แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กรรม แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กรรม แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

วัฏสงสารเวียนว่าย (เกิดตายๆ ไม่รู้จักออก) วัฏสงสาร ตายเกิด ซ้ำซาก มีทุกข์หนัก ไม่รู้จัก ออก เกิดตายๆ คล้ายเล่น สัพยอก ถูกมารหลอก ด้วยเหยื่อล่อ ตะขอเบ็ด

วัฏสงสารเวียนว่าย
(เกิดตายๆ ไม่รู้จักออก)

วัฏสงสาร ตายเกิด ซ้ำซาก
มีทุกข์หนัก ไม่รู้จัก ออก
เกิดตายๆ คล้ายเล่น สัพยอก
ถูกมารหลอก ด้วยเหยื่อล่อ ตะขอเบ็ด
วนเวียนไป ในภูมิต่างๆ
ไปภูมิล่าง เกือบทั้งร้อย
 ทุกข์หนัก น้ำตานอง ซ้ำรอย
น้ำตาไม่น้อย มากล้ำกว่า น้ำสมุทร
มันเป็นกรรม จำต้องเกิด ชดใช้ 
กระทำ ดีร้าย ต้องรับ
กรรมดีมีสุข กรรมชั่วทุกข์หนัก
หนีไม่ได้ ต้องรับไว้ เป็นคล้ายเงา
ผู้มีศรัทธา มาคิดได้ 
 อดทนไป ใช้บาป สำหรับฝึก
ฝึกให้แกร่ง ให้กล้า ปานม้าศึก
ไม่มัวนึก น้อยใจ ในวาสนา
ทำบาปชั่วช้า..มา๑๐๐ปี 
 ยังมีสิทธิ์ที่ จะไปสวรรค์
 ได้สติ แสวงบุญสร้างบารมี เท่านั้น
สุดสำคัญ การทำพระนิพพานให้แจ้ง
 
   ;;;;;;;;;; 

วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2564

พญามารกลัวนัก (อุปสรรคปัญหา มลายสิ้น) เหตุการณ์ต่างๆที่เราเห็น ที่เป็นไป ในโลกา ล้วนมายา เป็นภาพ คล้ายกับจอหนัง หนัง 5 มิติ ที่คล้าย จริงจัง ไม่เคยหยุดยั้ง เครื่องฉาย คือใจเราเอง

พญามารกลัวนัก
(อุปสรรคปัญหา มลายสิ้น)
เหตุการณ์ต่างๆที่เราเห็น ที่เป็นไป ในโลกา
ล้วนมายา เป็นภาพ คล้ายกับจอหนัง
 
  หนัง 5 มิติ ที่คล้าย จริงจัง
ไม่เคยหยุดยั้ง เครื่องฉาย คือใจเราเอง
ปรากฏการณ์ทั้งหลาย ที่เป็นไป ไม่บังเอิญ
ได้ดำเนิน ไปตามครรลอง ของกฏแห่งกรรม 
กิเลสกรรมวิบาก วนเวียนซ้ำซาก ทุกข์กระหน่ำ
ยิ่งนานยิ่งช้ำ ก่อกรรม ทับทวี
คนประมาทขาดสติ จึงคือคนที่ ตายแล้ว
ตายจากแก้ว คือพระรัตนตรัยในตัว
ตายจากบุญ วุ่นหาแต่บาป เมามัว
ไม่รู้ตัว บาปเข้าสิง เหมือนลิงแก้แห
 สุขหรือทุกข์ ของตน เราคือคนทำ
 จงรับกรรม อย่างมีสติ อย่าขี้บ่น
ตั้งสติ ใช้ขันติ ความอดทน
เดินถนน แห่งปัญญา ชัยชนะจะมา อีกทั้งความสำเร็จจะมี

เมื่อใจสะอาด ธรรมชาติ สวยงาม
วิบากกรรม แม้มี ก็มิอาจตามทัน
มีสติอยู่ภายในตน เดินถนนสายกลางเท่านั้น
ทานศีลภาวนา แม่นมั่น สุขสันติ์ตลอดกาล
 ชีวิต ถูกลิขิต ด้วยความสะอาด
ประหลาด แต่จริง อจินไตย
เก่งกาจ ฉลาด ขนาดไหน
สะอาด สดใส เป็นฐานราก
สะอาด บริสุทธิ์ สัตย์ซื่อ
นั้นก็คือ สัจจะคุณธรรม ล้ำค่า
 สุข สำเร็จ และชัยชนะ
 นอนมา ยิ่งใหญ่ คิดไม่ถึง
 บริสุทธิ์สะอาด สมบัติ คนจริง
มี ใจนิ่ง ใจใส ภายในตน
มีปีติ ดำริดี พูดดี ทำดี ต่อทุกคน 
 กระตือลือล้น แสวงบุญ สร้างบารมี
 สะอาดมีระเบียบ  มารยาทเฉียบ ยอดคน
นำประเทศชาติ มหาชน พ้นภัย
สุขสมบูรณ์ น้ำท่า ข้าวปลาอาหาร สะดวกสบาย
พญารมาร เกรงใจ ไม่กล้าราวี  

