วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

แสวงบุญไม่ขาด (ชีวาต ไม่ขาดบุญวาสนา) บุญวาสนา จะไหลมา เมื่อเวลาทำบุญ ทำบุญเป็นสาย บุญวาสนาก็ไหลไม่ขาด วังวนแห่งกิเลสกรรมวิบาก ถูกตัด แสวงบุญไม่ขาด จึงจัด เป็นกิจกรณีย์

แสวงบุญไม่ขาด
(ชีวาต ไม่ขาดบุญวาสนา)
จงมีสติเตือนตน ให้ทนกับเหตุการณ์ภายนอก
ล้วนเป็นภาพหลอกๆ ออกมาจากจิต
เป็นภาพเก่าๆของเรา ที่ทำไว้ ในครั้งอดีต
จงอดทนอดกลั้น แต่งจิต คิดพูดทำแต่ดีดี
เราเกิดมาสร้างนิสัย หรือแต่งใจแต่งจิต
เปลี่ยนแปลง ตบแต่งชีวิต เราลิขิตเอง
ชาตินี้ จึงทนทำดี หนีกรรมเก่า เสงเครง
อย่าเพิ่งเสง..สู้ใคร อ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ เป็นดี
เป็นกรรมวิบาก นำชักให้ปรากฎ ชดใช้กรรม
ในอดีตเคยทำกรรม ต่ำทราม จึงรับกรรมชาตินี้
แม้เคยทำกรรมดีไว้ ก็อย่าได้ประมาท เมื่อสุขี
จงตั้งสติ อย่าหลงระเริง คึกคนอง ลำพองขน
เหตุการณ์ภายนอกนั้น คล้ายกัน กับเราฝันไป
ตื่นขึ้นมาก็หาย คล้ายเป็นจริงเป็นจัง
ชีวิตคนก็เปลี่ยนไปทุกวินาที คล้ายฉายหนัง
เป็นจริงเป็นจัง กระทั่ง เราหลงเชื่อ
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  กฎไตรลักษณ์
กิเลสกรรมวิบาก ชักใย อยู่เบื้องหลัง
คนที่อยู่ในกระแสกิเลส เห็นเหตุการณ์ เป็นจริงเป็นจัง
ที่แท้กำลังดูหนัง ที่ฉายไม่หยุดยั้ง ออกจากใจ
ถ้าใครรู้เท่าทัน จะปล่อยวางมัน แล้วตั้งสติ
อดทนเต็มที่ ถ้ามี อุปสรรคปัญหา
ถ้าได้ลาภยศ ก็ไม่ลิงโลด อุเบกขา
ตั้งหน้า แต่จะทำความดี อย่างพลีชีพ
 ด้วยรู้ว่า การตบแต่งชีวิต มีสิทธิ์ทำได้ เพียงชาตินี้
และชีวี ก็เป็นของน้อยนิด เหมือนรอยกรีดน้ำ
เมื่อเทียบกับเวลาหลังตาย เปรียบไม่ได้ มากเหลือล้ำ
ซึ่ง พระพุทธองค์ ทรงย้ำ อยู่เสมอๆ
บุญวาสนา จะไหลมา เมื่อเวลาทำบุญ
ทำบุญเป็นสาย บุญวาสนาก็ไหลไม่ขาด
วังวนแห่งกิเลสกรรมวิบาก ถูกตัด
แสวงบุญไม่ขาด จึงจัด เป็นกิจกรณีย์

 ;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น