วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

รักบุตรหลาน (ปลูกฝังให้รู้จักทาน การมีน้ำใจ) การทำทาน เป็นงานของพ่อแม่ มอบแก่ลูกรัก ฟูมฟักลูกรัก ให้มีสัมมาทิฎฐิ สุดยอดของพ่อแม่ ต้องมอบสิ่งนี้ ทำบุญตามประเพณี จึงเป็นกิจกรณีย์ ของครอบครัว

 รักบุตรหลาน
(ปลูกฝังให้รู้จักทาน การมีน้ำใจ)


อานิสงส์ของทาน ทุกท่านควรรู้
จะได้เป็นผู้ ไม่ประมาท ไม่ขาดศรัทธา
หนึ่ง ทานเป็นสาย ที่ได้กระทำนั้นหนา
จะเปลี่ยนมา เป็นอริยะทรัพย์ คือบุญ
บุญนี่หละ จะติดตามไป ในภพเบื้องหน้าได้
 ภพชาติต่อๆไป จะไม่อดอยากยากจน
จะเป็นผู้มีโชคดี มีทรัพย์มากล้น
จะเป็นคน มีทั้งทรัพย์ และศรัทธา
สอง หมู่ญาติที่ล่วงลับไป เมื่อได้อนุโมทนา
ย่อมได้ผลา..นิสงส์ ตามเจตจำนงทุกประการ
ที่มีทุกข์มาก ก็จักทุกข์น้อย อย่างนั้น
และเช่นกัน ที่ทุกข์น้อย ก็จะพ้นทุกข์
ที่สุขน้อย ก็จะสุขมาก จักไม่ถอย
ที่สุขมาก ก็เลิศลอย สุขมากยิ่งขึ้น
การได้สงเคราะห์ญาติ ผู้ล่วงลับ หลับไม่ตื่น
ได้ชีวิตราบรื่น เป็นอานิสงส์
สาม ทำทาน เป็นการถ่ายทอดนิสัยที่ดี
ให้บุตรหลาน เป็นคนดี มีตนเองเป็นที่พึ่ง
เป็นผู้มากน้ำใจ ยิ่งใหญ่ โลกตลึง
สัมมาทิฏฐิ นี้จึง..ควรอย่างยิ่ง เป็นสิ่งต้องปลูกฝัง 
การทำทาน เป็นงานของพ่อแม่ มอบแก่ลูกรัก
ฟูมฟักลูกรัก ให้มีสัมมาทิฎฐิ
สุดยอดของพ่อแม่ ต้องมอบสิ่งนี้
 ทำบุญตามประเพณี จึงเป็นกิจกรณีย์ ของครอบครัว
  สี่ ทำทาน เป็นการ ต่ออายุพระศาสนา
จึงเป็นมหามังคลา ได้บุญญาบารมี
ทุกพบชาติ ศรัทธาไม่ขาด คุ้มชีวี
มีสุขสวัสดี กินดีอยู่ดี ทุกประการ
การต่ออายุพระศาสนา ได้ชื่อว่าสงเคราะห์โลก
ดับทุกข์โศก ให้ชาวโลกทั้งผอง
ธรรมชาติสวยงาม ฟนฟ้าถูกต้อง
สรรพสัตว์ทั้งผอง ล้วนพี่น้องกัน
อานิสงส์การทำทาน ในปัจจุบันนี้
หนึ่ง มี..คนรักใคร่ เป็นอันมาก
สอง คนดีคบหา มารุมรัก
สาม มีโชคดีมาก จักมีคน นำผลประโยชน์มาให้
สี่ มีเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมเป็นร่วมตาย
ร่วมต่อสู้ ชีวิตวาย..ไม่ว่า
ห้า แกล้วกล้าอาจหาญ เป็นที่พึ่งพา
มหาชนทั่วหล้า แซ่ซร้องสรรเสริญ

