แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คนพาล แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คนพาล แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2567

จงสมาคมกับคนดี (หนีคนพาล) สมาคมกับคนพาล นำทุกข์มาให้ เหมือนคนไข้ โรคติดต่อ คนพาลเลี้ยงไม่เชื่อง เพียงรอ เมื่อโอกาศเหมาะ อกตัญญู

 จงสมาคมกับคนดี
(หนีคนพาล)

สมาคมกับคนพาล นำทุกข์มาให้
เหมือนคนไข้ โรคติดต่อ
คนพาลเลี้ยงไม่เชื่อง เพียงรอ
เมื่อโอกาศเหมาะ อกตัญญู

สมาคมกับคนชั่ว ไม่ดีเลย
หาความสะเบย ไม่ได้
ชอบคิดชั่วทำชั่ว ทุกวันไป
สงบสติไม่ได้ ใจมีกิเลส
การสมาคมกับคนดี เป็นความเจริญ
หนีความเพลิน ความสนุก
หนีกิเลสตัณหา พาทุกข์
มีสุข บนเส้นทางธรรม
ผู้ไม่คบหาคนชั่ว ย่อมได้รับแต่สุข
ใจหมดทุกข์ สุขสม
บุญหลั่งไหล สุขบรม
ความทุกข์ระทม ห่างไกล
ผู้เที่ยวสมาคม กับคนพาล
 ย่อมแม่นมั่น เศร้าโศก
สิ้นกาลนาน ไร้โชค
มีแต่ความวิปโยค ฉิบหาย
ไพรี อยู่ในที่ใด
บัณฑิต ไม่ควรอยู่ในที่นั้น
ใช้ขันติ เป็นอาวุธ ปราบพาล
แม่นมั่น ไพรีหนีกระเจิง
ควรระแวง ในศัตรู
แม้ในหมู่มิตร ก็ไม่ควรไว้ใจ
ขาดสติสัมปชัญญะ ประมาทคือตาย
สั่งสมบุญไม่ได้ หากไร้สติ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567

อุปสรรคปัญหา (มาจากคนพาล) อุปสรรค และปัญหา มีแหล่งที่มา คือ คบคนพาล ทุกข์ทั้งหลาย เป็นเพราะมัน การไม่คบคนพาล เป็นต้นชีวิต

 อุปสรรคปัญหา
(มาจากคนพาล)

อุปสรรค และปัญหา
มีแหล่งที่มา คือ คบคนพาล
ทุกข์ทั้งหลาย เป็นเพราะมัน
การไม่คบคนพาล เป็นต้นชีวิต

คนพาล มีใจขุ่นมัว เป็นปกติ
ชอบตำหนิ จับผิด เพ่งโทษ
ไร้ศรัทธา เป็นมิจฉา คนโฉด
เป็นเสนียด เป็นโทษ ต่อผู้อยู่ใกล้
คนพาลที่น่ากลัว คือพาลภายใน
ไม่ใช่ใคร คือตัวเราเอง
ปล่อยใจ ให้เที่ยวไป คนเสงเครง
ตามใจตนเอง จนเคยตัว
ชีวิต มีจิตนำไป
จึงปล่อยไม่ได้ ต้องมีสติ
สติเป็นธรรม ค้ำชีวี
การฝึกสติ ฝึกตน คนบัณฑิต
มีสติยกใจ ไม่ให้ตกต่ำ
ต้องจดจำ รักษาใจ ให้ใสเสมอ
ด้วยทานศีลภาวนา นั่นแหละเธอ
เข้าวัดเสมอ แสวงบุญ
สติ คุณธรรมใหญ่ คล้ายมารดา
คอยดูแลรักษา บุตรน้อย
คนพาล เป็นมาร ที่คอย
พาบุตรน้อย คือใจ ไปทางต่ำ
สติสัมปชัญญะ ธรรมมีอุปการะมาก
ให้พ้นจาก ทุกข์ทั้งหลาย
แม้อยู่ในโลก มีทุกข์โศกมากมาย
ก็อยู่ได้สะบาย คล้ายอยู่บนเกาะ

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

การให้การทาน (งานชีวิต) คนพาล เท่านั้น ที่ไม่ สรรเสริญทาน เป็นปุถุชน ตัณหาบาน นักโทษประหาร วันสุดท้าย

 การให้การทาน
(งานชีวิต)

คนพาล เท่านั้น
ที่ไม่สรรเสริญ การให้การทาน
เป็นปุถุชน ตัณหาบาน
 นักโทษประหาร วันสุดท้าย

