วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2564

ศีลบารมี (คอยคุ้มชีวีให้อยู่เย็น) ผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ เป็นประดุจ เทพารักษ์ พิทักษ์ชาวประชา ที่บูชากราบไหว้ บันดาลธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศ ให้เป็นไป ปราศจากเภทภัย ไร้อันตราย สงบสันติ

ศีลบารมี
(คอยคุ้มชีวีให้อยู่เย็น)
ผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ เป็นประดุจ เทพารักษ์
พิทักษ์ชาวประชา ที่บูชากราบไหว้
บันดาลธรรมชาติ ดินฟ้าอากาศ ให้เป็นไป
ปราศจากเภทภัย ไร้อันตราย สงบสันติ
ศีลเป็นดั่งมารดา ปกปักรักษา และเกื้อกูล
สุขสมบูรณ์ ทั้งตน และคนอื่น
คนดีมีศีลา มีชีวาราบรื่น
สุขสมปราถนา แช่มชื่น รื่นเริงใจ
ศีลรักษา โดยตั้งเจตนา วิรัติ
ยืนหยัด สมาทาน งดเว้น
เกิดกระแสบุญใส ใจสงบเย็น
 จะได้อานิสงส์ ดังเช่น ที่กล่าวมา 
มีเรี่องเล่า กล่าวไว้ ในพระไตรปิฎก
อุบาสก จักกนะ ผู้รักษาศีล
มารดาป่วยหนัก จักสิ้น ชีวิน
  จะต้องได้กิน เนื้อกระต่าย ตายจึงจะรอด
 ถูกพี่ชาย ไล่เข้าป่า หากระต่าย
 ถูกเถาวัลย์ พันขาไว้ จึงจับได้
 ล้มลง ร้องลั่น ปานจะตาย
อุบาสกปล่อยไป ด้วยใจ เมตตา
ไม่ควร เอาชีวิตอื่น มาฟื้นชีวิตแม่
ไม่สมควรแท้ ที่จะเห็นแก่ตน 
 พรากชีวิต ใจอำมหิต ไม่ใช่คน
ยอมทุกข์ทน แน่วแน่ แผ่เมตตา
พี่ชาย เห็นน้องชาย ไม่ได้กระต่ายมา
 และรู้ว่า จับได้ แต่ปล่อยไป
 มีโทสะ ดุด่า อย่างเสียหาย
 อุบาสกทนได้ รักษาไว้ ความดี
อุบาสก คุกเข่า คลานเข้า หาแม่
ลูกนั้นแย่ แม่จ๋า ลูกทำไม่ได้   
 ลูกอกตัญญู ทั้งๆที่รู้ ก็ปล่อยไป
 ทำลาย ชีวิตอื่นไม่ได้ ลูกทำไม่ลง
ขอตั้งสัจจอธิษฐาน ไม่เคยผลาญชีวิต
ให้สำเร็จกิจ บำบัดชีวิต แม่
ให้ฟื้น เหมือนตื่นจากฝัน นั่นแล
ข้าแต่ พระพุทธองค์ ทรงอวยพร
อานุภาพศีล สัจจะ น่าอัศจรรย์
 เดี๋ยวนั้น แม่หายพลัน ลืมตาขึ้น
เหมือนหลับไหล ฝันไป แล้วตื่น
แม่ได้ฟื้น ลุกขึ้นได้ คิดไม่ถึง
อานุภาพศีล อจินไตย
ยิ่งใหญ่ เกินใคร คาดคิด
สำรวมกายวาจา อุทิศ ชีวิต
ให้สำเร็จกิจ น้อยใหญ่ อกาลิโก

 ;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น