ขันติคุณธรรม
(เลิศล้ำ นำชีวิต)
ขันติ คือความอดทน เป็นตบะอย่างยิ่ง
เป็นคนจริง จึงนิ่งได้
ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
หมู่มารร้าย แพ้ภัย..ตน เหมือนคนไข้ ถูกน้ำเย็น
ความอดทน ไม่ธรรมดา นำมาซึ่งประโยชน์สุข
ส่วนคนรักสนุก ทุกข์ถนัด ด้วยขาดอดทน
กระแสโลกีย์ มีกิเลสตัณหา ปน
เหมือคน..ติดยา หลงเสน่หากามโลกีย์
ความอดทน บาปไม่อาจปน แม้เล็กน้อย
บาปถูกลอย ความติเตียนแม้เล็กน้อย ก็ไม่มี
แม้กระทั่งการทะเลาะ เบาะแว้งก็ดี
รักษาความสามัคคี ในหมู่คณะ
ความอดทน ดีล้น เป็นคนไม่ผลุนผลัน
ไม่ลนลาน..เร่งรุดสดุดโน่น สดุดนี่
ใช้ปัญญา ความสงบสง่า จึงมี
เป็นคนมีแต่ดีกับดี คนตำหนิไม่ได้
ความอดทนดีจัง เป็นกำลัง ของนักพรต
ท่านมีทั้งความอด ทรหด และความทน
ไม่สู้ แต่ก็ไม่หนี หมู่มารสับสน
ได้บารมีล้น พ้นภัยหมู่มาร
ความอดทน เป็นตะบะ ของผู้พากเพียร
กลายเป็นเซียน เผากิเลสได้ ไหม้เป็นจุล
เข้าถึงแหล่งบริสุทธิ์ ใจหยุดที่ศูนย์
หยุดอย่างบริบูรณ์ ตกศูนย์ ถึงธรรม
ความอดทน เป็นเครื่องประดับ ของนักปราชญ์
ผู้มีปัญญา สละชีวาต รักษาความดี
บริสุทธิ์ ผุดผ่อง สง่างามอร่ามศรี
มหาชนเปรมปรี แซ่ซร้องสรรเสริญ
ด้วยความอดทน ให้ผล คือศีลและสมาธิ
จึงเกิดคุณธรรมความดี ทั้งหลาย
ไร้ความอดทน คนก็ไม่ต่างกับวัวควาย
คุณธรรมทั้งหลาย ไม่อาจเกิดขึ้น
ความอดทน เป็นตะบะ ของผู้ภาคเพียร
กลายเป็นเซียน ด้วยความเพียรไม่หยุด
สติ สะบาย สม่ำเสมอ ในที่สุด
ใจก็จะหยุด และเย็น
มีความอดทน เลิศล้น ปฏิบัติตาม คำสอนพระศาสดา
และบูชา..พระพุทธองค์ อย่างยิ่ง
ได้ทำประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านถึงพร้อมจริงๆ
และอย่างยิ่ง ได้เข้าสู่ทางสวรรค์และนิพพาน
ผู้มีความอดทน เป็นคน ที่ทุกคนรักใคร่
มีใจ..เมตตา สุขอุรา และมีลาภยศ
สมณะพราหมณ์ มีความอดทนเป็นพละ ปรากฎ
เลิศกว่าอะไรทั้งหมด พระสุคตสรรเสริญ
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น