ผู้ให้ ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
เป็นที่รักใคร่ ของหมู่คน
คนดีคบหา เทวดากระตือลือล้น
มีคน ร่วมทุกข์ร่วมสุข
ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก
คนหมู่มาก ย่อมคบเขา
คนดีลงรักษา ปานเทวดาเจ้า
ไม่เงียบเหงา โดดเดี่ยว
ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก
กล้าหาญนัก ท่ามกลางชุมชน
เป็นศักดิ์เป็นศรี ของสังคม
คนเหนือคน ปนเทวดา
ปราชญ์ ผู้ให้ความสุข
ย่อมได้สุข หมดทุกข์โศกศัลย์
ให้สิ่งใด ย่อมได้สิ่งนั้น
บุญบาปจัดสรร วิบาก
ผู้ให้ สิ่งที่ชอบใจ
ย่อมได้ สิ่งที่ชอบใจ
กฎแห่งกรรม อจินไตย
บุญบาปยิ่งใหญ่ เหนือโลกและชีวิต
ผู้ให้สิ่งประเสริฐ ถึงฐานะประเสริฐ
ล้ำเลิศ เป็นธรรมดา
ให้ธรรม ให้ทางพ้นวัฏฏะ
นั่นหละ สิ่งประเสริฐสุด

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566

ไม่คบคนพาล (สำคัญสุดขีด) ชีวิต คือการเดินทางไกล ทุกข์สุขอย่างไร อยู่ที่เพื่อนสนิท ไม่คบคนพาล มงคลชีวิต สำคัญสุดขีด มงคลที่หนึ่ง

 ไม่คบคนพาล
(สำคัญสุดขีด)

ชีวิต คือการเดินทางไกล
ทุกข์สุขอย่างไร อยู่ที่เพื่อนสนิท
ไม่คบคนพาล มงคลชีวิต
สำคัญสุดขีด มงคลที่หนึ่ง
คนพาล มีทรัพย์มีอำนาจ
เป็นคนฉลาด ขาดฉลียว
ในยุคของคนพาล คนเปลี้ยว
ปุถุชนหน้าเขียว ทุกข์ยาก
คนดีมีบุญ พ้นภัย
เหมือนอยู่บนเรือใหญ่ แสนสะบาย
หมดทุกข์หมดโศก หมดโรคภัย
เป็นอจินไตย อัศจรรย์
เพื่อนดี นำ ทำพระนิพพานให้แจ้ง
บุญแสวง สร้างบารมี
 เพื่อนชั่ว ที่น่ากลัว อยู่ในตัวเรานี้
 ใจขาดสติ คิดชั่ว
ฝึกสติ สร้างเพื่อนดี ในตน
พาหลุดพ้น โลกโลกีย์
เดินทางธรรม สุขล้ำ ชีวี
สุขสมปราถนา บังกิดมี แน่แท้
ยอดกัลยาณมิตร จิตที่ฝึกดีแล้ว
เป็นดังแก้ว สารพัดนึก
บัณฑิตฝึกตน ทนฝึก
สุดคาดนึก ของคนทั่วไป
บัณฑิต คือคนดี ที่ฝึกตน
เป็นคน..อาชาไนย แกล้วกล้า
เก่งเกินคน ล้นศักดา
นำชาวประชา แสวงบุญสร้างบารมี

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2566

ระเบิดเวลา (มีติดตัวมาทุกคน) อำนาจ เป็นใหญ่ในโลก ไม่ตลก สุดยอดอำนาจ คือบารมี รัศมี กำลังฤทธิ์ สิทธิ อำนาจบุญบารมี พาลีพ่าย

ระเบิดเวลา
(มีติดตัวมาทุกคน) 

อำนาจ เป็นใหญ่ในโลก
ไม่ตลก สุดยอดอำนาจ คือบารมี
รัศมี กำลังฤทธิ์ สิทธิ
อำนาจบุญบารมี พาลีพ่าย

อำนาจ เด็ดขาดของมาร
ร้ายแรงฟาดฟัน ให้ทุกข์
ทั้งตนและคนอื่น ไม่มีสุข
ดูเหมือนสนุก แต่หนีทุกข์ ไม่พ้น
อำนาจทางโลก เสพแล้วติด
ใจมืดมิด คิดชั่วพูดชั่วทำชั่ว
เป็นมารสังคม เห็นแก่ตัว
ช่างน่ากลัว หนีได้พ้น คนมีบุญ
แปลกนัก บาปแพ้บุญ
คนดี ขันติหนุน ได้ชัยชนะ
ด้วยบารมี ไม่ธรรมดา
เราจึงเกิดมา แสวงบุญสร้างบารมี
คนพาลห้าวหาญ ระรานคนดี
คนดี ไม่ได้ทำอะไร
ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
แต่คนพาลพ่าย ภัยตนเอง
พ่ายบาปศักดิ์สิทธ์ มีฤทธิ์ทำลาย
เป็นคล้าย ระเบิดเวลา ติดตัวมาทุกคน
เมื่อทำชั่วมาก ก็จักทำลายตน
เราทุกคน มีระเบิดเวลา
คนดีใช้ขันติสู้ กู้ชีวิต
เกิดบุญศักดิ์สิทธิ์ เป็นเกราะป้องกัน
คนพาล ได้บาปมหันต์
 กระตุ้นระเบิดเวลา ประหาร ตนเอง

