วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563

คนมีศีลกลิ่นกายหอม (เทวดาห้อมล้อม ลงรักษา) :: ประเสริฐสุด ในมวลมนุษย์ คือผู้ทรงศีล หอมถึงถิ่น ไกลแสน แม้นชั้นฟ้า ทนไม่ไหว ลงมาไว เทวดา ปราถนา สิ่งใด เทพไท้ บันดาล

คนมีศีลกลิ่นกายหอม
(เทวดาห้อมล้อม ลงรักษา)
ประเสริฐสุด ในมวลมนุษย์ คือผู้ทรงศีล
หอมถึงถิ่น ไกลแสน แม้นชั้นฟ้า 
ทนไม่ไหว ลงมาไว เทวดา 
ปราถนา สิ่งใด เทพไท้ บันดาล
มีปัญญา จึงมีศีลา ด้วยเห็นประโยชน์
หนึ่ง เป็นที่โปรด..ปราน ของบัณฑิต
สอง เป็นที่มานอน ของสมบัติ สารพัดทิศ
สาม มีจิต..แจ่มใส เที่ยวไป ในสุคติ
ศีลรักษา หนึ่ง สมาทานวิรัติ
 การตั้งใจมั่นยืนหยัด ด้วยการสมาทาน
สอง สัมปัตตวิรัติ เว้นเฉพาะหน้า ในเหตุการณ์ 
และสาม เดิมพัน..ด้วยชีวิต เว้นเด็ดขาด สมุจเฉทวิรัติ นั่นเอง
เมื่อเว้นได้ ใจจะปีติ
เป็นความดี อันยิ่งใหญ่ ไม่ธรรมดา
จะมีสมบัติไหลมา
 หมู่พาลา และอันตราย ไม่มาใกล้
 มนุษย์มะนา ที่ไม่รักษา ศีล
เมื่อศีลสิ้น กลิ่นกาย จะเหม็น
เทวดาสุดทน หนีให้พ้น คนเวร
ความทุกข์เข็น ยากแค้น แล่นเข้ามา
ศีล เป็น เช่นกรอบ
ใครๆชอบ ชื่นชม นิยมเข้าใกล้
เป็นเสน่หา งามจับตา จับใจ
เป็นวินัย ยกคน พ้นอบาย
ศีล มาจากสิระ หรือ ประเสริฐ 
ขวนขวายเถิด มาศึกษา รักษาศีล
 ประเสริฐ เลอเลิศ เทพเดินดิน
รักษาศีล ปิ่นมนุษย์ สุดยอดคน
ศีล เป็นเบี้องต้น เป็นที่ตั้ง เป็นบ่อเกิด 
สิ่งประเสริฐ ล้วนเกิด จากศีล
คนดี อยู่ดี กินดี มีกิน
มีศีล เป็นภาชนะดี มิมีรั่ว
ศีล ประมุข กุศลกรรม 
ไม่อาจล่วงล้ำ ทำเกินดี
สะอาด ระเบียบ มารยาท ต้องมี
นอกจากนี้ ตรงเวลา และสมาธิ
สมาธิ  มีศีล เป็นฐาน
มิฉนั้น มันเป็น มิจฉาสมาธิ
ที่อาจทำร้าย ทำลาย ชีวี
สำคัญยิ่ง สัมมาสมาธิ ต้องผ่านที่ ศูนย์กลางกาย

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น