แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มารดา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มารดา แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สติสัมปชัญญะ (มารดาคุณธรรม) โสรัจจะ เสงี่ยมงาม อวิหิงสา คุณธรรม ไม่เบียดเบียน เป็นช้างเท้าหลัง อย่าเพี้ยน สติสัมปชัญญะ เซียน ช้างเท้าหน้า

 สติสัมปชัญญะ
(มารดาคุณธรรม)

โสรัจจะ เสงี่ยมงาม
อวิหิงสา คุณธรรม ไม่เบียดเบียน
เป็นช้างเท้าหลัง อย่าเพี้ยน
สติสัมปชัญญะ เซียน ช้างเท้าหน้า

โสรัจจะ เสงี่ยม สง่างาม
ศัตรูเกรงขาม นามระบือไกล
มีตะบะ อานุภาพ อจินไตย
ชนะได้ ไม่ต้องรบ 
โสรัจจะ ชนะอารมณ์ภายนอก
สติไม่ออก นิ่งอยู่ในกาย
สุขสงบ สะบาย
คนสัมผัสได้ ใจสงบไปด้วย
อวิหิงสา สละโกรธเกลียด 
 ไม่เบียด..เบียน
เป็นคุณธรรม ของเซียน
มหาชน แวะเวียน มากราบไหว้
อวิหิงสา สะกดใจ ได้ขันติ
เป็นไฟ ปราบพาลี พ่าย
มหาชนได้พึ่งพา อาศัย
เหมือนเรือใหญ่ ในมหาสมุทร
คุณธรรม ทั้งหลายทั้งปวง
 ไม่ล่วง สติสัมปชัญญะ
 เปรียบปาน มารดา
 ตามรักษาบุตรน้อย กลอยใจ
ฝึกสติ จึงเป็นกิจกรณีย์ ชีวิต
มุ่งสุดขีด ทำพระนิพพานให้แจ้ง
เข้าวัดปฏิบัติธรรม อันเป็นแหล่ง
บุญแสวง และสร้างบารมี

;;;;;;;;;; 

วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2565

มารดา (มิตรในเรือนตน) มารดา เป็นมิตรในเรือนตน เหมือนบุญกุศล คือมิตรในเรือนใจ ไม่ว่ากาลไหนๆ ช่วยแก้ไข ให้กำลังใจไม่หยุดยั้ง

 มารดา
(มิตรในเรือนตน)


มารดา เป็นมิตรในเรือนตน
เหมือนบุญกุศล คือมิตรในเรือนใจ
ไม่ว่ากาลไหนๆ
ช่วยแก้ไข ให้กำลังใจไม่หยุดยั้ง

ใครทำร้ายมารดา จึงบาปหนาสุดสุด
เป็นอมนุษย์ ปุถุชนกิเลสหนา
ปฏิเสธ การแสวงบุญญา
ไม่รู้จักคุณมารดา จึงดื่มสุรายาเมา

มารดา เป็นมิตรในบ้าน
บุญ เป็นมิตรของชีวัน ดังเงา
ตามติด ดูแล เฝ้า
แต่คนเรา..ไม่รู้ แถมยังลบหลู่คุณ

ผู้กินเหล้า เจ้ารู้ไหม ทำร้ายมารดา
ใจห่วงหา น้ำตาไหล
ตัดได้ยาก ตัดอาลัย
ความรักยิ่งใหญ่ ใจมารดา

ผู้ทำร้ายมิตร มีจิตวิปลาส
เป็นผู้ขาด..สติ มิรู้ดีชั่ว
เหมือนผีเข้าสิง กลายเป็นลิง ไม่รู้สึกตัว
ทำลายครอบครัว ทำลายตัวเอง

มิตรในตน คือบุญกุศล คนไม่รู้
ติดตาม อุปถัมภ์ค้ำชู อยู่ไม่ห่าง
เป็นดังเงา เฝ้าติดตาม
มีบุญค้ำ ชีวิตไม่ตกต่ำ เจริญ

ผู้มีสติปัญญา ตามรักษามิตร
เป็นบัณฑิต กตัญญู รู้คุณมารดา
เข้าวัดปฏิบัติธรรม รู้คุณศาสนา
แสวงบุญญา และสร้างบารมี

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2564

กตัญญู (คือผู้ บำรุงบิดามารดา) พระพุทธองค์ ทรงตรัส อย่างชัดเจน พ่อแม่เป็น ผู้มีคุณ การุณต่อบุตร กตัญญูขาดไม่ได้ เป็นเครื่องหมาย คนดีสุด ปัญญาผุด อภิชาติบุตรผงาด ชาติวิเศษ

กตัญญู
(คือผู้ บำรุงบิดามารดา)

