แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เมตตา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เมตตา แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2566

ผู้ฆ่าย่อมทุกข์ (สุขไม่มี) สรรพสัตว์ พึงรู้ ชาติภพที่อยู่ เป็นทุกข์ ด้วยกรรมจากการฆ่า ไล่ล่าสนุก ผู้ฆ่า ย่อมทุกข์ สุขไม่มี

ผู้ฆ่าย่อมทุกข์
(สุขไม่มี)

สรรพสัตว์ พึงรู้
ชาติภพที่อยู่ เป็นทุกข์
ด้วยกรรมจากการฆ่า ไล่ล่าสนุก
ผู้ฆ่า ย่อมทุกข์ สุขไม่มี

ไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต
ศีลข้อที่หนึ่ง จึงลิขิตขึ้นมา
อบายภูมิ เป็นที่อยู่ อย่าสงกา
ทุกข์หนักหนา หาที่เปรียบไม่ได้

เมื่อมีโอกาศได้เกิดเป็นมนุษย์
ร่างกายแย่สุดสุด น่าเวทนา
เจ็บป่วยไข้ ยากเยียวยา
มีศัตรูกล้า ไล่ล่า เบียดเบียน

ภัยทั้งหลาย ไล่ตามประชิด
กรรมตามติด อนันตกาล
เป็นมิจฉาทิฏฐิ ยอดคนพาล
อบายภูมิ เป็นบ้าน ถาวร

ปุถุชน คนปัญญาน้อย
ปัญญาเสื่อมถอย ด้วยสุรา
ทิฏฐิ จึงเป็นมิจฉา
 การฆ่าเป็นธรรมดา ของปุถุชน

ทางพระ เน้นหนักหนา สติ
แต่ทางโลกีย์ กลับทำลาย
ปุถุชนกิเลสหนา ไม่รู้อะไร
เหมือนปลาที่แหวกว่าย ในน้ำ

แทนการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ควรมีจิตเมตตา เยียวยาญาติ
ได้บุญบารมี ติดตามไม่ขาด
สุขสมมาด ทุกชาติภพ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เมตตานัก (จึงรู้จักแบ่งปัน) เวลามีข้าวน้ำ ต้องการคนที่รัก เมตตานัก รู้จัก แบ่งปัน มีสุขสม กลมเกลียวกัน บุตรหลาน รักกัน อยู่เย็น

 เมตตานัก
(จึงรู้จักแบ่งปัน)

เวลามีข้าวน้ำ ต้องการคนที่รัก
เมตตานัก รู้จัก แบ่งปัน
มีสุขสม กลมเกลียวกัน
ลูกหลาน สุขสันติ์ กตัญญู

รักเมตตา ลักษณะผู้ใหญ่
สามารถขยายได้ ไม่สิ้นสุด
มีอานุภาพ ชำระให้บริสุทธิ์
เป็นธรรมาวุธ สุดเวิเศษ
ธรรมชาติสงบสดใส สวยงาม
สรรพสัตว์ก็ตาม สงบ
อาหารการกิน มีครบ
หมู่มารยอมสยบ แพ้ใจ
เมตตามี ความตระหนี่ ไม่มา
แกล้วกล้า สละสุขส่วนตน
ยิ่งสละยิ่งสุข ได้บุญกุศล
กลายเป็นคน สันโดษสมถะ
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง
มุ่ง บำเพ็ญทาน
แสวงบุญสร้างบารมี เป็นชีวัน
ทำพระนิพพานให้แจ้งนั้น กรณียกิจ
ใจนิ่งใจหยุด สันโดษสมถะ
มีสุขและเมตตา อย่างน่าอัศจรรย์
เป็นครรลองธรรม บุญอนันต์
สุขสันติ์ สมปราถนากันทุกคน
 พระพุทธศาสนา วิชาชีวิต
มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัย ในตน
สันโดษสมถะ ใจหยุด หลุดพ้น
พลิกผันชีวิตตน เป็นคนเกิดใหม่

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สุขแท้ (ได้แก่เมตตา) ความสุข เป็นประตู ไปสู่ สำเร็จ สมปราถนา ด้วยความสุขนั้น ไม่ธรรมดา กำลังใจจะมา ขยันขันติจะมี

สุขแท้
(ได้แก่เมตตา)

 ความสุข เป็นประตู
ไปสู่ สำเร็จ สมปราถนา
ด้วยความสุขนั้น ไม่ธรรมดา
กำลังใจจะมา ขยันขันติจะมี

