แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คนดีแท้ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คนดีแท้ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2565

นั่งสมาธิ (คือคนดีแท้) ไม่นั่งสมาธิ เป็นคนดีแท้ไม่ได้ ด้วยใจ ไม่มีเมตตา ทำดีเอาหน้าเท่านั้น ใจไม่หยุดไม่นิ่ง ไม่มีสุขจริง บันดาล ไม่เหมือนมารดาท่าน มีรักแท้ให้แก่บุตร

 นั่งสมาธิ
(คือคนดีแท้)


ไม่นั่งสมาธิ เป็นคนดีแท้ไม่ได้
ด้วยใจ ไม่มีเมตตา ทำดีเอาหน้าเท่านั้น
ใจไม่หยุดไม่นิ่ง ไม่มีสุขจริง บันดาล
ยกเว้นมารดาท่าน มีรักแท้ให้แก่บุตร

บิดามารดา บารมีมา โดยอัตตโนมัติ
เป็นธรรมชาติ ได้วิริยะบารมี
ใจนิ่งใจหยุด รักบุตร สุดชีวี
มีอานุภาพ ปราบพาลี ปกป้องบุตร

คนธรรมดาทั่วไป ใจไม่หยุดนิ่ง
ด้วยกิเลสตัณหาสิง ใจวิ่ง อยู่ภายนอก
มัวเมาโลกีย์ นึกดีดี ไม่ออก
กลายเป็นวอก หลอกคนเล่น ไปวันวัน

บำเพ็ญทาน เป็นด่านแรก ของคนดี
หรือแสวงบุญ สร้างบารมี นั่นเอง
ทำให้มีใจนุ่มนวล หมดกระด้าง อย่างนักเลง
การงานเก่ง ขยัน หมั่นเพียร

เมื่อบำเพ็ญทาน การงาน จะไม่มีโทษ
มีใจสลด ไม่อาจคด..โกงได้
ทานเป็นอาจิน กลายเป็นศีล ใจสดใส
หาทรัพย์ได้ง่ายๆ อจินไตย เหลือเชื่อ

สมาธิมีสอง ลองคิดดู
ของหลวงปู่ฯ เท่านั้น ผ่านศูนย์กลางกาย
เห็นพระธรรมกาย พระรัตนตรัยภายใน
ปีติสุขหลาย และมีใจเมตตา

สมาธินอกศูนย์กลางกาย ใช่ ของฤาษี
ปีติไม่มี เมตตาไม่มา
นี่หละ ที่เรียกว่ามิจฉา
มีฤทธา แต่ว่าตัณหา ยังเพียบ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

คนดีแท้ (รู้ให้แน่ กฎไตรลักษณ์) คนดี ต้องรู้ดี ว่ามีกฎไตรลักษณ์ เมื่อตระหนัก จะได้รีบตักรีบตวงบุญ ทุ่มชีวี สร้างบารมี จนคุ้น รักบุญ กลัวบาปเป็นที่สุด หิริโอตัปปะ

 คนดีแท้
(รู้ให้แน่ กฎไตรลักษณ์)

คนดี ต้องรู้ดี ว่ามีกฎไตรลักษณ์
เมื่อตระหนัก จะได้รีบตักรีบตวงบุญ
ทุ่มชีวี สร้างบารมี จนคุ้น
รักบุญ กลัวบาปเป็นที่สุด หิริโอตัปปะ

ด้วยฤทธิ์ของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ปรากฎการณ์ต่างๆ นั่นหนา เป็นภาพลวงตาทั้งนั้น
โลกคือโรงละคร หรือโรงหนัง ก็ปาน
มีกิเลสและกรรม กำกับการ..แสดง

อนิจจัง ไม่เที่ยง เยี่ยงฟองน้ำฝน
ที่หล่น..จากฟ้า แวบหาย
สรรพสัตว์สรรพสิ่งบนโลก อยู่ไม่ได้
แวบหายไป ตายไป เหมือนไม่เคยมี