;;;;;;;;;;


วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564

คุณธรรมค้ำชีวี (เป็นคนดี ปีติในธรรม) ปีติใจ น้ำตาไหล ร่วง ทำความดี อย่างใหญ่หลวง ยากลำบาก บุญท่วมท้น หลั่งล้น ทะลัก ปีตินี้สำคัญนัก ต่อชีวี ที่เวียนว่าย

คุณธรรมค้ำชีวี
(เป็นคนดี  ปีติในธรรม)
ปีติใจ น้ำตาไหล ร่วง
ทำความดี อย่างใหญ่หลวง ยากลำบาก
บุญท่วมท้น หลั่งล้น ทะลัก
ปีตินี้สำคัญนัก ต่อชีวี ที่เวียนว่าย

มารดาเลี้ยงบุตร สุด เมตตา
อุ้มชู ตลอดเวลา จนเติบใหญ่
เป็นพระพรหม ของบุตร สุดใจ
ปีติหลาย เมื่อลูกชาย บรรพชาอุปสมบท
ใจปีติ ลืมโลก ทุกข์โศก ดับ
ชีวิตฟื้นกลับ เหมือนหลับ แล้วตื่น
เป็นอัศจรรย์ ทุกวัน ดีขึ้น
ชีวิตพลิกฟื้น สดใส ด้วยใจปีติ
คุณธรรมทั้งหลาย ทำให้ ใจปีติ
สะสมความดี กลายเป็นมี คุณธรรม
เป็นที่พึ่ง หนึ่งเดียวของชีวี ที่เลิศล้ำ
สมบัติสาม ตามติด ดังเงา
ทำร้ายคน ทำลายตน นั่นเอง
เก่ง แต่บ้า กล้าทำลายคุณธรรม
เมื่อบุญหมด น้ำลด หน้าดำคล้ำ
ทุกข์กระหน่ำ กรรมสนอง ล่องนรก
ชนะคน ไม่คงทน เดี๋ยวหล่นลง 
ชนะตนมั่นคง เท่ากับชนะคนอื่น
มีคุณธรรม ค้ำจุน แสนราบรื่น
ความขมขื่น มีไม่ได้ เมื่อใจปีติ
คนชั่วทำชั่วดีใจ ที่ได้ ทรัพย์สินเงินทอง
แต่เสียครรลอง คุณธรรม ค้ำชีวิต
 ขุดหลุมฝังตน คนสิ้นคิด
จมมิด ในนรก หมกไหม้


;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ทุกย่างก้าว (อย่าดูเบาเด็ดขาด) มีกรรมเก่า ติดตามเรา ทุกก้าวย่าง เหมือนดังเงา เฝ้าติดตาม ไม่ประมาท ตัดให้ขาด ที่เป็นกรรมดำ ฝักใฝ่ธรรม กรรมขาว บุญบารมี

ทุกย่างก้าว
(อย่าดูเบาเด็ดขาด)

มีกรรมเก่า ติดตามเรา ทุกก้าวย่าง
  เหมือนดังเงา เฝ้าติดตาม
ไม่ประมาท ตัดให้ขาด ที่เป็นกรรมดำ
ฝักใฝ่ธรรม กรรมขาว บุญบารมี
เข้าวัด เร่งลัด ทานศีลภาวนา
สุดชีวา ด้วยว่า ชีวิตเป็นของน้อย
ใช้ชีวิตสันโดษ ประหยัดสุด ประโยชน์สูง เลิศลอย
อย่านั่งคอยนอนคอย วาสนา
บุญวาสนา จะมาได้ ต้องมีสายบุญ
ทำให้คุ้น บุญเป็นสาย ไม่ให้ขาด
อย่าให้บาปได้ช่อง ต้องไม่ประมาท
เด็ดขาด ตั้งสติ คิดดีพูดดีทำดี เท่านั้น
กรรมมีสาม มโนกรรม หนักสุด
การพูด การกระทำ กรรมน้อยกว่า
จึงต้อง ระวังความคิด ตลอดเวลา
ด้วยเจริญภาวนา อย่าขาด สม่ำเสมอ
ใจนิ่งใจหยุด ที่สุด ของบุญ
คนไม่คุ้น จึงไม่เร่งลุ้น ภาวนา
ชอบคิดพูดไม่หยุด ใจสดุด หยุดอยู่นอกกายา
บาปนักหนา นี่หละ อาจิณณกรรม
 
