วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

เจริญสติภาวนา (ชำระบาป) ผู้ยังอาฆาต ย่อมไม่อาจระงับเวร จะเป็น เช่นเถร เทวทัต มีปมด้อย คอยกระตุ้น ทุกชาติ เกิดจิตวิปลาส ขาดสติ

 เจริญสติภาวนา
(ชำระบาป)

ผู้ยังอาฆาต  ย่อมไม่อาจระงับเวร
จะเป็น เช่นเถร เทวทัต
มีปมด้อย คอยกระตุ้น ทุกชาติ
เกิดจิตวิปลาส ขาดสติ
ผู้อาฆาต แพ้ภัยตน
ใจหมองหม่น เป็นคนขี้อิจฉา
มีปมด้อย คอยรั้ง ยากเยียวยา
สุขสมปราถนา หาไม่ได้

ไม่ใช่พระเอก แต่เป็นผู้ร้าย
เก่งแค่ไหน ก็แพ้คนดี
ชีวิตตกต่ำ ก่อกรรม อัปปรี
ไม่อาจที่ จะหนี กฎแห่งกรรม

การให้อภัย จึงสำคัญนัก
เป็นผู้ตระหนัก รักษาศีล
สำรวมกายวาจา เป็นอาจิน
สำรวมศีล สงบเสงียม
คนดี มีศีลรักษา
ภัยนาๆ ไม่อาจกลายกล้ำ
เป็นเช่นเกราะ อาวุธที่เลิศล้ำ
ไม่ตกต่ำ ศีลค้ำชีวิต
ศีล ดีเหลือเกิน
เป็นสะพานให้เดิน ข้ามวัฏฏะ
พ้นทุกข์ภัย ข้ามหายนะ
เข้าถึงฝั่งธรรมะ พระนิพพาน
จงเลิกอาฆาต มาดร้าย
จงคลาย..ปมบาป หยาบช้า
ทุ่มชีวิต เจริญสติ ภาวนา
ใช้ปัญญา คลายปมบาป

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น