วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2564

ยามหนุ่มสาว (พวกเจ้าเอาแต่เล่น):: กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ ไทยสุภาษิต ปราชญ์สะกิด คนที่ติด สนุกสนาน

ยามหนุ่มสาว
(พวกเจ้าเอาแต่เล่น)

กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ ไทยสุภาษิต
ปราชญ์สะกิด คนที่ติด สนุกสนาน
ยามหนุ่มสาว พวกเจ้า เอาแต่เล่น ไม่เป็นการ
ทำลายสังขาร เมามัน ทางโลก
หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ ให้ อธิษฐานว่า
เมื่อเกิดมา ให้ระลึกชาติได้ แต่วัยยาว์
เห็นทุกข์ในอดีต ไม่ขาดสติ หลงลืมกรรมเก่า
ให้เรา..ได้สติ มีนิพพิทา เบื่อหน่ายโลก
สติสัมปชัญญะ เป็นดั่งว่า บิดามารดร
คอยอุปถัมภ์ค้ำจุน ดับร้อน ให้ผ่อนคลาย
เพียงจรดใจ ระลึกไว้ ภายในกาย
ออกจากกรรมวิบากได้ บุญไหลมา
สติสัมปชัญญะ มีได้ในกายมนุษย์
เลิศสุด กายมนุษย์ แสวงบุญ สร้างบารมีได้
เกิดเป็นมนุษย์ ยากสุดๆ ยิ่งกว่าเต่าตาบอดโผล่หายใจ
หัวสอดเข้าบ่วงน้อยได้ ที่ลอยอยู่ในมหาสมุทร

ทุกร้อยปี เต่าตัวนี้ โผล่ขึ้นมาทีหนึ่ง
พลวดพลาดทะลึ่ง หัวสอดเข้าบ่วงน้อยพอดี
เป็นอจินไตย เป็นไปไม่ได้ ก็ใช่ แต่ว่านี้
คือยากเหลือที่ ได้กายมนุษย์นี้มา
ศีลห้า ได้ชื่อว่าคุณธรรม สำหรับเกิดกายมนุษย์
โดยเฉพาะ ข้อที่ห้าสำคัญสุด ประดุจนิ้วโป้ง
การดื่มสุรายาเมา เผาสติสัมปชัญญะโดยตรง
  คนพาล คนโกง อัปมงคลอย่างยิ่ง

เกิดมาเป็นมนุษย์ สุดประเสริฐ ทำความดี
แต่มนุษย์ปล่อยทิ้งเสียนี่ โอกาสดี ปฐมวัย
หลงลาภยศสรรเสริญ 
เพลินอบาย
พอคิดได้ ก็หมดไป อีกชาติหนึ่ง
สติสัมปชัญญะช้า กว่า จะมาถึง
กิเลสรุก สัมปชัญญะ ตะลึง จึงละล้าละลัง
 ได้กัลยาณมิตร คอยสะกิด สติจึงตั้ง
เข้าวัดฟัง..ธรรม จึงจำเป็น
 
พระบรมโพธิสัตว์ จึงอุบัติ เกิด
เล่นเอาเถิด กับหมู่มาร ที่หาญผยอง
ทุ่มชีวี สร้างบารมี สุดคะนอง
เพื่อช่วยสรรพสัตว์ทั้งผอง มีสติครอง ป้องภัยวัฏฏะ


 ;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น