วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2563

กรณียกิจ (ควรเป็นกิจวัตร อย่าพลาดผิด) ผู้มีปัญญา ทำกรณียกิจ เป็นกิจวัตร ด้วยว่าพระบอกชัด กิจวัตร คืองานแท้จริง พระพุทธองค์ก็ทรงตรัส บัดนี้เธอทำอะไรอยู่ อย่าทิ้ง งานจำเป็นยิ่ง กรณียกิจ คือสวดมนต์ปฏิบัติธรรม

กรณียกิจ
(ควรเป็นกิจวัตร อย่าพลาดผิด)

 
ผู้มีปัญญา ทำกรณียกิจ เป็นกิจวัตร
ด้วยว่าพระบอกชัด กิจวัตร คืองานแท้จริง

พระพุทธองค์ก็ทรงตรัส บัดนี้เธอทำอะไรอยู่ อย่าทิ้ง
 
งานจำเป็นยิ่ง กรณียกิจ คือสวดมนต์ปฏิบัติธรรม

หรือทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
 นี้ คืองานหลัก ไม่ใช่งานรอง ของชีวิต
การทำมาหากิน ทำได้ดี ต้องมีบุญญฤทธิ์
รักษาความสุจริต ไม่คิดเอาลัดเอาเปรียบ
ปัญญาอย่างนี้ จะมีความสุขด้วย
 ใจจะสลวย ด้วยเมตตามหาชน
มีขันติ มีสัจจะ มีปญิธาน เหลือล้น
ท้ายสุด นำมหาชน พ้นมือมาร
ปัญญาอย่างนี้ จะมี เนกขัมมค้ำ
 ปล่อยเอาไว้ไม่ได้ ธรรมดำ กามฉันทะ
เป็นศัตรูตัวกลั่น ของปัญญา
ตัวแรกของนิวรณ์๕ นั่นเอง
เนกขัมม ประพฤติพรรหมจรรย์
 แสนสำคัญ สุขสันติ์ สันโดษ
กามคุณอันตรายยิ่ง เป็นไก่ทิ้งพลอย โง่โคตร
ขจัดนิวรณ์๕ได้หมด ปัญญาสดใสสว่าง
ฤาษีชีเปลือย ทำไปเรื่อย ทรมานตน
 คิดอยากจะพ้น..กามคุณ ลงทุนทรมานกาย
ได้แต่ความเมื่อย ตายเปล่า บ่ดาย
กิเลสซ่อนอยู่ในใจ ประพฤติพรหมจรรย์เท่านั้นไซร้ จึงจะดับ
และประพฤติพรหมจรรย์ได้ยาก ถ้าหากไม่มีทานบารมีและศีลบารมี
 การมีกินมีใช้ นี้ สำคัญ
และการไม่เจ็บป่วยไข้ และร่างกายดี นี้ก็เหมือนกัน
แสนสำคัญ จะประพฤติพรหมจรรย์ ได้สบาย
การเข้าวัด จัดเป็น ประพฤติพรหมจรรย์
 คือออกจากบ้าน ออกจากการงานทางโลก
ลืมโลกลืมกามคุณ ลืมทุกข์โศก
ปลดปล่อยทางโลก เข้าเส้นทางธรรม
บารมี๑๐ ท่านได้เรียง ไว้เรียบร้อย
แต่คนน้อยนัก จักเข้าใจ
เป็นทางสายกลาง ทางธรรมอำไพ
ใครไม่ใส่ใจ ชีวิตย่อมไม่สมปราถนา

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น