 อุปสรรคปัญหา ชนะด้วยความเพียร
อยากเป็นเซียน ต้องขยันขันติ
มดปลวก เป็นตัวอย่าง อย่างดี
ก่อจอมปลวก ดุจคีรี ภูเขา
ปลวกก่อจอมปลวก ไม่มีหยุด
สามัคคีสุดๆ พร้อมหน้า
ทั้งวันทั้งคืน ตลอดเวลา
เป็นจอมปลวกมหึมา น่าอัศจรรย์
 มีความสุขได้ ไม่ธรรมดา
ต้องเป็นผู้เสียสละ บำเพ็ญทาน
มีปัญญา มีศรัทธา กตัญญูท่าน
ความสุขแท้นั้น คู่กับเมตตา
โภคทรัพย์ มากับความตระหนี่
มีมากก็อยากได้มาก นี้ คือคน
ทรัพย์ เหยื่อของตัณหา ปุถุชน
เป็นคน..ขาดขันติ มิมีเมตตา
มีโภคทรัพย์สมบัติ มันสนุก
ไม่ใช่ความสุข ที่มีเมตตา
ความสนุก เหยื่อล่อของมารา
ล่อปุถุชนกิเลสหนา ไปอบาย
มีบุญ จึงสุขได้
บันดาลให้ สำเร็จสมปราถนา
ด้วยบุญนั้น เป็นอัตตา
บันดาลด้วย วาสนาบารมี

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565

ปราชญ์แท้ (แน่แน่คมในฝัก) ปราชญ์ ไม่อวดฉลาด แต่ประหยัดคำ ไม่พูดพร่าม เป็นน้ำไหลไฟดับ พูดด้วยจิตเมตตา พูดช้ากระชับ คนสดับ คล้ายกับ ถูกสะกด

ปราชญ์แท้
(แน่แน่คมในฝัก) 

ปราชญ์ ไม่อวดฉลาด แต่ประหยัดคำ
ไม่พูดพร่าม เป็นน้ำไหลไฟดับ
พูดด้วยจิตเมตตา พูดช้ากระชับ
คนสดับ คล้ายกับ ถูกสะกด

ผู้มีจิตเมตตา มีวาจา อ่อนโยน
เป็นคน มีรักแท้ แก่สรรพสัตว์
มอบให้กับทุกชีวิต ไม่ขาด
ทั้งโลกและสรรพสัตว์ อยู่เย็น

เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
ดับทุกข์ดับโศก ให้ชาวโลกทั้งผอง
เกิดความรู้สึก รักใคร่กัน ฉันพี่น้อง
สามัคคีปรองดอง เป็นหนึ่งเดียว

ปราชญ์วิปริต จิตฟั่นเฟือน
ปากขยับเขยื้อน ขยัน วิจารณ์คนอื่น
ด้วยใจไม่เป็นสุข ไม่ชื่น
 พาสังคมแตกตื่น ขาดสามัคคี

ปราชญ์แท้ ได้แก่ผู้คมในฝัก
งามยิ่งนัก งามศีลาจารวัตร
มีหมู่คณะ ก็งดงาม มารยาท
สถานที่ สะอาด สว่าง สงบ

สร้างวัดให้เป็นวัด สร้างพระให้เป็นพระ
มีปณิธานกล้า ทำพระนิพพานให้แจ้ง
 สร้างบารมี เต็มที่ บุญแสวง
เป็นแหล่ง..พระนิพพาน ในเมืองมนุษย์

ปราชญ์แท้ ได้แก่ ธรรมกาย
รู้แจ้ง ทั้งภายนอกภายใน ทุกสิ่งอย่าง
พระรัตนตรัยในตัว มารกลัวจัง
จึงปิดบัง ยากหลาย ใครจะศรัทธา

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

จงมอบรักแท้ (ให้แก่กัน) จงมอบรักแท้ ให้แก่กัน ขอย้ำ อยากเข้าถึงธรรม ไม่มีข้อแม้ เป็นรัก ของพ่อของแม่ อบอุ่นแท้ ทั้งตนและคนอื่น

 จงมอบรักแท้
(ให้แก่กัน)


จงมอบรักแท้ ให้แก่กัน ขอย้ำ
อยากเข้าถึงธรรม ไม่มีข้อแม้
เป็นรัก ของพ่อของแม่
อบอุ่นแท้ ทั้งตนและคนอื่น

