วันอังคารที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564

ตายแต่ไม่ตาย (ไปรับกรรมวิบาก) การตาย คือการไปรับกรรมวิบาก เปลี่ยนสภาพ ให้เหมาะกับ บุญบาปในตน

ตายแต่ไม่ตาย
(ไปรับกรรมวิบาก)

การตาย คือการไปรับกรรมวิบาก
เปลี่ยนสภาพ ให้เหมาะกับ บุญบาปในตน
ไปสวรรค์ ไปอบาย หรือไปภูมิมนุษย์ ขึ้นกับผล
 การกระทำของตน ทางกายวาจาใจ ในอดีต
คิดแล้วแปลก ที่คนทั้งหลาย ไม่สนใจการตาย
ไม่กลัวอบาย กินนอนสะบาย เมามายโลกีย์
กามคุณนี่ร้ายนัก ทำคนให้จมปลัก ขาดสติ
ปล่อยวางชีวี ประมาทเหลือที่ น่าเวทนา
ไม่รู้สึกไม่รู้สา แถมยังต่อต้านพระ อีกต่างหาก
มิจฉาทิฏฐินี่ร้ายนัก เห็นกงจักร เป็นดอกบัว
เห็นชั่วเป็นดี เห็นดีเป็นชั่ว
สรรพสัตว์ยังเล่นหัว ไม่รู้ตัว ต้องไปอบาย
เหมือนอีหอยหน้าประตูวัด พระเชตวัน
ในสมัยพุทธกาล  ทำกิริยาอาการ ไม่เคารพพระ
พระโมคคัลลานะ ทนไม่ได้ ขันอาสา
เหาะให้ดูต่อหน้า ก็ยังว่าพระบ้าอยู่นั่นเอง
มนุษย์ทั้งหลาย ก็คล้ายๆหนอน
อยู่ในส้วม กินแล้วนอน สะบ๊ายสะบาย
เพื่อนเทวดา อุตส่าห์ลงมาบอก จะพาไป
หนอนหัวเราะใส่ ว่าเราสะบายอยู่แล้ว

อัตตัญญุตา การรู้สภาวะของตน จึงสำคัญนัก

คนดีแจ้งประจัก จึงรัก การสร้างบารมี
กระตือลือล้น แสวงบุญเต็มที่
รู้ดี ว่าตนนี้ มีบุญน้อย
เป็นคนดีได้ จำไว้ ต้องมีกัลยาณมิตร
นำพามุ่งสู่ทิศ ที่เจริญ ทางสายกลาง
ทางอริยะ สุขสมปราถนา พร้อมพรั่ง
ทางสว่าง ทางมรรคผลนิพพาน
เป็นคนดีได้ ไม่มีความประมาทในชีวิต
ทุ่มเทสุดจิต นั่งสมาธิ เจริญสติภาวนา
ทำพระนิพพานให้แจ้ง สู่แดนอมตะ
แดนบรมสุขา หมดทุกข์ สุขอนันตกาล
คนเรา เกิดแล้วตายๆ  แต่ใจเรายังอยู่
อาจดูดู คล้ายยังกะ  งูลอกคราบ
หรือว่าเราเป็นอมตะ ก็ไม่ทราบ
 พระนาคเสน อรหันต์ ท่านรับ ว่าใช่หรือไม่ใช่ก็ได้
 เป็นตัวเรา ที่ตัวเก่า เปลี่ยนไป
เช่นเปลวไฟ เปลี่ยนไป ทุกขณะ
หรือเหมือนนมสด กลายเป็น นมเปรี้ยว นั่นหละ
นมเปรี้ยว เปลี่ยนมา เป็นนมข้น
 เปลี่ยนอย่างไร หนีนม ไม่พ้น
 นมเปลี้ยวนมข้น จากต้น นมสด
แต่นมทั้งสอง ต้องไม่ใช่ นมสด
เปลี่ยนไปหมด เป็น นมใหม่
 ภาษาพระ ไม่เรียกว่า อมตะ
แต่เรียกว่า สันตติ สืบต่อ
อมตะ คงที่ มิมีเปลี่ยน เพราะ
พ้นกฎไตรลักษณ์ นั่นหนอ พระนิพพาน
 อมตะ นั่นหนา เป็นอัตตา 
 สันตติ เป็นอนัตตา อยู่ใต้กฎไตรลักษณ์
มีเพียง ธรรมกายา เป็นอัตตา พ้นกฎหลัก
 พ้นกฎไตรลักษณ์ ประจักษ์แจ้งพระนิพพาน

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น