วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ประจักษ์คุณมารดา (สามารถสละชีวาให้บุตรได้) :: มารดา สละชีวิตให้บุตรได้ รักบุตรสุดใจ แม้อยู่ในท้อง เพียงรู้ว่าบุตรได้เกิด ประคับประคอง ผิวพรรณผุดผ่อง ยินดีปรีดา

ประจักษ์คุณมารดา
(สามารถสละชีวาให้บุตรได้)
มารดา สละชีวิตให้บุตรได้
รักบุตรสุดใจ แม้อยู่ในท้อง
เพียงรู้ว่าบุตรได้เกิด ประคับประคอง
ผิวพรรณผุดผ่อง ยินดีปรีดา
 นี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เพียงพูด
จริงที่สุด ผู้พูด อยู่ในเหตุการณ์
ท่านเป็นพระ ได้โอกาศมาในงาน
บุญถวายสังฆทาน ในโรงงาน แห่งหนึ่ง
เนื่องจากคนงาน ทำการไม่สงบ
ประสพกับ สิ่งประหลาด
มีสิ่งของตกตึงตัง ดังไม่ขาด
และรู้สึกขยาด เหมือนมีคนบังอาจจ้องมอง
ขณะที่ทำพิธีอยู่ จู่ๆ ก็มีหญิงคนหนึ่ง
คนตลึง หญิงคนนั้น ถูกผีเข้า
ร้องไห้เสียงดัง ไม่เบา
เล่นเอา พระอาจารย์ งงงัน ไปไม่เป็น
มีผู้เสี่ยง เข้าไปซักไซ้ไล่เลียงดู
จึงได้รู้ ผีหญิงนั้น เป็นหญิงคนงานนั่นเอง
คลอดบุตรไม่ได้ หมอเคยบอกเอาไว้ แต่อวดเก่ง
ไม่ใช่เบ่งไม่ได้ เบ่งได้ แต่เลือดไหลไม่หยุด
คุณหมอ เคยบอกไว้ ช่วยได้คนเดียว
หมอท่านเชี่ยว ให้ตัดสินใจ เลือกใครเอาไว้
มารดาจึงตัดใจ ด้วยรักลูกหลาย
ขอยอมตาย มอบชีวิตให้กับลูก
ที่ของตกตึงตัง และยังเข้าไปจ้องมอง
ด้วยอยากขอร้อง ให้ได้ ไปพบลูก
ตัวเองไปไม่ได้ บุญน้อยไป จึงทำอะไรไม่ถูก
อยากพบลูก ใจจะขาด จึงบังอาจทำเสียง
พระอาจารย์ ผู้เป็นประธานสงฆ์
ถูกเจาะจง ให้จัดการ
ท่านคิด ข้าก็ศิษย์มีครู จึงกล่าวขาน
 ให้เอาบุญใหญ่สังฆทาน เปลี่ยนขันธ์ก่อน
เมื่อได้บุญใหญ่ ก็จะกลายเป็นเทพธิดา
ติดตามปกปักรักษา บุตรได้
คราวนี้ ก็จะได้ อยู่ใกล้บุตรสมใจ
นางผีคลายใจ เรื่องทั้งหลาย จึงจบลง
น่าตอกย้ำ ก็คือ ความรักของแม่ต่อบุตร
รักสุดๆ รักบุตร ยิ่งกว่าชีวิตตน
เป็นสัญชาติญาณ ของมารดาทุกคน
เคยผูกพันกัน เป็นล้นพ้น ในอดีต
ท่านจึงว่า กตัญญูกับบุพการี สองคนดีที่หายาก
เมื่อพบพักตร์ จงประจักษ์ ได้สติ
ก็คือเทวดาเดินดิน ดีดี
มีชีวี เพื่อตน และคนทั้งปวง

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น