าเล็กใหญ่ กระหายบุญ
สหาย เป็นมิตรของคน
ที่ยังดิ้นรน ต่อสู้ชีวิต
บุญทั้งหลายที่ตนทำไว้ ในอดีต
 จะเป็นมิตร ในสัมปรายภพ
ชีวิต ของสรรพสัตว์
เหมือนภาชนะ ดิน
มุ่งไปสู่จุดสลาย ทั้งสิ้น
 ย่อมพังพิน ไม่คงทน

ปราชญ์กล่าวว่า ชีวิตนี้น้อยนัก
เป็นสัก หยดน้ำค้าง
ชีวิตหลังตาย นานจัง
ปุถุชน ไม่หวังก็จะได้ อบายภูมิ

ความผัดเพี้ยน กับมฤตยู
ผู้มีกองทัพใหญ่นั้น ไม่ได้เลย
ถึงเวลา ก็ตายเฉย
ประมาทไม่ได้เลย จงรีบสั่งสมบุญ
สรรพสัตว์ ถูกชรานำไป
 ไม่มี ผู้ใด พ้นไปได้
ต้องรีบเร่งแสวงบุญ เร็วไว
ประมาทหลาย ปุถุชน

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

บุญอริยทรัพย์ (บ่อเกืดทรัพย์ภายนอก) หลังตาย เอาไปได้ แต่บุญ อริยทรัพย์ คนไม่คุ้น บุญนั่นเอง ติดตามอุปถัมภ์ คนเก่ง โภคทรัพย์ มีมาเอง ทุกภพชาติ

 บุญอริยทรัพย์
(บ่อเกืดทรัพย์ภายนอก)

 

ทรัพย์ คือเครื่องปลี้มใจ
คนส่วนใหญ่ ใฝ่หา โลกียทรัพย์
สนใจแต่สิ่งภายนอก มาประดับ
อยากรวยนัก ถึงกับ ผิดธรรม

โลกียทรัพย์ ทรัพย์ภายนอก
อริยทรัพย์ ขอบอก คือทรัพย์ภายใน
มีแล้วอิ่มอก อิ่มใจ
ทรัพย์ภายใน คือบุญ นั่นเอง
ทรัพย์ภายนอก มีเท่าใด ก็ไม่พอ
ต่อให้ โลกทั้งโลก
อิ่มไม่เป็น เช่นสนิม สกปรก
คนทั้งโลก ส่วนใหญ่ เป็นเช่นนั้น
คิดให้ดี ทรัพย์ภายนอกนี้ เป็น
เช่น ความฝัน
 หรือเมื่อเราตาย เป็นอย่างนั้น
หรือเหมือนกัน กับเล่นละคร
มีก็เหมือนไม่มี เหมือนคนที่ตาย
หรือสิ่งทั้งหลาย สูญสลายสิ้น
ไม่จริงไม่จัง ทุกอย่างพังพิน
ทรัพย์ภายนอก ทั้งสิ้น เหมือนเงา
หลังตาย เอาไปได้ แต่บุญ
อริยทรัพย์ คนไม่คุ้น บุญนั่นเอง
ติดตามอุปถัมภ์ คนเก่ง
โภคทรัพย์ มีมาเอง ทุกภพชาติ
มีบุญอริยทรัพย์ ปลื้มใจแท้
ทั้งพ่อแม่ พี่น้อง ปลื้มใจ
อนุเคราะห์ สงเคราะห์ คนทั้งหลาย
อีกทั้งธรรมชาติสดใส สวยงาม

;;;;;;;;;;