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2564

อานุภาพบารมี (นี้ อจินไตย) ทุนสามานย์ ซาตานผีห่า ลงมา กินเมือง ทำเศรษฐกิจ ฝืดเคือง ใจอำมหิต กิเลสตัณหา ขาดศรัทธา ก่อกรรมเกินคิด บาปศักดิ์สิทธิ์ ทำลายล้าง คนห่างวัด

อานุภาพบารมี
(นี้ อจินไตย)
ทุนสามานย์ ซาตานผีห่า ลงมา กินเมือง 
 ทำเศรษฐกิจ ฝืดเคือง ใจอำมหิต
กิเลสตัณหา ขาดศรัทธา ก่อกรรมเกินคิด
บาปศักดิ์สิทธิ์ ทำลายล้าง คนห่างวัด
 ผู้ใดมีศรัทธา มาสั่งสมบุญประจำ
บุญจะค้ำ จะอุ้มชู อยู่สะบาย ไม่เดือดร้อน
เหมือนอยู่บนเรือใหญ่ ไม่อนาทร
หรือนั่งนอน อยู่บนภู ดูหมูกัดกัน
นายทุนฯ หน้าหนา หน้าโลหิต 
พ่นพิษ ทำลายชาติ พินาจล่ม
รวยมาก เท่าใด ไม่พอถม
ชั่วบรม ทำร้ายมหา ประชาชน
มันเป็นยุคเปลี่ยนผ่าน คนพาลจะพินาศ
บ้านเมืองจะขาวสะอาด ปานสวรรค์
ไม่ใช่ก็เกือบใช่ ยุคใหม่ ยุคพระศรีอาริย์
เพียงคนดีทั้งหลายนั้น ให้อดกลั้นอดทน
ยุคภัยโควิด ทั้งเศรษฐกิจฝืดเคือง
ธรรมชาติเอาเรื่อง เหมือนอย่างในเมือง เวสาลี
อย่าโทษใคร ด้วยคนส่วนใหญ่ ศรัทธาไม่มี
เมืองเวสาลี ยังดี มีพระชินสีห์อยู่
ในยุคนี้ รอพึ่งแต่ผู้ที่มีบารมีสูง
ปฎิบัติธรรมมุ่ง ไปสู่ ที่สุดธรรม
แก้ไขที่ต้นตอ ผู้ก่อเหตุ สร้างกฎแห่งกรรม
พญามารหรือไอ้ดำ สุดลำพอง คะนองฤทธิ์
เสนามาร ออกรอนราน ขย่ม
บ้านเมืองล่ม ทุกข์ระทมทั่วหน้า
เสร็จนาฆ่าโคถึก อย่าสงกา
หมดเวลาของเจ้า เหล่าอธรรม
เศรษฐีใหญ่ ใจบุญ นั้นดีแต่มีน้อย
ต้องถอย..ร่น ทนอยู่ไม่ได้
ด้วยหมู่มารระราน วิ่งพล่าน ก่อนตาย
 คนดี อดทนไว้ คนพาลจะแพ้พ่าย แพ้ภัยตน 
 
มีเศรษฐีใหญ่ ใจบุญ ประชาอุ่นใจ
ไพร่ฟ้า หน้าใส กันทุกคน
 เศรษฐกิจพัฒนา มีศาสนา พาทำบุญกุศล
เป็นธรรมดาของพาลชน คนพาลแสลงดี 
พุทธแท้ ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
หมู่มาร แพ้พ่าย แพ้ง่ายๆ แพ้บารมี
ยิ่งตียิ่งดัง หมู่มารยิ่งพัง แปลกดี
ด้วยอานุภาพบารมี..นี้ อจินไตย

 ;;;;;;;;;;

