วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563

คนไม่ตระหนี่ (จนหรือมี ต้องให้):: ดวงจันทร์ปราศจากมลทิน เหมือนบินไปในอากาศ เหมือนกันชัด กับผู้มีศีลสัตย์ มีศรัทธา ย่อมรุ่งเรือง สว่างกว่า หมู่ดารา หรือหมู่ผู้ไม่กล้าสละ ความตระหนี่ ฉันนั้น

คนไม่ตระหนี่
(จนหรือมี ต้องให้)

ดวงจันทร์ที่ปราศจากมลทิน โคจรไปในอากาศ
ย่อมสว่ากว่าหมู่ดาวทั้งปวงในโลก ด้วยรัศมี
ฉันใด บุคคลที่สมบูรณ์ด้วยศีล มีศรัทธา ก็ฉันนั้น
ย่อมไพโรจน์กว่าผู้ตระหนี่ทั้งปวงในโลก ด้วยจาคะ
...สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้สมบูรณ์ด้วยทัศนะ เป็นบัณฑิต ก็ฉันนั้น
ย่อมข่มผู้ตระหนี่ด้วยฐานะ ๕ ประการ
คือ อายุ วรรณะ สุขะ ยศ และเปี่ยมด้วยโภคะ
ย่อมบันเทิงใจในสวรรค์ ในปรโลก

ดวงจันทร์ปราศจากมลทิน เหมือนบินไปในอากาศ
เหมือนกันชัด กับผู้มีศีลสัตย์ มีศรัทธา
ย่อมรุ่งเรือง สว่างกว่า หมู่ดารา
 หรือหมู่ผู้ไม่กล้าสละ ความตระหนี่ ฉันนั้น
สว่างด้วยรัศมีจาคะ สละความตระหนี่
แปลกดี จะมีสมบัติไหลมา
 คนยอมือไหว้ ยิ้มให้ แล้วคารวะ
ผู้มีจาคะ ชอบสละ แบ่งปัน
 พุทธสาวก ก็เช่นกัน อันสมบูรณ์ด้วยทัศนะ
 เป็นบัณฑิต ที่ได้ดวงตาเห็นธรรม นั้น
ย่อมข่มผู้ตระหนี่ ด้วยฐานะที่มี๕ประการ
 อายุ วรรณะ.. และบันเทิง ณ ในสวรรค์ ดังนี้
ความตระหนี่ นี้เป็นมลทินของผู้ให้
ทำให้แสงสิ้นไป ไม่เจริญรุ่งเรือง 
หม่นหมอง เมินหมาง ขัดเคือง
ไม่มีเรื่องก็เป็นเรื่อง ให้เคืองขุ่น
อายุ วรรณะ สุขะ ยศ และโภคะ
เป็นสิ่งมีค่า เป็นที่ปราถนา ของทุกคน
เป็นของคู่ชีวี ของผู้ที่มีบุญล้น
คนเหนือคน คนเทวดา
วิมุติญาณทัศนะ มีธรรมจักขุ
เห็นวิมุติของตน ว่าหลุดพ้นแล้ว
แจ่มแจ้ง แจ่มชัดแจ๋วแหวว
แน่แล้ว บรรลุธรรม
ดังนั้น สุดยอดของชีวัน นั้นคือการบรรลุธรรม
สุขล้ำ ดำดิ่ง ตามเส้นทางสายกลางในตัว 
เกิดปัญญา มีหิริโอตัปปะ ไม่ประพฤติชั่ว
มีสมบัติเลี้ยงตัว ครอบครัว และหมู่คณะ

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น