วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ไม่ขาดฝึกสติ (มีวจีที่หยดย้อย) ผู้มีปัญญา ไม่พูดจาพล่อยๆ ไม่พูดลอยๆ ด้วยเหตุของตนหรือคนอื่น ออกจากจิตไม่สงบ ฟังแล้วไม่ชื่น สติยังไม่ตื่น คนเขาฝืนใจฟัง

ไม่ขาดฝึกสติ
(มีวจีที่หยดย้อย) 

ผู้มีปัญญา ไม่พูดจาพล่อยๆ
ไม่พูดลอยๆ ด้วยเหตุของตนหรือคนอื่น
ออกจากจิตไม่สงบ ฟังแล้วไม่ชื่น
สติยังไม่ตื่น คนเขาฝืนใจฟัง 

 ผู้มีปัญญา ไม่ประมาท มีสติ
มีวจีไพเราะ เสนาะหู
พูดยกใจ ในความดี ที่เขามีอยู่
ทำสติของทุกผู้ อยู่ในตัว

แม้ภายหลัง ย่อมสมหวัง สุคติ
ด้วยรักษาสติ ให้มีอยู่ในตนเสมอ
การพูดอย่างมีสติ จริงใจ ไม่เผลอ
เป็นคนเลิศเลอ คนเหนือคน

การพูดพล่อยๆ ตามอารมณ์
กิเลสขย่ม ถาโถม จมปลัก
เหมือนไฟไหม้ป่า เหลือแต่ซาก
ความทุกข์ยาก รออยู่ข้างหน้า

การฝึกสติ จึงเป็นกรณียกิจ
หลักชีวิต เป็นกิจของผู้รู้
บัณฑิตฝึกตน เรารู้กันอยู่
คนทุกผู้..ฝึกได้ ด้วยมีกายมนุษย์

ปากกับใจ ไปด้วยกัน ได้ดีจริงๆ
ต้องระวังอย่างยิ่ง ไม่ทิ้งฝึกใจ
คนพาล ผู้โง่เขลา พูดตามสะบาย
มีแต่ร้ายๆ ด้วยไม่ฝึกตน

ปลาหมอ ตายเพราะปาก
ต้องระวังให้มาก เอ่ยวจี
ฝึกสติ จึงเป็น
กิจกรณีย์
 มีวาจาที่..หยดย้อย สอยใจคน

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น