นิสัยดีไม่ได้ (ถ้าไม่ใส่ใจภาวนา) เกิดมาสร้างบารมี หรือแก้ไขนิสัยไม่ดีของตน นิสัยไม่ดีของคน มี๖ เรียกจริต๖ เกิดจากกรรมวิบาก จากอดีต เหมือนใจเป็นโรค ศึกษาจริต๖ จะได้ยก..ใจให้สูง

 นิสัยดีไม่ได้
(ถ้าไม่ใส่ใจภาวนา)


เกิดมาสร้างบารมี หรือแก้ไขนิสัยไม่ดีของตน
นิสัยไม่ดีของคน มี๖ เรียกจริต๖
 เกิดจากกรรมวิบาก จากอดีต เหมือนใจเป็นโรค
ศึกษาจริต๖ จะได้ยก..ใจให้สูง
พุทธจริต เจ้าปัญญา ชอบมีปัญหาสงสัย
  ใจจึงไม่นิ่งง่ายๆ จึงไม่ได้ปีติ
แต่ก็ขยัน หมั่นสร้างความดี
 มีวิริยะอุตสาหะ เต็มที่ ทำความเพียร
 ต่างจากคนหัวแข็ง ดื้อแพ่งดันทุรัง
ไม่เชื่อไม่ฟัง อย่างไม่มีเหตุผล
เอาเพียงแต่ว่า ตามความรู้สึกของตน
เหมือนปลาว่ายวน..ในน้ำ ไม่ฟังคำเต่า

 ศรัทธาจริต ไม่มีปัญหา แต่ว่าติดบุคคล ไม่ได้ติดธรรมะ
ติดกะโหลกกะลา สิ่งภายนอก
ชีวิตจึงขาดสมาธิไม่ได้ เพื่อนำใจออก
เข้าสู่เส้นทางสว่าง นั้นดอก มีพระรัตนตรัย
พุทธจริตนี่ช้า กว่าจะศรัทธาได้
ศรัทธาจริต นี้ไวเกินไป คนใจง่าย
ถ้าจริตทั้งสอง รวมกันได้ ก็จะดีหลาย
การนั่งสมาธิ นั่นไง จะทำให้พอดี
ทั้งพุทธจริต และศรัทธาจริต 
มีปัญญาเพียงคิด จินตามยปัญญา
เป็นปัญหาของโลก โลกา
ดังนั้น อย่าเสียเวลา จงนั่งหลับตา ทุกค่ำเช้า
โทสะจริต ติดนิสัย ร้อนรน 
ขาดความอดทน ขี้บ่น ทนไม่ได้
 ขาดภาวนามยปัญญา บ้าบิ่น เอาแต่ใจ
คิดเองเออเอง เอาตัวเองเป็นใหญ่ ชอบใช้อำนาจ   
โมหะจริต ติดนิสัย หมกมุ่นมัวเมา
โฉดเขลา เฉื่อยชา บ้าตัณหา
หมกมุ่น ลืมตัวลืมตน ลืมเวลา
ขาดฉันทะ ไม่ศึกษา พัฒนาตน
โมหะจริตนี่ชัด อ่อนหัด ภาวนามยปัญญา
ใจนี่มืดหนา หลับตามืดตื้อ
มีนิวรณ์ห้า เป็นไก่ตาฟาง โง่อย่างกระบือ
ทั้งโง่ทั้งดื้อ ทั้งถือดี แม้ไม่มีอะไร
ราคะจริต ติดนิสัย รักสวยรักงาม
แต่ชอบทำ สกปรก รกรุงรัง
ชอบของใหม่ เก่าไป ทิ้งขว้าง
สะอาดจัง ต่อหน้า แต่ว่า ผักชีโรย 
สาเหตุใหญ่ ไม่ใส่ใจนั่งสมาธิ 
วิบากกรรมมี จึงรับเต็มที่ กรรมเก่า
แม้เป็นพระ ก็ละไม่ได้ ถ้าไม่เอา
เจริญภาวนา ทุกค่ำเช้า กิจวัตร
วิตกจริต ติดนิสัยไม่ดี ขี้กังวล
สับสน ฟุ้งซ่าน พลุ่งพล่านใจ
 ปัญหาน้อย กลาย เป็นใหญ่
อะไรๆ ก็ทำไม่ได้ มีปัญหา
จริตทั้งหลาย ล้วนใช่ กรรมวิบาก
ทำให้คนทุกข์ยาก ปัญหาชีวิต
รู้จักจริตของคน เพื่อเตือนตน ได้คิด
สนมสนิท คบเป็นมิตรได้ ให้เหมาะสม
นิสัยคน คือตัวตน ของเรา
  เป็นวิบากกรรมเก่า เราสะสม มานาน
ติดตามเรา เหมือนเงา อย่างนั้น
 นิสัยดี มีคุณมหันต์ ยอดกัลยาณมิตร

