(วันมหากรุณาพระนิพพาน)
คนทั้งหลาย บ้าหาทรัพย์ กับดักมาร

ส่ำสัตว์ ไร้ศรัทธา น่าสงสารล้ำ
เดินตามกัน สู่คุกประหาร ไม่รู้เรื่อง
ปุถุชน
(เป็นเพียงคน ไม่ใช่มนุษย์)
ปุถุชนคนสามัญ ไม่ต่างกัน กับกาไก่
กิน นอน สืบพันธุ์ ถ่าย ไปวันวัน
คุ้ยเขี่ยหากิน เท่านั้น
มีสัญชาติญาณ ของสัตว์ ที่ขาดเมตตา
ปุถุชนคนทั่วไป ไร้ศรัทธา
ขาดธรรมะ หนทางชีวิต
ทำอะไรตามแต่..ใจคิด
ใจมืดมิด ถูกผิด ไม่สนใจ
ไม่รู้จัก บำเพ็ญทาน การกุศล
ความตระหนี่ ท่วมท้น ปุถุชนคนธรรมดา
ไหลตามกันไปทางต่ำ เหมือนน้ำนั่นหละ
ใกล้ตายจึงได้สติ แต่ว่า ก็สายแล้ว
สมบัติทั้งหลาย ถ้าไม่บำเพ็ญทาน
จะแปลผัน กลายเป็นวิบัติ
เหมือนสนิมเหล็ก กัดเหล็กได้ ประหลาด
สุดคาด สมบัติ มีไว้ทาน
คนพาล นั้น คือคนอ่อนแอ
ส่วนเมตตา แปลว่า อ่อนโยน
เป็นคนกล้า สามารถเสียสละ ไม่บ่น
ส่วนปุถุชนคนพาล ขี้บ่น คนตระหนี่
คนพาล กล้าระราน ทำร้าย
มีสมบัติ ก็ไม่ให้ ช่างไร้เมตตา
กลายเป็นวิบัติ ทำลายสติปัญญา
ไม่ใช่มนุษย์มะนา ที่เกิดมาแสวงบุญ
;;;;;;;;;;
เป็นมนุษย์
(สุดที่ฝึกตนทนกิเลส)
เหมือนตักอาหาร จานร้อนใส่ปาก
ต้องระวังยิ่งนัก ค่อยๆใส่
มีสติตั้ง ไม่วางใจ
ทำใจใสใส ใจเย็นๆ
อย่าดูเบาในงาน ในการทั้งใหญ่น้อย
สติไม่ลอย หนีไป
ขึ้นชื่อว่าบุญ ต้องตั้งใจ
ศรัทธาหลาย ได้บุญใหญ่นัก
เหมือนปลวกก่อจอมปลวก ไม่ลวกๆเล่นๆ
ดูเหมือนยากเข็ญ แต่กลายเป็นสุข
ทำงานละเอียด ใจละเมียด หมดทุกข์
ใจเป็นสุข ด้วยใจหยุดนิ่ง
การทำงานทุกอย่าง ไม่ห่างการฝึกตน
มีฉันทะฝึกฝน จนถึงวิมังสา
ใจหยุดใจนิ่ง แล้วเกิดปัญญา
ให้สุขสมปราถนา อย่างน่าอัศจรรย์
การทำงานเพื่อเงิน เพลินกินเหยื่อ
สติไม่เหลือ มัวเมา
ไม่มีความสุข มีแต่สนุก ถูกใจเจ้า
แล้วดูเบาในความดี มิได้ฝึกตน
เป็นมนุษย์ สุดที่ฝึกฝน ทนกิเลส
ดับตัณหา ต้นเหตุ อุปทาน
ยึดติดโลกโลกีย์ มิจฉาทิฏฐิ มั่น
หลงกลมาร ทุกข์อนันต์ ปรภพ
;;;;;;;;;;
ทางสายกลาง
(ทางชีวิตของมนุษย์)
เหมือนดังนิสัย ของแมลงภู่ เมื่อจับมาคู่กับแมลงวัน
แล้วปล่อยพร้อมกัน ดูซิว่ามันจะไปไหน
แมลงภู่ จะวิ่งสู่ ยอดไม้
ส่วนแมลงวัน แน่นอนได้ ไปที่ส้วม
สรรพสัตว์มีนิสัย นำพาไป ใครๆควรรู้
เราเองก็รู้ได้ รู้นิสัยของตนเอง
จะไปสวรรค์หรืออบาย จะไปดีหรือเสงเครง
ดูได้เอง จะไปไหน ไม่ต้องถามใครแล้ว
คนขี้เหนียว ไม่เคยแลเหลียวใครอื่น
มีแต่ยื่นมือ..จะเอา เจ้าไม่เคยให้
พระสงฆ์องค์เณร แม้เห็น ก็ไม่ใส่ใจ
คนจะเป็นจะตาย ก็ดูดาย ไม่มอง
คนใจคับแคบ เป็นคนแสบ ไม่ใช่มนุษย์
แน่นอนสุด ลงต่ำ ดำว่าย
เหมือนหมู่หนอน ชอนไช
กินนอนสะบาย อยู่ในส้วม
นิสัยมนุษย์ แรกสุด ไม่ขี้เหนียว
ชอบแลเหลียว แลเห็น เป็นต้องช่วย
ผู้ขาดแคลน หรือผู้เจ็บป่วย
เป็นต้องช่วย ด้วยกรุณา
มนุษย์มีใจใส ไม่ขี้โกรธ
มีใจสูง ไม่พิโรธ ให้อภัย
มีผิวพรรณวรรณะ ผ่องใส
น่ากราบน่าไหว้ คล้ายเทวดา
มนุษย์ คือคนดี มีสติสัมปชัญญะ
เดินตามทางพระ คือทางสายกลาง
มีศรัทธา รักบุญกลัวบาป จัง
ชีวิตจึงสมหวัง สุขสมปราถนาทุกประการ
;;;;;;;;;;
รู้จักหน้าที่อันยิ่งของตน
(คือคนอภิชาติ)
การเกิดเป็นมนุษย์ สุดยากยิ่ง
ต้องมีบุญบารมีมากจริงๆ จึงเกิดได้
เปรียบกับเขาโคสองเขา เมื่อเอามาเทียบกับ ขนโคมากมาย
ล้วนไปสู่อบาย ยากหลายจะได้กลับมา
ฝุ่นในเล็บมือน้อยนัก หากเปรียบกับ ฝุ่นในแผ่นดิน
สรรพสัตว์แทบทั้งสิ้น เท่าฝุ่นในแผ่นดิน ไปสู่อบาย
น้อยแสนน้อย เท่าฝุ่นในเล็บมือ เกิดเป็นมุษย์ได้
เกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น โชคดีหลาย ได้สร้างบารมี
ผู้มีบุญบารมีมาก รู้จักแยกแยะ และเตือนตน
พ่อแม่ไม่ต่องบ่น นี้คือคนอภิชาติ
เกิดมาเพื่อเลี้ยงดูมารดาบิดา และสงเคราะห์ญาติ
สงเคราะห์ สังคมประเทศชาติ มหาชน
การรักษาสติไว้ในตน คือคนมีสติสัมปชัญญะ
นี้เป็นกิจกรณียะ อย่างยิ่งของทุกคน
สุขสมปราถนา จะมีมา อย่างเหลือล้น
รู้จักหน้าที่อันยิ่งของตน คือคนอภิชาติ
;;;;;;;;;;