มิน่าล่ะ เกิดเป็นมนุษย์ สุดแสนยาก
 คนไม่รู้จัก ระวังปาก ของตน
ขาดสติ ปล่อยใจ คิดไป นอกตน
บาปเหลือล้น คนไม่รู้
 
คิดอยู่ในใจ ใครๆ ไม่เห็น
แต่นั่นแหละ เป็น บาปหนักที่สุด
น่าตกใจ อันตราย เกินพูด
และทำใจหยุด อยู่ภายใน พ้นภัยทั้งปวง
เมื่อทำดี จะมีบุญ เป็นผล
ชำระตน ชำระใจ ให้ผ่องใส
มีสันติ สงบนิ่งอยู่ภายใน
ประพฤติธรรม นำชัย สู่ชีวิต
บุญเป็น ยอดกัลยาณมิตร ติดตามเรา
เป็นดังมารดา เฝ้า รักษาบุตร
รู้จักบุญญา มีศรัทธา คือชาวพุทธ
เป็นที่สุด ของปัญญา ศรัทธาแท้

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วิบากกรรมตามไม่ได้ (ที่ศูนย์กลางกาย มีที่เดียว) :: รู้ตัวบ้างไหม เรานี้มีภัย ถูกไล่ล่า ไม่อาจจะหา สถานที่ซ่อนได้ ใต้ทะเลมหาสมุทร สุดลึก แค่ไหน หุบเหว หรืออวกาศแสนไกล ซ่อนไม่ได้เลย

วิบากกรรมตามไม่ได้
(ที่ศูนย์กลางกาย มีที่เดียว)

รู้ตัวบ้างไหม เรานี้มีภัย ถูกไล่ล่า
ไม่อาจจะหา สถานที่ซ่อนได้
ใต้ทะเลมหาสมุทร สุดลึก แค่ไหน
หุบเหว หรืออวกาศแสนไกล ซ่อนไม่ได้เลย
ปัญหาอุปสรรคน้อยใหญ่ นั้นใช่เลย
ใจไม่สะเบย นั้นก็ใช่
ความอัตคัตขัดสน ยากจน เจ็บป่วยไข้
ล้วนใช่  บาปกรรม ตามไล่ล่า
เราคุ้นกับมัน ปานปลาคุ้นกับน้ำ
เต่าบอกซ้ำๆ แต่ไม่เชื่อ
พระท่านสอน ยังทำท่า น่าเบื่อ
ผู้เชื่อ ผู้ศรัทธา จึงไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
บาปกรรม ติดตาม ยังกะเงา
 แต่เหล่าสรรพสัตว์ ไม่รู้หนาว ไม่รู้ร้อน  
ตื่นสาย นั่งนอนสบาย พักผ่อน
หัวถึงหมอน ก็หลับไหล ไม่รู้เรื่องรู้ราว
แตกตื่นศรัทธา เมื่อพระพุทธายังอยู่
ในยุคปราศจากผู้รู้ หมู่มารกำแหงหาญ
หลวงปู่ฯยังไม่มา หลวงพ่อฯ ยังเพียงยัน
หมู่มารระย่อ พระเป็นต่อ พอสู้ไหว
กิเลส กรรม วิบาก เรียกว่า วัฏฏะ๓
สรรพสัตว์มีกิเลส จึงก่อกรรม และเกิดวิบาก
 ไม่รู้เหนือใต้ ใช้ชีวิต วัฏฏะนำชัก
อยู่ในวังวน จมปลัก ทุกข์หนัก น้ำตานอง
เรามีกิเลส น่าสมเพช ที่คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนัก
กิเลสทะลัก กรรมวิบาก ท่วมโลก
โลกยุคมืด คนดียึดบุญ หนีทุกข์โศก
หนีโรค หนีภัยและอันตรายทั้งปวง
ทางสายกลาง ทางแห่งบุญ
จุดสำคัญ คือศูนย์กลางกาย
แหล่งปลอดกิเลส และเภทภัย
กรรมวิบาก ตามไม่ได้ ปลอดจากภัยวัฏฏะ๓ 

 ;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ชีวิตนี้อันตราย (คนทั้งหลายคล้ายแมงเม่า) :: โลกปัจจุบัน นั้นไม่ใช่ที่เสวยสุข จะมัวห่วงหาสนุก นั้น มันไม่ได้ เป็นโลกแห่งการกระทำ ได้กรรมเอาไป ดีหรือชั่วใครได้เท่าใด ติดตัวไปในปรภพ

