คนดีแท้
(รู้ให้แน่ กฎไตรลักษณ์)
คนดี ต้องรู้ดี ว่ามีกฎไตรลักษณ์
เมื่อตระหนัก จะได้รีบตักรีบตวงบุญ
ทุ่มชีวี สร้างบารมี จนคุ้น
รักบุญ กลัวบาปเป็นที่สุด หิริโอตัปปะ
ด้วยฤทธิ์ของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ปรากฎการณ์ต่างๆ นั่นหนา เป็นภาพลวงตาทั้งนั้น
โลกคือโรงละคร หรือโรงหนัง ก็ปาน
มีกิเลสและกรรม กำกับการ..แสดง
อนิจจัง ไม่เที่ยง เยี่ยงฟองน้ำฝน
ที่หล่น..จากฟ้า แวบหาย
สรรพสัตว์สรรพสิ่งบนโลก อยู่ไม่ได้
แวบหายไป ตายไป เหมือนไม่เคยมี
อยู่ในโลกโลกีย์ ทุกอย่างมีแต่ทุกข์
ไม่มีสุข ด้วยใจ ไม่อยู่ในตัว
หลงระเริงตัณหา เมามัว
ขาดสติ ออกจากตัว มัวเมาโลกีย์
เมื่อบุญหย่อน บาปเยอะ ดวงธรรมหมอง
กิเลสได้ช่อง ดับสติ ใจหนีเที่ยว
กิเลสตัณหา หอมหวน ยียวน ทีเดียว
ใจออกเที่ยว เที่ยวแล้วเที่ยว หยุดไม่ได้
หยุดเมื่อใด ใจจะรู้สึกห่อเหี่ยว
ความเปล่าเปลี่ยว เบื่อหน่าย ซึมเซ็งกลัดกลุ้มจะมา
มีทรัพย์มาก คล้ายจักสุข แต่เป็นสนุกเท่านั้นหละ
ตัณหา เหมือนติดยา อิ่มไม่เป็น
ยิ่งนับวัน ตัณหาจะบานเบ่ง
คนเสงเครง อยู่ไม่ติด ชีวิตเป็นภัย
นี่หละสมบัติ เป็นวิบัติ ทุกข์หลาย
โลกียสุข เป็นมารร้าย แพ้ภัยตน
โลกจึงมีแต่ทุกขัง สุขจริงจังไม่มี
ใจไม่มีสติ จะมีสุขไม่ได้
เอาใจไว้ในตัว เท่านั้นใช่
ทางบุญ ทางสว่างไสว ทางสายกลาง
อนัตตา ไม่ใช่อัตตา ตัวตน
คือเราจะคอนโทรล หรือควบคุมไม่ได้
มันเป็นของมัน ตามธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่
มันไม่เป็นดังใจ ที่เราใคร่ปราถนา
ไตรลักษณ์ เป็นภาพลวงตา มาแล้วก็ไป
เกิดแก่เจ็บแล้วก็ตาย หายไปเหมือนไม่เคยมี
เราทั้งหลาย ควรตระหนัก ความจริงนี้
จะได้ตั้งสติ มีศรัทธา ในบุญ
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น