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

โลกยุคทมิฬ (ถิ่นปุถุชน) บัณฑิต ละธรรมดำ เจริญธรรมขาว เป็นธรรมดา เป็นนิสัย ธรรมชาติ ผู้มีปัญญา ด้วยชีวา มีจิตนำ

 โลกยุคทมิฬ
(ถิ่นปุถุชน)

บัณฑิต ละธรรมดำ
เจริญธรรมขาว เป็นธรรมดา
เป็นนิสัย ธรรมชาติ ผู้มีปัญญา
ด้วยชีวา มีจิตนำ
ผู้ฝึกตน คนบัณฑิต
ฝึกจิตให้นิ่ง ใสสว่าง
เกิดปัญญารู้เห็น จริงจัง
ไม่คั่งค้าง ไม่สงสัย ใจสุขยิ่ง
คนพาลใจมืดดำ ของตัณหา
เป็นธรรมดา หาสุขทางโลก
ใครเข้าไปเตือน เหมือนตลก
ดับทุกข์โศก ด้วยความเพลิน
คนพาล ปุถุชน กิเลสหนา
เหมือนไก่กา ตั้งหน้าหากิน
ทะเลาะ เบาะแว้ง รักษาถิ่น
แย่งกันกิน แย่งกันนอน
คนพาล หน้าด้าน แย่งชิง
ชอบยิ่ง ลาภยศสรรเสริญ
สติสั้น อยู่ไปวันๆ กับความเพลิน
กำลังเดิน สู่คุกประหาร
ปุถุชน นักโทษประหาร มื้อสุดท้าย
ก่อนตาย ถูกตามใจ ทุกอย่าง
ให้กินให้นอน สะบายจัง
ชักตาตั้ง เมื่อได้สติ ตอนใกล้ตาย
ปุถุชนคนพาล สักเท่าขนวัว
บัณฑิต เท่าสองเขาวัว เปรียบได้
ขนทั้งตัว กับเขาวัว ห่างกันไกล
โลกทุกวันนี้ จึงใช่ ยุคทมิฬ

 ;;;;;;;;;; 

วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566

คนพาลเสนียด (อย่าเฉียดใกล้) คนพาล เสนียดอย่างยิ่ง เหมือนผีสิง ทิ้งพระ หามาร เห็นผิด ไม่เอาทาน น่าสงสาร คิดว่าทาน สูญเปล่า

 คนพาลเสนียด
(อย่าเฉียดใกล้)

คนพาล เสนียดอย่างยิ่ง
เหมือนผีสิง ทิ้งพระ หามาร
 เห็นผิด ไม่เอาทาน
น่าสงสาร คิดว่าทาน สูญเปล่า

คนพาล ไม่เชื่อ บูชา
กราบไหว้วันทา เสียเวลาเปล่า
คนเหมือนกัน บูชา ทำไมเล่า
ปัญญาเขลา เข้าไม่ถึง
คนพาล ไม่เชื่อ เส้นสรวง
เป็นคำลวง ที่ว่า เทวดามี
ไม่รู้ว่า บุญอุทิศ คือคนที่
กตัญญูกตเวที บรรพบุรุษ
คนพาล ไม่เชื่อกรรมวิบาก
จมปลัก..ตัณหา เชื่อตายแล้วสูญ
ได้สติก่อนตาย น่าอาดูลย์
ไม่ได้แสวงบุญ สุดเสียใจ
คนพาล ไม่เชื่อโลกนี้ มีคุณนัก
ไม่รู้จักแสวงบุญ สร้างบารมี
เป็นมนุษย์สุดวิเศษ ก็อย่างนี้
มาถึงที่ ยังงี่เง่าอยู่อีก
คนพาล ไม่เชื่อ โลกหน้ามี
เป็นที่ รับกรรมวิบาก
แสวงบุญสร้างบารมี สุดยาก
เวียนวนวัฏฏจักร คือนักโทษประหาร
คนพาล ไม่เชื่อ พ่อแม่มีคุณ
คนมีบุญ นึกถึงคุณพ่อแม่ได้
ส่วนคนพาล กิเลสบาน คนจัญไร
ผุดมาได้ จากนรก
คนพาล เทวดามี ไม่จริง
ไม่เชื่ออย่างยิ่ง นรกสวรรค์
ตายแล้วสูญ เป็นมูลดินเท่านั้น
คนพาล มีทิฏฐิ เป็นมิจฉา
คนพาล เชื่อ พระผู้รู้แจ้งไม่มี
มิจฉาทิฏฐิ ไม่เข้าวัด
เห็นคนแสวงบุญ โง่ขนาด
หัวเราะเยาะ ไม่คิดคาด ว่าตนโง่
คนพาล เป็น เช่นของเหม็นเน่า
 ผู้ที่เข้า..ไปใกล้ ไม่อยู่เย็น
 ร้อนใจ มีทุกข์เข็ญ
พาลร้ายสุด เป็น พาลในตน

;;;;;;;;;;