อยู่ในโลกโลกีย์ ทุกอย่างมีแต่ทุกข์
ไม่มีสุข ด้วยใจ ไม่อยู่ในตัว
หลงระเริงตัณหา เมามัว
ขาดสติ ออกจากตัว มัวเมาโลกีย์

เมื่อบุญหย่อน บาปเยอะ ดวงธรรมหมอง
กิเลสได้ช่อง ดับสติ ใจหนีเที่ยว
กิเลสตัณหา หอมหวน ยียวน ทีเดียว
ใจออกเที่ยว เที่ยวแล้วเที่ยว หยุดไม่ได้

หยุดเมื่อใด ใจจะรู้สึกห่อเหี่ยว
ความเปล่าเปลี่ยว เบื่อหน่าย ซึมเซ็งกลัดกลุ้มจะมา
มีทรัพย์มาก คล้ายจักสุข แต่เป็นสนุกเท่านั้นหละ
ตัณหา เหมือนติดยา อิ่มไม่เป็น

ยิ่งนับวัน ตัณหาจะบานเบ่ง
คนเสงเครง อยู่ไม่ติด ชีวิตเป็นภัย
นี่หละสมบัติ เป็นวิบัติ ทุกข์หลาย
โลกียสุข เป็นมารร้าย แพ้ภัยตน

โลกจึงมีแต่ทุกขัง สุขจริงจังไม่มี
ใจไม่มีสติ จะมีสุขไม่ได้
เอาใจไว้ในตัว เท่านั้นใช่
ทางบุญ ทางสว่างไสว ทางสายกลาง

อนัตตา ไม่ใช่อัตตา ตัวตน
คือเราจะคอนโทรล หรือควบคุมไม่ได้ 
มันเป็นของมัน ตามธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
มันไม่เป็นดังใจ ที่เราใคร่ปราถนา

ไตรลักษณ์ เป็นภาพลวงตา มาแล้วก็ไป
เกิดแก่เจ็บแล้วก็ตาย หายไปเหมือนไม่เคยมี
เราทั้งหลาย ควรตระหนัก ความจริงนี้
จะได้ตั้งสติ มีศรัทธา ในบุญ

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

คนดีแท้ (ได้แก่นักสร้างบารมี) อยากมีอายุยืน ไม่เจ็บป่วยไข้ ให้สร้างบารมี คือแสวงบุญเต็มที่ เอาชีวีเป็นเดิมพัน

 คนดีแท้
(ได้แก่นักสร้างบารมี)

อยากมีอายุยืน ไม่เจ็บป่วยไข้ ให้สร้างบารมี
คือแสวงบุญเต็มที่ เอาชีวีเป็นเดิมพัน
ทำพระนิพพานให้แจ้ง ณ ตำแหน่ง ศูนย์กลางกาย เท่านั้น
 จะเกิดปีติสุขสันติ์ สมปราถนา ทุกประการ

ใจปีติ นี้สำคัญ เปรียบปานอาหารทิพย์
จึงต้องรีบ สร้างบารมี หนีความเจ็บไข้
หนีคนภัยคนพาล หนีวัฏฏสงสารมหาภัย
หนีความโชคร้าย ประสพแต่ชัยชนะ

นักสร้างบารมี เหมือนอยู่ในที่ปลอดภัย
อยู่บนเรือใหญ่ ในขณะที่คนทั้งหลาย แหวกว่ายในทะเล
อันมีภัยมาก แต่ก็รักที่จะอยู่อย่างนั้น ด้วยมันเก๋
ดูมันเท่ แหวกว่ายวน อวดตน เป็นคนเก่ง


คนชั่วได้ดี มีลาภมียศ ปรากฎนาม
บุญวาสนายังค้ำ ยังอุปถัมภ์อยู่
หรือ เป็นบริวาร ที่พญามารอุ้มชู
เมื่อเสร็จศึก โคถึกถูกเชือดร้องอู้ สู่นรก