;;;;;;;;;;

คุกประหาร (คือมัน กรรมวิบาก) กรรมวิบาก เหมือนกันนัก กับฝนตกหนัก ทั่วอนันตจักรวาล ไม่มีหยุด สม่ำเสมอ อนันตกาล สรรพสัตว์ รู้ไม่เท่าทัน ยอมรับมัน เป็นชีวิต

คุกประหาร
(คือมัน กรรมวิบาก)

กรรมวิบาก เหมือนกันนัก
กับฝนตกหนัก ทั่วอนันตจักรวาล
ไม่มีหยุด สม่ำเสมอ อนันตกาล 
สรรพสัตว์ รู้ไม่เท่าทัน ยอมรับมัน เป็นชีวิต

หารู้ไม่ว่า การคิดพูดทำนั้น มันมาจากกรรมวิบาก
เราเป็นเพียงหุ่นกระบอก ให้มารชัก เท่านั้น
นี้เป็นความจริง เป็นสิ่งน่าอัศจรรย์
เป็นภัยมหันต์ ของชีวิต

แม้ทุกข์ท่วมท้น ก็ไม่ดิ้นรนหนีมัน
ไม่มีความอดทนอดกลั้น ดื้อรั้น ไม่ฟังพระ
ไม่ยอมทิ้งมัน โลภโกรธหลง น่าเวทนา
ทำตัวเป็นไก่กา ตื่นขึ้นมา ก็คุ้ยเขี่ยหากิน

พระพุทธองค์ ทรงตรัส ในโอวาทปาฏิโมกข์
ทรงยก ขันติ เป็นไฟอย่างยิ่ง จงอดทน
แม้มีกรรมวิบาก เกิดความทุกข์ยาก จะพ้น
ขอเพียงให้เป็นคน..ดี จะได้บารมี หนีกรรมวิบาก

ความอดทนนี้ มีหลักการ
ไม่ทำบาปทุกสิ่งอัน ให้รู้จักทำแต่ดี
 ให้ผ่องแผ้ว ทำใจเรานี้
มี ปลายทาง สุดดี พระนิพพานเมืองแก้ว

กิเลสกรรมวิบาก วัฏฏจักร อำมหิต
คนไร้ศรัทธาหมดสิทธิ์ ออกจากสังสารวัฏฏ์
วนเวียนไป ใน๓๑ภูมิ เหมือนจมปลัก
เหมือนกันนัก กับปลักโคลนดูด ที่ยากสุดจะออก

วัฏฏสงสาร ก็คือคุกประหาร ดีดีนี่เอง
หลังตาย ไปแน่คนอวด
เก่ง อวดดี
ไม่เชื่อคำพระ ประมาทในชีวี
ไม่ตั้งใจแสวงบุญสร้างบารมี ไม่อาจหนี คุกประหาร

ทางหนีไป จากมหาภัยวัฏฏสงสาร นั้นมีอยู่
ไม่อุดอู้ แต่มีอยู่เป็นสาย คล้ายอุโมง
เป็นที่ปลอดภัย แสนสุขสบาย ปลอดโปร่ง
ทางไม่โค้ง เป็นทางตรง สว่างไสว ไปสู่พระนิพพาน

