วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ผลบุญทำทาน (ทันตาเห็น):: ในสมัยพุทธกาล มีท่าน เสนาบดี สงสัยเหลือที่ ว่าทานนี้ดีอย่างไร อานิสงส์ในปัจจุบัน มีไหม ส่วนอานิสงส์ในกาลไกล ยกไว้ก่อน

ผลบุญทำทาน
(ทันตาเห็น)

ในสมัยพุทธกาล มีท่าน เสนาบดี 
สงสัยเหลือที่ ว่าทานนี้ดีอย่างไร
อานิสงส์ในปัจจุบัน มีไหม
ส่วนอานิสงส์ในกาลไกล ยกไว้ก่อน
เมื่อสงสัย จึงถามไถ่ พระพุทธองค์
 ถามตรงๆ ขอให้พระองค์ ทรงแสดง
พระพุทธองค์ทรงตรัส ชัดแจ่มแจ้ง
ชี้แจง เป็นข้อๆ
หนี่ง ผู้ชอบให้ ย่อมเป็นที่รักใคร่
ของใครๆ เป็นอันมาก
ต่อไปย่อมสะบาย ไม่ลำบาก
มีคนเป็นอันมาก ดูแล
อนึ่ง ผู้ชอบให้ ย่อมใจกว้าง
ใจมีพลัง ฉันทะ มานะบากบั่น
มีสุขใหญ่ ใจตั้งมั่น
มีความสำเร็จดังฝัน ปรากฎ
สอง ผู้ชอบให้ ย่อมเป็นที่คบหาของคนดี
เหมือนที่ มีเทวดาลงรักษา
ย่อม สุขสมปราถนา
ชีวา ปลอดภัย
สาม ผู้ชอบให้ ย่อมได้ผู้อุปการะ
ไม่อาจจะ ตกระกำลำบาก
ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แปลกนัก
ธรรมชาติ ไม่อาจจักทำอันตรายได้
สี่ ผู้ชอบให้ ย่อมได้ผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข
 มีทุกข์ ร่วมต้าน มีสุขร่วมเสพ
ปานอยู่สวรรค์ สุขสันติ์ ดังเทพ
 เสพสุข สนุกสนาน บุญบันเทิง
ห้า ผู้ชอบให้ ย่อมได้ ผู้ให้ประโยชน์
จึงยิ่งรุ่งโรจน์ รุ่งเรือง กระเดื่องนาม
ไปอยู่ที่ไหนๆ จะไม่ตกต่ำ
คำว่าระกำลำบาก จักไม่ปรากฎ
หก ผู้ชอบให้ ย่อมได้ ชื่อเสียงขจรไกล
ทำอะไรๆ ย่อมสำเร็จโดยง่าย
มหาชนร่วมแรงร่วมใจ
สนับสนุนค้ำชูไท้ ไว้เหนือเศียร
ผู้ชอบให้ มีหัวใจเศรษฐี
 อุ อา กะ สะ มีมาเอง
เป็นคุณธรรม ทำให้ทั้งดีทั้งเก่ง
เป็นไปเอง ของผู้ชอบให้
ผู้ชอบให้ ยิ่งใหญ่เศรษฐีใจบุญ
ให้จนคุ้น ยิ่งให้ยิ่งได้
ไหลตลอดเวลา เหมือนกะแม่น้ำใหญ่
มหาชนได้กินได้ใช้ ได้พี่งพา

 ;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น