เป็นคนดี ใจจะมี ปีติอยู่เป็นนิจ
ใจจะนิ่งนุ่มสนิท อยู่ภายใน
อิ่มเอิบเบิกบาน อุปสรรคภัยพาลไม่มีใกล้
หายเจ็บป่วยไข้ สุขสมปราถนาทุกประการ

เป็นคนดี มีหลักดำเนินชีวิต
เดินตามทิศ ตามทาง ห่างอกุศล
ขยันทำดี กายวจี และกมล
กระตือลือล้น ฝึกฝนใจตนให้ผ่องแผ้ว

รู้จักทำวิชชา อันมีสมถะ และวิปัสสนา
สมถะ สงบระงับใจ ไม่ให้ฟุ้งซ่าน
ระงับตัณหา ทะยานอยาก ที่เข้ามารุกราน
มีสติตั้งมั่น ณ จุดสำคัญ ศูนย์กลางกาย

วิปัสสนา เกิดปัญญา เห็นวิเศษ
เห็นกิเลส ตัวเหตุ ก่อปัญหา
 ต้องบรรลุธรรมสำคัญ ธรรมกายา
ได้ดวงตาเลิศล้ำ ธรรมจักขุ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2562

คนดีมีศรัทธา(เทวดารักษา พาอยู่เย็น) :: คนดี มีสามลักษณะ หนึ่ง นั่นหนา มีใจกว้าง สอง ย่อมมีคนดีคบหา จริงจัง สาม เปรียบดัง เทวดา นำพาอยู่เย็น

 คนดีมีศรัทธา
(เทวดารักษา พาอยู่เย็น)
คนดี มีสามลักษณะ
หนึ่ง นั่นหนา มีใจกว้าง
 สอง ย่อมมีคนดีคบหา จริงจัง
สาม เปรียบดัง เทวดา นำพาอยู่เย็น
 เพียงใจกว้าง ยังไม่แน่
ว่าจะดีแท้หรือไม่
คนพาลใจกว้างจะตาย
แต่พาเมามาย พาไปทางชั่ว
คนพาลใจกว้าง
เหมือนอย่าง เลี้ยงสัตว์
ขุนให้อ้วน ได้ที่ จึงจับมัด
คนอ่อนหัด เหมือนหมู รู้จักแต่จะกิน
คนดีใจกว้างด้วยรัก
แปลกนัก รักแล้วอยากให้
ยิ่งให้ก็ยิ่งได้
หมือนแม่น้ำใหญ่ ไหลไม่หยุด
คนดีแท้ มีเพื่อนแต่ดีดี
 ที่ ไม่ดื่มสุราเมรัย
 รักษาศีลห้าทุกข้อได้
เป็นนิสัย สม่ำเสมอ
คนดีคบกับคนดี นี้ธรรมดา
อีกาคู่หง ลงกันไม่ได้
คนพาลฉลาด ภายในร้าย
ภายนอกงามวิไล อย่าได้หลงเหยื่อ
คนสุดดี
ดูได้ที่ พาอยู่เย็น
พาแสวงบุญสร้างบารมี เป็น
ยามทุกข์เข็ญ วิ่งเต้นช่วยเหลือ
จงเป็นคนดี ดังที่ว่า
มีเทวดาลงรักษา สบาย
ไม่เจ็บป่วยไข้
มีกินมีใช้ ไม่ขัดสน
คนดี จะมีความอดทน
ไม่ตามใจตน จะมีคนดูแล
ไปจนเฒ่าจนแก่
มีศรัทธาแท้ ไม่ใช่คนจน
เป็นคนรวยอริยทรัพย์
เหมือนกับ มีนา แต่ว่าไม่มีเงิน
อย่าดูเผินๆ
อย่าดูแต่เงิน ที่หมดได้
ขอเพียงเป็นคนดี ไม่มีจน
ที่เป็นคนดี มีศรัทธา
เป็นหน้าที่ของเทวดา ที่จะลงรักษา
เป็นความลับของฟ้า คนธรรมดาไม่รู้