ทางนี้ยังมี สมบัตินาๆ มหาศาล
 ยังพ้นบ่วงมาร พ้นกฎไตรลักษณ์ พ้นกฎแห่งกรรม
ขอเพียงมีศรัทธา เท่านั้นหละ สุขล้ำ
ทุกเช้าค่ำ ปฏิบัติธรรม แสวงบุญสร้างบารมี

ขณะที่ยังเวียนว่าย เลือกได้ ไปดุสิตบุรี
มีสติดี มีศรัทธา เมื่อกลับลงมาเกิดใหม่
เข้าสู่เส้นทางสายกลาง ทานศีลภาวนา ได้ทันใด
สุขสวัสดีมีชัย คนเหนือคน

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2564

ใครมีศรัทธา (มหาโชค) เราคือผู้ลิขิต ออกแบบชีวิต ของเราเอง เก่งไม่เก่ง เราเองลิขิต จงเข้าใจ สติสัมปชัญญะ คุณธรรมยิ่งใหญ่ ออกจากนิวรณ์ห้าได้ ปัญญาไสว ออกแบบชีวิต

ใครมีศรัทธา
(มหาโชค) 

เราคือผู้ลิขิต ออกแบบชีวิต ของเราเอง
เก่งไม่เก่ง เราเองลิขิต จงเข้าใจ
 สติสัมปชัญญะ คุณธรรมยิ่งใหญ่
ออกจากนิวรณ์ห้าได้ ปัญญาไสว ออกแบบชีวิต

พระธรรมกาย พระรัตนตรัยในตัว
เป็นอัตตา เป็นผู้รู้ทั่ว ตัวตนเราเอง
เป็นเรื่องอจินไตย ตัวเรา คนเก่ง
พึ่งตนเอง คือพึ่งพระรัตนตรัยในตัว

เตือนเรา ทุกค่ำเช้า เป็นอนุสติ
 จึงขาดไม่ได้ กิจกรณีย์ ปฏิบัติธรรม
เป็นคนดี สอนตนได้ เลิศล้ำ
ทุกเช้าค่ำ ปฏิบัติธรรม จึงจำเป็น

สิ่งที่เป็นไปในชีวิต ล้วนแต่เราลิขิตเอง
เฮง
หรือซวย สวยหรือไม่สวย รวยหรือจน
เป็นสิ่งที่เราลิขิตไว้ ในอดีต ส่งผล
เป็นกรรมวิบากของตน ส่งผลในปัจจุบัน

โลกนี้ พระท่านจึงชี้ว่า คือโรงละคร
มีบทบาท ไม่ต้องสอน ล้วนเป็นไป
ความคิดความอ่าน พูดและทำ ล้วนใช่
กรรมวิบาก ประสิทธิ์ให้ เป็นไปเช่นนั้น

น่าเวทนา สรรพสัตว์ขาดสติ มิมีทางเชื่อ
จะศรัทธา ก็ต่อเมื่อ บุญวาสนามาถึง
ได้พบกัลยาณมิตร สติมา จึง
วิ่งตะบึง แสวงบุญสร้างบารมี

บุญของวันนี้ มีหน้าที่ เหนี่ยวนำวาสนา
นำพา ความสมปราถนา และความสุข
ตัดรอนวิบากกรรม วิบากมาร ที่นำทุกข์
ดังนั้น ต้อง
เลิกสนุก อันเป็นเหยื่อของมาร

ใครมีศรัทธา พระท่านจึงว่า เป็นมหาโชค
เหมือนหนูตก..ลงไป ในถังข้าวสาร
ศรัทธา เป็นอริทรัพย์ บันดาล
สุขสมปราถนาทุกประการ ในทางสายกลาง

;;;;;;;;;;