การเมืองกับพระ
การเมือง
อยู่เบื้องหลัง เศรษฐกิจ
การเมืองไม่นิ่งสนิท
เศรษฐกิจแย่
นโยบายที่วางไว้
เชื่อไม่ได้ อาจเปลี่ยนแปร
เมื่อไม่แน่
คนก็ไม่แห่ มาลงทุน
การเมืองการทหาร
มัน คู่กัน
เมื่อการเมืองสงบนั้น
การทหาร ไม่จำเป็น
การขัดแย้ง
แบ่งขั้ว เมื่อเด่น
ชาติเป็นเช่น มีผีห่า
ตำรวจทหารเข่นฆ่า ประชาชน
การเมืองการบ้าน
มัน คนละระดับ
การบ้านเหมือนกับ
ระดับ ส่วนตน
การเมือง
เป็นเรื่องส่วนรวม ของทุกคน
เรื่องส่วนตน วางไว้
เรื่องส่วนรวมต้องใส่ใจ ช่วยกัน
เรื่องส่วนตนวางอุเบกขา
เรื่องศาสนา อุเบกขาวาง
เรื่องส่วนกลาง หรือศาสนา
คืองานสร้างบารมี
การเมือง
ควรเป็นเรื่อง ความดี
สร้างสุขี
ให้ประชาชี ถ้วนหน้า
การเมือง
เรื่องส่วนรวม แก้ปัญหา
จะต้องมีบัณฑิตา
เข้ามา ร่วม
นำความเป็นธรรม
สร้างสันติสุข แก่ส่วนรวม
มิฉนั้นปัญหาท่วม
เป็นลิงแก้แห ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง
ดังนั้นการเมืองนั่นหนา
เป็นเรืองของพระ โดยตรง
พระสงฆ์
ผู้ปฏิบัติดี มีปัญญา
ท่านมีญาณหยั่งรู้
ไม่ใช่งูงู ปลาๆ
ความรู้ทางโลกนั่นหนา
ไม่อาจจะ เทียบได้
บ้านเมืองใด
ไม่บำรุงพระ อันตราย !
บ้านเมืองจะวุ่นวาย
มีพาลภัย เต็มเมือง
ทั้งการเศรษฐกิจ
เกิดวิกฤติ ฝืดเคือง
ธรรมชาติก็เป็นเรื่อง
โหดร้าย ทำลายซ้ำ
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น