วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

มโนกรรมสุดร้าย (ยิ่งใหญ่กว่าอนันตริยกรรม) :: มโนกรรม คือทำกรรมด้วยใจ คิดนึกอยู่ภายใน นั้น ได้บุญอนันต์ ถ้าบาปก็บาปมหันต์ ยิ่งกว่าการ ทำด้วยกายวาจา

มโนกรรมสุดร้าย
(ยิ่งใหญ่กว่าอนันตริยกรรม)

มโนกรรม คือทำกรรมด้วยใจ
คิดนึกอยู่ภายใน นั้น
ได้บุญอนันต์ ถ้าบาปก็บาปมหันต์
ยิ่งกว่าการ ทำด้วยกายวาจา
ใจหยุดเป็นที่สุดบุญ เราคุ้นเคย
สบายเลย กลั่นกายวาจาใจ
หมดกิเลส ด้วยเหตุภาวนา ใช่
ด้วยใจใสสว่าง เท่านั้น
ในครุกรรม ท่านย้ำเรื่องสังฆเภท
และเหตุ ของโลหิตุปบาท
อันเป็นกรรมทางกาย ชัด
แต่ไม่อาจ เทียบเท่ามิจฉาทิฏฐิ
มิจฉาทิฏฐิ กรรมหนักที่สุด
กรรมยิ่งกว่าพูด ยิ่งกว่าทำทุกกรณี
เนื่องจาก ไม่อาจกำหนดมี
วันที่ จะมีการผุดการเกิดอีก
ครุกรรม อย่างเทวทัตทำ
แสนต่ำช้า กับพระพุทธองค์
โลหิตุปบาท กรรมสุดโต่ง
แต่ยังคง มองเห็น หมดเวรลงได้
กรรมมิจฉาทิฏฐิ มิมีจบสิ้น
จมดิ่ง ด่าวดิ้น สิ้นกาลนาน
ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด อนันต์
มิจฉาทิฏฐินี้นั้น คือกรรมทางใจ
ครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์
ทรง ตรัสอธิบาย
โดยการถามไถ่
คนที่เจ็บป่วยไข้ ไปสวรรค์ได้ไหม?
มีผู้ตอบว่าได้
ถ้าใจเรานี้ผูกพันกับความดี
เป็นการชี้ ว่า
มโนกรรมนี่หละ สุดจะยิ่งใหญ่
อีกอย่าง เราคงเคยได้ฟัง
คำดังนี้
จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว ท่านชี้
นี่แหละ จิตแท้ ยิ่งใหญ่
ในอุปาลิวาทสูตร
ได้พูดถึงเรื่องนี้
มีเอ่ยอ้างไว้อย่างดี
เพียงคิดไม่ดี ก็มีโทษหลาย
จึงควรสังวร มีสติ
ไม่ปล่อยให้มี ใจฟุ้งซ่าน
เกิดใจมืดมิด มหากาฬ
อวิชชาไพศาล เป็นมัน มิจฉาทิฏฐิ
โดยเฉพาะ ในเวลาจะตาย
เหลือไว้ แต่จิต
คิดดีคิดร้าย เป็นกรรมใหญ่ มีฤทธิ์
ประสิทธิ์ ให้ไปเกิด
ดังนั้นการฝึกจิตประจำวัน
จึงสำคัญ อย่างยิ่ง ต่อเวลาจะตาย
เป็นหัวเลี้ยงหัวต่อ ของภพชาติใหม่
ควบคุมความคิดได้ ใจต้องมีสมาธิ

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น