วันเสาร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2566

กิเลสตัณหา (พาคนประมาท) ละเหตุแห่งทุกข์ได้ มีสุขในที่ทั้งปวง นั่นคือ ให้ก้าวล่วง ความประมาท ไม่ให้โอกาศ กิเลสตัณหา เด็ดขาด ทุ่มชีวาต เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

 กิเลสตัณหา
(พาคนประมาท)


ละเหตุแห่งทุกข์ได้ มีสุขในที่ทั้งปวง
นั่นคือ ให้ก้าวล่วง ความประมาท
ไม่ให้โอกาศ กิเลสตัณหา เด็ดขาด
ทุ่มชีวาต เข้าวัด ปฏิบัติธรรม

ความไม่เบียดเบียน เป็นสุขในโลก
ใจชุ่มโชก..ด้วยกิเลส จึงเบียดเบียนได้
ใจมืด ใจดำ ความทุกข์ใหญ่
ใจสว่างไสว จึงไม่เบียดเบียน

ความสงบระงับแห่งสังขาร นั้นเป็นสุข
ใจเป็นทุกข์ ด้วยใจไม่หยุดไม่นิ่ง
ความคิดปรุงแต่ง เหตุแห่งทุกข์จริงๆ
เมื่อใจหยุดนิ่ง สุขจะวิ่งเข้ามาทันที

ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบ ไม่มี
สุขจากใจที่..หยุดที่นิ่ง
ใจไม่มืดมัว สว่างไสว ใสจริงๆ
ใจยิ่งหยุดยิ่งนิ่ง ยิ่งสุขไม่ถอย

นิพพาน เป็นสุขอย่างยิ่ง
สุขจริงๆ สุขอย่างยิ่ง คือนิพพาน
พ้นกฎแห่งกรรม ของมาร
สุขตลอดกาล ทั้งอานุภาพ

ความเกิดขึ้นแห่งผู้รู้ นำสุขมาให้
ผู้เลื่อมใส เกิดศรัทธา กัลยาณมิตร
ชีวิตพลิกผัน ปานเทวดา ไม่ผิด
ทุ่มชีวิต ตามติด ท่านผู้รู้

การแสดงสัทธรรม นำสุขมาให้
ได้ปีติใจ ทั้งผู้ให้ และผู้รับ
บุญเป็นชื่อของความสุข ต่างจากบาป
แต่คนทั้งหลายไม่ทราบ ทำบาปจนเคย

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น