วันพุธที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2566

คนพาลเสนียด (อย่าเฉียดใกล้) คนพาล เสนียดอย่างยิ่ง เหมือนผีสิง ทิ้งพระ หามาร เห็นผิด ไม่เอาทาน น่าสงสาร คิดว่าทาน สูญเปล่า

 คนพาลเสนียด
(อย่าเฉียดใกล้)

คนพาล เสนียดอย่างยิ่ง
เหมือนผีสิง ทิ้งพระ หามาร
 เห็นผิด ไม่เอาทาน
น่าสงสาร คิดว่าทาน สูญเปล่า

คนพาล ไม่เชื่อ บูชา
กราบไหว้วันทา เสียเวลาเปล่า
คนเหมือนกัน บูชา ทำไมเล่า
ปัญญาเขลา เข้าไม่ถึง
คนพาล ไม่เชื่อ เส้นสรวง
เป็นคำลวง ที่ว่า เทวดามี
ไม่รู้ว่า บุญอุทิศ คือคนที่
กตัญญูกตเวที บรรพบุรุษ
คนพาล ไม่เชื่อกรรมวิบาก
จมปลัก..ตัณหา เชื่อตายแล้วสูญ
ได้สติก่อนตาย น่าอาดูลย์
ไม่ได้แสวงบุญ สุดเสียใจ
คนพาล ไม่เชื่อโลกนี้ มีคุณนัก
ไม่รู้จักแสวงบุญ สร้างบารมี
เป็นมนุษย์สุดวิเศษ ก็อย่างนี้
มาถึงที่ ยังงี่เง่าอยู่อีก
คนพาล ไม่เชื่อ โลกหน้ามี
เป็นที่ รับกรรมวิบาก
แสวงบุญสร้างบารมี สุดยาก
เวียนวนวัฏฏจักร คือนักโทษประหาร
คนพาล ไม่เชื่อ พ่อแม่มีคุณ
คนมีบุญ นึกถึงคุณพ่อแม่ได้
ส่วนคนพาล กิเลสบาน คนจัญไร
ผุดมาได้ จากนรก
คนพาล เทวดามี ไม่จริง
ไม่เชื่ออย่างยิ่ง นรกสวรรค์
ตายแล้วสูญ เป็นมูลดินเท่านั้น
คนพาล มีทิฏฐิ เป็นมิจฉา
คนพาล เชื่อ พระผู้รู้แจ้งไม่มี
มิจฉาทิฏฐิ ไม่เข้าวัด
เห็นคนแสวงบุญ โง่ขนาด
หัวเราะเยาะ ไม่คิดคาด ว่าตนโง่
คนพาล เป็น เช่นของเหม็นเน่า
 ผู้ที่เข้า..ไปใกล้ ไม่อยู่เย็น
 ร้อนใจ มีทุกข์เข็ญ
พาลร้ายสุด เป็น พาลในตน

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น