ชีวิตนี้อันตราย
(คนทั้งหลายคล้ายแมงเม่า)
โลกปัจจุบัน นั้นไม่ใช่ที่เสวยสุข
จะมัวห่วงหาสนุก นั้น มันไม่ได้
เป็นโลกแห่งการกระทำ ได้กรรมเอาไป
ดีหรือชั่วใครได้เท่าใด ติดตัวไปในปรภพ
โลกหลังตาย รับกรรมแต่ทำกรรมไม่ได้
 เสวยผลกรรมที่ทำไว้ อย่างเดียว
สุขก็สุขมาก ทุกข์ก็ทุกข์หนัก หน้าเขียว
เวลานมนานทีเดียว อจินไตย
ชีวิตมนุษย์แสนสั้น ปานสะเก็ดไฟ
แว๊ปเดียวหายไป ในห้วงจักรวาลมืดมิด
กลับมาเป็นมนุษย์ใหม่ อย่าคิด
มีสิทธิ์ น้อยยิ่งกว่าน้อย
น้ำรอดรูเข็ม จุ่มไว้ ในมหานที 
น้อยเหลือที่ แต่ว่านี้ยังมากกว่า
โอกาสเกิดเป็นมนุษย์ สุดน้อยเกินคณา
น้อยกว่าน้ำที่ว่า รอดรูเข็ม
แทบร้อยทั้งร้อย วนเวียนไป ในอบายภูมิ
ทุกข์รุม สุมใส่สุดแสนสาหัส ใครคาดไม่ถึง
เว้นไว้ศรัทธาหลาย มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
นั่นแหละจึง จะพ้นอบาย ไปสวรรค์
คนส่วนใหญ่ ไม่มีความรู้เรื่องนี้
หรือแม้รู้ดี แต่ไม่ขมีขมัน
เป็นคนประมาท ชาติแมงเม่าแมงมัน
ได้สติพลัน ก่อนจะตาย ก็สายแล้ว
โลกปัจจุบัน นั้นคือโรงละคร
 บุญบาปกำกับต้อน ให้ทุกชีวิตเล่น
หรือเป็นหุ่นกระบอก บุญบาปชักรอก ไม่เว้น
ทุกชีวิตลำเค็ญ ต้องเต้น ไปตามกรรม
นี้คือชีวิต ที่ลิขิตด้วยบุญบาป
พระผู้รู้ทรงทราบ ถึงกับอึ้ง
ตั้งปณิธานเด็ดเดี่ยว จะเป็นที่พึ่ง
จะนำพาสรรพสัตว์ให้ถึง ฝั่งพระนิพพาน
จะขอเข้านิพพานเป็นคนสุดท้าย
ปราบไอ้ดำให้ได้ ไม่ได้ไม่เลิกกัน
หลวงปู่ฯหาญกล้า ท้าพญามาร 
หลวงพ่อฯ คุณยายอาจารย์ ตามติด

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ถูกไม้ถูกค้อน (ต้อนไล่ไปสู่โรงประหาร):: กิเลสกรรมวิบาก บ่วงดัก ของพญามาร อยู่ในวัฏฏะสงสาร สรรพสัตว์จึง พากัน วนเวียนไป

ถูกไม้ถูกค้อน
(ต้อนไล่ไปสู่โรงประหาร)

กิเลสกรรมวิบาก
บ่วงดัก ของพญามาร
อยู่ในวัฏฏะสงสาร
สรรพสัตว์จึง พากัน วนเวียนไป

หยุดไม่เป็น ออกไม่ได้
ชดใช้กรรม ด้วยวิบาก
กิเลสนำชัก
มิอาจจัก หยุดก่อกรรมอีก 
สรรพสัตว์ทั้งหลาย
บ่ายหน้าวนเวียนไป ไม่รู้ที่
ยากเต็มที ที่จะพ้น
ด้วยเป็นคน มืดบอด

กิเลส ก่อเกิดตัณหา
พาสร้างกรรม
สร้างด้วยความ
สนุกสนาน และล้างผลาญกัน

ปลาใหญ่
ไล่กินปลาเล็ก น่าสงสาร
สมแก่การ กระทำชั่ว
ยอมตัว รับวิบาก

วนเวียนก่อเวร
สลับกันเป็น ผู้กระทำ
ทุกข์ระกรรม น้ำตาไหล
มากกว่าน้ำใน มหาสมุทร

สังขารถ้ากองได้
จะสูงใหญ่ กว่าภูเขาคิชกูฏ
พระโพธิสัตว์ ท่านสงสารสุด
จึงรุดสร้างบารมี

สรรพสัตว์ เหมือนวัวควาย
ถูกไล่ต้อน
ถูกไม้ถูกค้อน
ต้อนไล่ ไปสู่โรงประหาร

ถูกตีถูกทุบ
ล้มลุก คลุกคลาน
เป็นเวลายาวนาน
นับกาล ไม่ได้

ละกิเลสได้
จะต้องใช้ บารมีล้าง
เอาสติตั้ง
แล้วยับยั้ง อารมณ์

ข่มใจ
ในความรู้สึกที่ ขื่นขม
หมั่นอบรม ตนอย่างนี้
จึงจะหนี บ่วงดักได้

;;;;;;;;;;