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

คนดีแท้ (ไม่มีแต่ ต้องเข้าวัด)::เป็นคนดี มีน้ำใจ จึงมีสิทธิ์ได้ อยู่เย็นเป็นสุข สมปราถนา หมดทุกข์ พบสุข แท้จริง

คนดีแท้
(ไม่มีแต่ ต้องเข้าวัด)
เป็นคนดี มีน้ำใจ
จึงมีสิทธิ์ได้ อยู่เย็นเป็นสุข
สมปราถนา หมดทุกข์
พบสุข แท้จริง
คนดี มีใจเอื่อเฟื้อเผื่อแผ่
เหลียวแล ห่วงหาอาทร
ไม่อาจเห็นใครได้ทุกข์ร้อน
เข้าไปช้อนไปช่วย ด้วยใจ
คนดี มีใจไม่โหดร้าย
ชอบให้อภัย ใจไม่ถือสา
แม้ตัวจะตาย วายชีวา
ก็ไม่ว่า ไม่โกรธ
คนดี มีปัญญา มีศรัทธา
กตัญญุตา จึงว่านอนสอนง่าย
ไม่ดื้อรั้น ขัดแย้ง ตะแบงไป
ใส่ใจ เข้าไปศึกษา หาความจริง
คนดีที่ว่ามา
เป็นลักษณะ ของคนเข้าวัด
มีศรัทธาจัด
เข้าวัด สม่ำเสมอ

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2562

คนดีเข้าวัด (ไม่อาจเป็นลูกแกะหลงฝูง):: คนดีต้องเข้าวัด ไม่อาจ อยู่ภายนอก เห็นทุกอย่าง ล้วนหลอกๆ สิ่งภายนอก หลอกลวงตา

คนดีเข้าวัด
(ไม่อาจเป็นลูกแกะหลงฝูง)
คนดีต้องเข้าวัด
ไม่อาจ อยู่ภายนอก
เห็นทุกอย่าง ล้วนหลอกๆ
สิ่งภายนอก หลอกลวงตา
คนดี มีปัญญา
เบื่อหน่ายระอา กามคุณ
โลกภายนอก แสนวุ่น
ไม่อบอุ่น ไร้สาระ
ชอบธรรมปฏิบัติ
ฝีกหัดตน
ด้วยมีปัญญาล้น
คนกตัญญู
ด้วยเห็นโทษภัย กามคุณ
 ใจอบอุ่น ปีติ
เมื่อนึกถึงพระคุณที่
ท่านมี ต่อเรา
ใครที่ยังไม่เข้าวัด
ยังไม่อาจเรียกว่าคนดีแท้
ยังมีข้อแม้
และประมาท
เพียงเป็นผู้ที่ไม่เลว
คือไม่เหลวไหล
แม้จะร่ำรวยสักเพียงใด
ก็ยังไม่ได้ชื่อว่าดีแท้
คนดีจริงนั้น
ดุจเดียวกัน กับอินทกมานพ
เมื่อได้พบ
และศรัทธา พระอริยเจ้า
ตักบาตรทับพีเดียว
แต่เก็บเกี่ยวบุญอนันต์
แสนต่างกัน
กับอังกุรมานพ นั้นมาก
อังกุรมานพ
ไม่ได้พบ พระอริยเจ้า
ได้บุญน้อยนัก ไม่เท่า
แม้ทำบุญ น้ำซาวข้าว เป็นแม่น้ำ
เมื่อไปอยู่บนสวรรค์
มีฐานะต่างกันมาก
พระพุทธองค์แสดง ให้เห็นประจัก
สำคัญนัก เนื้อนาบุญ
ดังนั้น การเข้าวัด
เหมือนเดินทางลัด ไปนิพพาน
ปลอดภัย ก็ปานนั้น
ชีวิตนี้แสนสั้น รีบโกยบุญกัน ดีกว่า
อีกอย่าง เราทั้งหลาย
คล้ายลูกแกะ
ต้องอยู่กับแม่
ไม่อาจเป็นลูกแกะ หลงฝูง

 ;;;;;;;;;