ชีวิตไม่มีตาย
(เพียงเปลี่ยนภพภูมิใหม่เท่านั้นเอง)
เราทุกคนเกิดมา พกระเบิดเวลา มาคนละลูก
เวลาที่จะระเบิด ถูก..กำหนด ด้วยกฎแห่งกรรม
มัจจุมาร มีอานุภาพมาก ไม่อาจจักล่วงล้ำ
เกิดตายซ้ำๆ ทุกข์กระหน่ำ กรรมสนอง อย่างแสนสาหัส
ตายเกิดๆ เวียนว่ายไป ในวัฏฏะ
นั่นหละ วัฏฏะ จึงว่าเป็นคุกประหาร
จะถูกฆ่าเมื่อใด ก็ไม่ระบุไว้ ไม่ให้ตั้งตัวทัน
คนประมาทนั้น มัวเพลินไป รู้ตัวก็สายแล้ว
โอกาศเกิดใหม่ แทบเป็นไปไม่ได้เลย
โธ่เอ๋ย สรรพสัตว์ ช่างอ่อนหัดเหลือที่
พระบรมโพธิสัตว์ นำพาหมู่ญาติสร้างบารมี
เพื่อหลีกลี้ ตามทางสายกลาง หนีห่างมัจจุมาร
ทำพระนิพพานให้แจ้งเท่านั้น หนีมัน ความตาย
หลุดจากกฎแห่งกรรมได้ เป็นอมตะ เข้าสู่พระนิพพาน
เดินตามทางสายกลาง ทานศีลภาวนา เท่านั้น
แม้ยังเวียนว่ายเหมือนกัน ก็สุขสบาย เหมือนได้อยู่เกาะ
ชีวิตสรรพสัตว์ เหมือนเช่น เป็นภาชนะดิน
ย่อมสูญสิ้น สลายไป
ทรัพย์สินสักนิด ก็ตามติดไม่ได้
มีแต่บุญบาป เท่านั้นไซร้ ติดตามได้เท่านั้นเอง
แม่น้ำเมื่อมีน้ำเต็มฝั่ง ย่อมยังต้นไม้ริมฝั่ง พัดพาไป
สรรพสัตว์ทั้งหลาย ย่อมถูกชราและความตาย นำไปฉันนั้น
วันคืนล่วงไปๆ วัยย่อมถูกชราพาไปเช่นกัน
ผู้เห็นภัยในมรณะนั้น จึงตั้งใจมั่น สั่งสมบุญ
กาลเวลา คล้ายกับว่า กำลังกลืนกินสัตว์ทั้งหลาย
เมื่อเห็นคนอื่นตาย จึงไม่ควรร้องไห้โศกศัลย์
จงมีสติ ว่าตัวเรานี้ ใกล้ความตาย เข้าไปทุกวัน
กำลังถูกลงทัณฑ์ ด้วยการเจ็บป่วยไข้ และวัยชรา
คนที่เศร้าโศกถึงคนตาย นั้น คล้ายเด็กแท้
ที่ร้องไห้ แงๆ จะเอาเดือนดาว
คนที่ตาย เดินทางไกล ไปตามทางของเขา
ที่น่าเศร้า คือชีวิตของเรา ไม่ดูแล
ชีวิตสรรพสัตว์ เหมือนกันชัด กับผลไม้สุกบนต้น
พร้อมที่จะหล่น..ลงมา ทุกเวลาก็ว่าได้
เมื่อลมมาเยือน สะเทือนสะท้าน หวั่นไหว
เมื่อเจ็บป่วยไข้ หรือเมื่ออยู่ในวัยชรา
ชีวิต ไม่มีวันตาย เพียงเปลี่ยนภพภูมิใหม่ เท่านั้นเอง
กฎแห่งกรรมบันเลง กิเลสกรรมวิบาก
วนเวียนเป็นวัฏฏะ แสนทุกข์ยาก
น้ำตาไหลพราก มากกว่าน้ำในมหาสมุทร
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น