รักแท้นั่นหรือ คือเมตตา
มีจิตปราถนาดี อยากให้มีความสุข
แผ่ออกไปทั่วทิศ คิดขอให้พ้นทุกข์
ยิ่งสุข เมื่อเห็นเขาพ้นทุกข์แล้ว

ใจมุทิตา เป็นเทวดาเดินดิน
ใจหมดสิ้น ความอิจฉาริษยา
มาปกป้อง แซ่ซร้อง อนุโมทนา
เมื่อถึงอุเบกขา เป็นเทวดาศักดิ์ใหญ่

อุเบกขา ใจจะปล่อยวาง
ใจยิ่งสว่าง หยุดนิ่ง ดิ่งลงลึก
มิติซ้อนมิติ ไม่คาดคิดนึก
ธรรมชาติ ช่างพิลึกพิลั่น

เมตตา เป็นเครื่องหมาย สัมมาสมาธิ
เป็นจิตที่ ผ่านศูนย์กลางกาย เท่านั้น
ปัญญานอกศูนย์กลางกาย เป็นมาร
มีฤทธิ์มหาศาล เผด็จการนั่นเอง

เงิน มีค่าเหลือเกิน ในโลกมนุษย์
แต่ก็เป็นอาวุธ ฆ่าคน
เงินมีค่ามาก หากรู้จักบุญกุศล
แต่ยากเหลือล้น ด้วยคนติดเงิน

เมื่อติด ก็อยาก นี่หละอุปาทาน
ยากที่จะแบ่งปัน ฉันพี่น้อง
เกิดมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบ เป็นบ๊อง
ไม่สงเคราะห์ ญาติพี่น้อง มหาชน

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

เมตตาธรรม (ค้ำจุนโลก) เมตตา นั่นหละ เครื่องค้ำจุนโลก ดับโศก ดับทุกข์ ให้ปวงชน ผู้มีเมตตา จะปราถนาดี หมดทุกคน ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ถือทุกคน เสมอญาติ

 เมตตาธรรม
(ค้ำจุนโลก)


เมตตา นั่นหละ เครื่องค้ำจุนโลก
ดับโศก ดับทุกข์ ให้ปวงชน
ผู้มีเมตตา จะปราถนาดี ต่อทุกคน
มีสุขล้น ถือทุกคน เสมอญาติ

เมตตาบารมี แผ่รัศมี สงบเย็น
ดุจดวงตะวัน ไม่เว้น..ว่าง
ขจัดบาปอกุศล ให้เจือจาง
ให้โลกเย็นลงบ้าง ห่างโรคภัย

โลกขาดเมตตา ภัยนาๆจึงมีมาก
วัตถุ นิยมกันนัก จมปลักตัณหา
พุทธศาสน์ อ่อนล้า หมู่มารอหังการ์
จึงเป็นธรรมดา ของโลกา ยุคทมิฬ

คนดี มีเมตตา ไม่ถือสาคนพาล
เมตตาเท่านั้น ดุจมารดาแม่
แม้บุตรอกตัญญู ยังอุ้มชู ไม่มีแต่
มีแต่รักแท้ ให้แก่ลูก

 คนดีมีเมตตา คือกล้าหาญ
เสียสละ ทุกสิ่งอัน แล้วมีสุข
ไม่ใช่โง่เขลา เบาปัญญา แต่หมดทุกข์
เกิดสุขทั้งตน และคนอื่น

เมตตาบารมี นี้ ปราบมาร
หมู่คนพาล ละอายใจ ไม่กล้า
ยอมแพ้ ยกมือไหว้ วันทา
กลับใจ ขออาสา ปราบมาร

สุขทั้งตนและท่าน สวรรค์บนดิน
ดับทุกข์โศกสิ้น ให้โลกทั้งผอง
เมตตาบารมี นี้ หนึ่งไม่มีสอง
ชาวโลกทั้งผอง ล้วนพี่น้องกัน

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

รักแท้ (ได้แก่เมตตา) การพลัดพราก จากสิ่งที่รัก เป็นทุกข์ มัวสนุก ทุกข์ถนัด จากพลัดพราก ยากนัก จักรู้ ว่าเป็นปลัก ความเมตตานั่นต่างหาก รักแท้

 รักแท้
(ได้แก่เมตตา)


 การพลัดพราก จากสิ่งที่รัก เป็นทุกข์
มัวสนุก ทุกข์ถนัด จากพลัดพราก
ยากนัก จักรู้ ว่าเป็นปลัก
ความเมตตานั่นต่างหาก รักแท้

