คุณธรรมสันโดษ
(เป็นทั้งหมดของชีวิต)
;;;;;;;;;;
คุณธรรมสันโดษ
(เป็นทั้งหมดของชีวิต)
;;;;;;;;;;
ความประมาท
(ทำลายชาติประชาชน)
;;;;;;;;;;
เกียจคร้าน
(ผิวพรรณหยาบ)
;;;;;;;;;;
ปฏิบัติธรรม
(เลิศล้ำชีวิต)
เป็นบัณฑิตฝึกตน เปี่ยมล้นขันติ
ทุ่มชีวีฝึกสติ มิถอนถอย
ทำพระนิพพานให้แจ้ง อันเลิศลอย
หนีกรรมใหญ่น้อย ที่คอยรังควาน
คนอื่นผิดเห็นง่าย ผิดในตนเห็นยาก
ขาดสติเป็นหลัก รู้จักแต่มองนอกตน
การฝึกสติ จึงหนีไม่พ้น
เป็นคนเหนือคน ต้องฝึกตน ฝึกใจ
ความเคารพ งามจบ ถ้าฝึกได้
เป็นคุณธรรม ที่ยิ่งใหญ่ ให้ปัญญา
อยากเป็นบัณฑิต ต้องรู้จัก คารวะ
ส่วนพวกพาลา คารวะ ไม่เป็น
ประโยชน์ย่อมเลยไป ผู้ไม่ใส่ใจงาน
ด้วยตัณหาบาน ชอบจังความสนุก
ขาดสติปัญญา จึงประสพทุกข์
รักสนุก ทุกข์ถนัด ชาติพาลา
คนวัยหนุ่ม คุมตัณหาได้ยาก
นอกจาก กตัญญู อยู่ในโอวาท
มีบุพพการี ที่ไม่ประมาท
พาแสวงบุญไม่ขาด ตั้งแต่น้อย
ประโยชน์ย่อมล่วง ผู้ห่วงหาฤกษ์อยู่
ไม่ต่างจากผู้ เกียจคร้าน งานมีปัญหา
ขาดความอดทน อดกลั้น นั่นหละ
ด้วยว่า ใจนั่นหนา ขาดสติ
คนทั้งหลาย รู้ไว้ ไร้ปัญญา
เหมือนไก่กา เอาแต่หากิน
ชีวิตหลังตาย ไปอบาย แทบทั้งสิ้น
การฝึกสติเป็นอาจิณ จึงจำเป็น
;;;;;;;;;;
มลทินแม้เล็กน้อย
(อย่าปล่อยไว้)
คุกประหาร สังสารวัฏ รอผู้ประมาทอยู่
พระผู้รู้ เวทนา สรรพสัตว์
ติดกิเลสตัณหา อุปาทาน จึงประมาท
ไม่เชื่อเด็ดขาด ว่าโลกนี้ เป็นเช่นโรงละคร
ทุกอย่างที่เห็น ที่เป็น แม้จับต้องได้
แต่มันไม่ใช่ ของจริง แต่เหมือนจริงๆ
เหมือนหลับลึก แล้วฝัน เหมือนกันยิ่ง
กรรมวิบาก จริงๆ ก็อย่างนั้น
ดังนั้น คนที่อยู่ในโลกโลกีย์ เหมือนกับ หลับอยู่
ตราบได ที่เป็นผู้ ลืมสติ
คือไม่ประคองใจ อยู่ในกาย ไว้ให้ดี
เพลิดเพลิน โลกโลกีย์ สนุกสนาน
เหย้าเรือน มีความไม่หมั่น เป็นมลทิน
ใจคนหมดสิ้น ความเป็นคน
กิเลสตัณหา เข้ามาเปื้อนปน
ความเป็นคน..เหลือน้อย ความสุขถอยออกไป
ความเกียจคร้าน เป็นมลทิน แห่งผิวพรรณ
ใจที่เบิกบาน ผิวพรรณ จะงาม
คนเกียจคร้าน ใจหมอง ผิวจึงหมองคล้ำ
อยากผิวงามล้ำ จงขยันทำความสะอาด
ความประพฤติชั่ว เป็นมลทินของหญิง
งามมารยาท งามยิ่ง งามจับใจ
เป็นความสวย ภายใน
สวยภายใน สวยจับใจ อนันตกาล
;;;;;;;;;;