พระพุทธองค์ ทรงตรัส อย่างชัดเจน
พ่อแม่เป็น ผู้มีคุณ การุณต่อบุตร
กตัญญูขาดไม่ได้ เป็นเครื่องหมาย คนดีสุด
ปัญญาผุด อภิชาติบุตรผงาด ชาติวิเศษ
กตัญญู กับปัญญา มาคู่กัน
การลบหลู่คุณท่าน เท่ากับการ ทำลายตน
บาปจะมา ปัญหาจะมี มากล้น
พระอาทิตย์เบื้องบน ดับไม่ได้ ก็คล้ายกัน
กตัญญูเป็นบุญ หนุนให้ได้ พ่อแม่ดี
เป็นบุพพการี เกื้อกูนดี เหลือเกิน
เป็นกัลยาณมิตร เป็นบัณฑิต พาก้าวเดิน
รุ่งเรื่องจำเริญ บนเส้นทาง ห่างพาลภัย

กตัญญูแท้ ได้แก่ อัตตสุทธิ
เป็นบุตรที่ดี ไม่มี อบายมุข
ห่างคนพาล เลิกสนาน สนุก
มีใจสุข นิ่งอยู่ภายใน 
หมดอาลัย โลกีย์
อัตตสุทธิ นี้ไม่ใช่การ ทรมานตน
หรือเป็นคน 
ปล่อยวางกระทั่ง สะอาด
มิจฉาทิฏฐิ ปล่อยชีวีหย่อนยาน ปานสัตว์
รู้จักสะอาด ระเบียบวินัย จึงใช่คน
กตัญญู คุณธรรม ค้ำบัณฑิต
มีกรณียกิจ บำรุงบิดามารดา และสมณะ
ปีติใจหลาย ฝักใฝ่กุศล ศรัทธา
บุญนำพา เจริญสุข ทุกประการ


;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564

คุณธรรมค้ำชีวี (เป็นคนดี ปีติในธรรม) ปีติใจ น้ำตาไหล ร่วง ทำความดี อย่างใหญ่หลวง ยากลำบาก บุญท่วมท้น หลั่งล้น ทะลัก ปีตินี้สำคัญนัก ต่อชีวี ที่เวียนว่าย

คุณธรรมค้ำชีวี
(เป็นคนดี  ปีติในธรรม)
ปีติใจ น้ำตาไหล ร่วง
ทำความดี อย่างใหญ่หลวง ยากลำบาก
บุญท่วมท้น หลั่งล้น ทะลัก
ปีตินี้สำคัญนัก ต่อชีวี ที่เวียนว่าย

มารดาเลี้ยงบุตร สุด เมตตา
อุ้มชู ตลอดเวลา จนเติบใหญ่
เป็นพระพรหม ของบุตร สุดใจ
ปีติหลาย เมื่อลูกชาย บรรพชาอุปสมบท
ใจปีติ ลืมโลก ทุกข์โศก ดับ
ชีวิตฟื้นกลับ เหมือนหลับ แล้วตื่น
เป็นอัศจรรย์ ทุกวัน ดีขึ้น
ชีวิตพลิกฟื้น สดใส ด้วยใจปีติ
คุณธรรมทั้งหลาย ทำให้ ใจปีติ
สะสมความดี กลายเป็นมี คุณธรรม
เป็นที่พึ่ง หนึ่งเดียวของชีวี ที่เลิศล้ำ
สมบัติสาม ตามติด ดังเงา
ทำร้ายคน ทำลายตน นั่นเอง
เก่ง แต่บ้า กล้าทำลายคุณธรรม
เมื่อบุญหมด น้ำลด หน้าดำคล้ำ
ทุกข์กระหน่ำ กรรมสนอง ล่องนรก
ชนะคน ไม่คงทน เดี๋ยวหล่นลง 
ชนะตนมั่นคง เท่ากับชนะคนอื่น
มีคุณธรรม ค้ำจุน แสนราบรื่น
ความขมขื่น มีไม่ได้ เมื่อใจปีติ
คนชั่วทำชั่วดีใจ ที่ได้ ทรัพย์สินเงินทอง
แต่เสียครรลอง คุณธรรม ค้ำชีวิต
 ขุดหลุมฝังตน คนสิ้นคิด
จมมิด ในนรก หมกไหม้


;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ประจักษ์คุณมารดา (สามารถสละชีวาให้บุตรได้) :: มารดา สละชีวิตให้บุตรได้ รักบุตรสุดใจ แม้อยู่ในท้อง เพียงรู้ว่าบุตรได้เกิด ประคับประคอง ผิวพรรณผุดผ่อง ยินดีปรีดา