ถ้าเพียงแต่รัก นั้นจัก เห็นแก่ตัว
เมามัว ด้วยกิเลสตัณหา
ไม่ใช่รัก แต่หลง ดับปัญญา
รักแท้นั่นหนา พาสร้างวาสนาบารมี

ความรัก พากันจมปลัก..โคลนดูด
หรือปลักคูต ดูดคนทั้งสอง
ไม่ได้ผุดได้เกิด ไหลลงต่ำ น้ำตานอง
ทุกข์กระหน่ำ กรรมสนอง อจินไตย

รักแท้ของพ่อแม่ มีแต่ให้
เป็นเทวดาศักดิ์ใหญ่ ปกปักษ์รักษา
เป็นพระพรหม สุดเมตตา
บริสุทธิ์นักหนา ดุจว่า อรหันต์

อยากมีความสุข เลิกสนุกสนาน
มอบรักแท้ ให้แก่กัน ดีกว่า
ชวนกันเข้าวัด เข้าวา
นี่หละ ที่เรียกว่า คู่บุญคู่บารมี

รักกับเมตตา ต่างกัน ปานฟ้ากับเหว
รักเป็นเรื่องเลว เหลวไหล
สติขาด เหมือนสัตว์ ทั่วๆไป
รับความดีไม่ได้ คล้ายภาชนะคว่ำ

สติปัญญา กับเมตตา มาพร้อมกัน
สัมมาสมาธินั้น สำคัญมาก
สมาธินอกศูนย์กลางกาย มีอานุภาพ
แต่แปลกมาก ขาดเมตตา

;;;;;;;;;; 

วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565

รักษาใจเมตตา (บุญวาสนาไหลมาไม่ขาดสาย) สุขภายใน ใจเมตตา จะมาพร้อม ละมุนละม่อม นุ่มนวล ควรแก่การงาน รักษา ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน สามัคคีประสาน สวรรค์บนดิน

รักษาใจเมตตา
(บุญวาสนาไหลมาไม่ขาดสาย)

สุขภายใน ใจเมตตา จะมาพร้อม 
   ละมุนละม่อม นุ่มนวล ควรแก่การงาน
รักษา ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน
สามัคคีประสาน สวรรค์บนดิน
สุขภายใน เกิดจากเก็บใจ ไว้ในตน
มีสติแจ่มใส ไม่หม่น ไม่หมองไหม้
บุญจากพระนิพพาน ได้การ หลั่งไหล
อุปสรรคปัญหาหมดไป ชีวิตใสสด
ใจเมตตา ประดุจมารดา รักบุตรน้อย
หรือแม่ไก่ ที่คอย..ดูแลลูกไก่
สละชีวิต รักลูกสุดจิต ไม่กลัวอีการ้าย
 ชีวิตปลอดภัย สมสุข ทุกประการ
ใจเมตตา กรุณาหลาย ใจยิ่งกว้าง
ความสุข ประดัง เปี่ยมล้น
ทานศีลภาวนา ขยาย ใจตน
สุขสมทุกคน ทั้งตน และคนอื่น
 ทุกข์ ด้วยใจแคบ แสบคน
 ไม่อดทน เป็นคน ขาดเมตตา
ผิดถูก ไม่รู้ เอาแต่ใจกู เหมือนวัวบ้า
 อุปสรรคปัญหา ได้ท่า มาพร้อมพรั่ง
คนพาลทำชั่ว ไม่กลัวบาปกรรม
ทำแล้วทำ เหมือนบาปกรรม ไม่มี
บุญวาสนายังค้ำ เคยสมสร้างความดี
บุญวาสนายังมี ยังอวดดีได้อยู่
สุขประดัง แล้วตั้งจิตอธิษฐาน
  ขอให้ศรัทธามั่น ในการ สร้างบารมี
  เหลือกินเหลือใช้ ไม่ตระหนี่
 รักสร้างบารมี ตลอดชีวี ตลอดไป
อธิษฐาน ปรารภตน เพื่อคนทั้งหลาย
ไม่ได้หมาย เพียงตน คนเดียว
 ตั้งจิตมุ่งมั่น โน้มเหนี่ยว
  สร้างบารมี ให้เชี่ยว ทุกภพชาติ
อธิษฐาน เป็นการ ต่อบุญ
เป็นคุณ คล้ายมี จีพีเอส
ทำบุญ แล้วอธิษฐาน นี้วิเศษ
เป็นเหตุให้วาสนา ไหลมาไม่ขาดสาย

;;;;;;;;;;