วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน (คนแสวงบุญสร้างบารมี):: ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คือคนเก่ง แต่ไม่ใช่พวกนักเลง ขี้เบ่ง อวดดี ไม่ใช่พวกเศรษฐีขี้เหนียว เอาเปรียบประชาชี ไม่ใช่ พวกที่ เอาดีแต่พวกตน

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
(คนแสวงบุญสร้างบารมี)
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คือคนเก่ง
แต่ไม่ใช่พวกนักเลง ขี้เบ่ง อวดดี
ไม่ใช่พวกเศรษฐีขี้เหนียว เอาเปรียบประชาชี
ไม่ใช่ พวกที่ เอาดีแต่พวกตน
อัตตัญญุตา รู้จักตน คือคนเก่งทีเดียว
แม้จะเชี่ยว..ทางโลกแค่ไหน ยากหลายจะรู้จักตน
กาย เวทนา จิต ธรรม ชีวิตของคน 
 อยู่ในกายตน คนไม่รู้
กายเหมือนบ้าน หรือเหมือนกัน กับเสื้อผ้า
หนึ่งสมองสองมือนั่นหนา ก็คือกาย
เหมือนโง่ ไม่รู้เหนือใต้
จะยกมือยกไม้ มีข้างในสั่ง
เวทนา พระผู้รู้บอกว่า เป็นดวง
มีหน้าที่ใหญ่หลวง รับข้อมูล ซ้อนอยู่ในกาย
จิตก็เป็นดวง ซ้อนอยู่ในเวทนา มีหน้าที่คิดได้
ธรรม อาจขุ่นหรือใส เป็นดวงซ้อนใน หน้าที่ใหญ่ คลังข้อมูล
สติปัฏฐานสี่ กับ คอมพิวเตอร์ นี้ ดูคล้าย
ฮาร์ดแวร์ คือกาย ซีพียูคือใจ ที่เก็บข้อมูลนั้นใช่ ดวงธรรม
ซอฟแวร์หรือโปรแกรม คือผู้สร้างวิบากกรรม
บุญบาปนั้น คล้ายกันล้ำ กับ โปรแกรม
ส่วนบารมีกับกิเลส คือโปรแกรมสำเร็จ
กิเลส ร้ายนักพาก่อเหตุร้าย นิสัยเสีย
พาก่อกรรม มีวิบากลามเลีย
 ตรงข้ามกับนิสัยเสีย นิสัยดี คือบารมีนั่นเอง
จิต คือเครื่องฉาย ให้วิบากกรรมไปปรากฏ
ให้เห็นสดๆ ปรากฎ เป็นเหตุการณ์
ดังนั้นโลก คือจอหนัง หรือโรงละคร อย่ายึดมั่น
เหมือนจริงทั้งนั้น แต่มันเป็น เช่นละคร
เราเป็นทั้งคนเล่น และคนดู
จงรู้รักษาสติ อย่ามีอารมณ์ร่วม
 ขันติตั้ง ใครรักชัง ช่าง สำรวม
ปล่อยให้บุญท่วม เข้าจัดการ ปัญหา
เมื่อบารมีคุ้มครองใจ เหตุการณ์ไฉไล ถูกใจเรา
ก็จงตั้งสติตัวเก่า อย่าเป็นแมงเม่า หลงแสงสี
ตั้งจิตตั้งใจ แสวงบุญสร้างบารมี ให้ดี
ไม่ประมาทในชีวี ตลอดไป
บารมีก็คือนิสัยดี ที่อบรมบ่มมานาน
เหมือนหินย้อย ที่สั่งสมตะกรัน นานนักหนา
สวยสด งดงาม อร่ามตา
ผู้มีบารมี เป็นคนเหนือฟ้า มนุษย์เทวดากราบไหว้

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น