ประจักษ์คุณมารดา
(สามารถสละชีวาให้บุตรได้)
มารดา สละชีวิตให้บุตรได้
รักบุตรสุดใจ แม้อยู่ในท้อง
เพียงรู้ว่าบุตรได้เกิด ประคับประคอง
ผิวพรรณผุดผ่อง ยินดีปรีดา
 นี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เพียงพูด
จริงที่สุด ผู้พูด อยู่ในเหตุการณ์
ท่านเป็นพระ ได้โอกาศมาในงาน
บุญถวายสังฆทาน ในโรงงาน แห่งหนึ่ง
เนื่องจากคนงาน ทำการไม่สงบ
ประสพกับ สิ่งประหลาด
มีสิ่งของตกตึงตัง ดังไม่ขาด
และรู้สึกขยาด เหมือนมีคนบังอาจจ้องมอง
ขณะที่ทำพิธีอยู่ จู่ๆ ก็มีหญิงคนหนึ่ง
คนตลึง หญิงคนนั้น ถูกผีเข้า
ร้องไห้เสียงดัง ไม่เบา
เล่นเอา พระอาจารย์ งงงัน ไปไม่เป็น
มีผู้เสี่ยง เข้าไปซักไซ้ไล่เลียงดู
จึงได้รู้ ผีหญิงนั้น เป็นหญิงคนงานนั่นเอง
คลอดบุตรไม่ได้ หมอเคยบอกเอาไว้ แต่อวดเก่ง
ไม่ใช่เบ่งไม่ได้ เบ่งได้ แต่เลือดไหลไม่หยุด
คุณหมอ เคยบอกไว้ ช่วยได้คนเดียว
หมอท่านเชี่ยว ให้ตัดสินใจ เลือกใครเอาไว้
มารดาจึงตัดใจ ด้วยรักลูกหลาย
ขอยอมตาย มอบชีวิตให้กับลูก
ที่ของตกตึงตัง และยังเข้าไปจ้องมอง
ด้วยอยากขอร้อง ให้ได้ ไปพบลูก
ตัวเองไปไม่ได้ บุญน้อยไป จึงทำอะไรไม่ถูก
อยากพบลูก ใจจะขาด จึงบังอาจทำเสียง
พระอาจารย์ ผู้เป็นประธานสงฆ์
ถูกเจาะจง ให้จัดการ
ท่านคิด ข้าก็ศิษย์มีครู จึงกล่าวขาน
 ให้เอาบุญใหญ่สังฆทาน เปลี่ยนขันธ์ก่อน
เมื่อได้บุญใหญ่ ก็จะกลายเป็นเทพธิดา
ติดตามปกปักรักษา บุตรได้
คราวนี้ ก็จะได้ อยู่ใกล้บุตรสมใจ
นางผีคลายใจ เรื่องทั้งหลาย จึงจบลง
น่าตอกย้ำ ก็คือ ความรักของแม่ต่อบุตร
รักสุดๆ รักบุตร ยิ่งกว่าชีวิตตน
เป็นสัญชาติญาณ ของมารดาทุกคน
เคยผูกพันกัน เป็นล้นพ้น ในอดีต
ท่านจึงว่า กตัญญูกับบุพการี สองคนดีที่หายาก
เมื่อพบพักตร์ จงประจักษ์ ได้สติ
ก็คือเทวดาเดินดิน ดีดี
มีชีวี เพื่อตน และคนทั้งปวง

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

อวิชชา (หลับตามืดตัวการ):: พระอรหันต์ ผู้มีคติอัน เที่ยงแท้ โลกนี้แสนจะแย่ ไม่มีข้อแม้ ขออยู่ต่อ

อวิชชา
(หลับตามืดตัวการ)
พระอรหันต์
ผู้มีคติอัน เที่ยงแท้
โลกนี้แสนจะแย่
ไม่มีข้อแม้ ขออยู่ต่อ
เหมือนแม่ท้องแก่
หนักท้องแท้ แต่ทนรอ
ไม่มีท้อ
ขอสู้ต่อ ให้เจ้าหนู อยู่ต่อไป
ทำตนเป็นผลไม้
แม้บ่มได้ ก็ไม่หล่น
เหมือนดื้อ ถือดีตน
รักลูกล้น ก้มหน้า รักษาท้อง
ไม่ด่วนหล่น
เกลื่อนกล่น ลมพัดพา
อยู่ไปจนกว่า
ถึงเวลา อันควร
อันความพอดี
ย่อมมี ปัจจัยกำหนด
เหมือนพระพุทธองค์ ทรงจรด
เล็งญาณ หากาลอุบัติ
อยู่ในครรภ์
ครบครัน ครบถ้วนทศมาส
ตามธรรมชาติ 
จึงอุบัติ จากครรถ์ พระมารดา
การฆ่า จึงทำไม่ได้
ในทุกกรณีย์
ฆ่าตนไม่ได้ ฆ่างูร้าย ก็ไม่ดี 
ด้วยกายนี้ มีคุณนัก
เกิดเป็นมนุษย์
สุดดี สร้างบารมีได้ เป็นกระตัก
แม้เขายียำ ทำร้าย เหมือนยักษ์
เป็นโอกาสใหญ่นัก ได้บารมี
ระเบิดพลีชีพ เป็นมิจฉาฯ
 ปัญญาเบา
ทำลายคน และตน ตัวเก่า
ชีวิตเจ้า น่าเวทนา
สร้างเวรกรรม
ไปเชื่อคำ คนเหลวไหล
มารชักจูงไป
เหมือนวัวควาย สู่แดนประหาร
อวิชชา หลับตามืด ตัวการ
วิชามาร กลั่นแกล้งสรรพสัตว์
ธรรมกาย รู้เช่น เห็นชาติ
ช่วยสรรพสัตว์ จึงไม่อาจนิ่งเฉย

;;;;;;;;;;