วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2564

พระนิพพานไม่อยู่ที่ไหน (อยู่ในกายเราเอง) รู้หรือไม่ พระนิพพานนั้นไซร้ อยู่ในกายเรา ไม่ใช่อยู่นอกโลกนะเจ้า อยู่ในกายเรานี้เอง เมื่อใจหยุด หลุดเข้าศูนย์กลางกาย คนเก่ง เข้าไปรู้ไปเห็นเอง พระนิพพาน

พระนิพพานไม่อยู่ที่ไหน
(อยู่ในกายเราเอง)

รู้หรือไม่ พระนิพพานนั้นไซร้ อยู่ในกายเรา
ไม่ใช่อยู่นอกโลกนะเจ้า อยู่ในกายเรานี้เอง
เมื่อใจหยุด หลุดเข้าศูนย์กลางกาย คนเก่ง
เข้าไปรู้ไปเห็นเอง พระนิพพาน

พระนิพพาน ไม่อยู่ที่ใจ ดูเหมือนใช่ แต่ไม่ใช่
แม้แต่ใจเอง ของคนทั้งหลาย ก็อยู่ภายนอก
วิ่งตะลอนๆ อยู่ภายนอก ตั้งแต่อ้อน แต่ออก
แม้แต่ฝันยังออก อยู่ภายนอกเลย

คนทั่วๆไป ใจจะอยู่ในกายนั้น หลวงพ่อฯท่าน ว่าไว้ว่า
เพียงเวลา เกิด ดับ หลับ และตื่น เป็นอัตตโนมัติ
ณ ศูนย์กลางกาย ฐานที่เจ็ด เด็ดขาด
มันเป็นธรรมชาติ ของชีวิต


ในเวลาอื่น ใจจะไหลลื่นออกไปจากกาย
มัวเมาหลงไหล อยู่ภายนอก
 ไม่ตายก็เหมือนตาย คนวอก
ตายจากบุญนั่นดอก ยิ่งใหญ่ ตายทั้งเป็น

ผ่านศูนย์กลางกาย กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต..
สุดท้าย ไม่คาดคิด เห็นพระธรรมกาย
เป็นพระรัตนตรัยในตัว ไม่มัวซัว สว่างไสว
พระนิพพานแจ้งได้ ด้วยกายนี้ นั่นเอง

ทำพระนิพพานให้แจ้ง แหล่งบรมสุข
พ้นวัฏฏะ พ้นทุกข์ เป็นอมตะนิรันดร์กาล
การทำพระนิพพานให้แจ้ง จึงเป็นอุดมการณ์
และดังนั้น จึงต้องแสวงบุญ สร้างบารมี

กายมนุษย์จึงสำคัญสุด ในโลกสาม
เสวยวิบากกรรม และสร้างกรรมใหม่
ทำดีได้บุญ ทำชั่วได้บาปจังไร
หลังตาย เสวยวิบากกรรมได้..อย่างเดียว

ปัญหาของมนุษย์ คือใจไม่หยุด วิ่งอุตลุดอยู่นอกตัว
เมาสิ่งนอกตัว รวมทั้งมัว..ทำมาหากิน
ทางพระเรียกประมาท ขาดสติสิ้น
มีชีวิน ไหลตามกระแสกรรมวิบาก

พระนิพพานไม่ใช่สุญญตา หรืออนัตตา ที่ว่าจับต้องไม่ได้
แต่พระนิพพานเป็นอัตตา นั้นใช่  เป็นตัวตน
เป็นแดนบริสุทธิ์ หมดกิเลส หมดทุกข์ทน
เป็นตัวตนแท้ของทุกคน คือพระธรรมกาย

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น