แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จาคะ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ จาคะ แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ให้อภัย (ลักษณะผู้ใหญ่ผู้ปกครอง) ให้อภัย ลักษณะผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง ปกป้อง คุ้มครอง ผู้น้อย ผู้ใหญ่ใจดี ไม่คอย เพ่งโทษผู้น้อย แต่คอย ดูแล

ให้อภัย
(ลักษณะผู้ใหญ่ผู้ปกครอง)

ให้อภัย ลักษณะผู้ใหญ่ ผู้ปกครอง
ปกป้อง คุ้มครอง ผู้น้อย
ผู้ใหญ่ใจดี ไม่คอย
เพ่งโทษผู้น้อย แต่คอย ดูแล
 
ให้อภัยไม่ง่าย ใจ ต้องสูง
ไม่ยุ่ง ไม่มุ่งร้าย หมายขวัญ
ใจสงบ ไม่ขุ่นข้อง หมองใจกัน
แม้เขานั้น ทำร้ายฉัน ก็ตาม
ข่มใจตน อดทน คือคนชนะ
เป็นพ่อพระ ถ่อมตน คนยกย่อง
เหมือนเทวดา คนปราถนา เรียกร้อง
เสียงแซ่ซร้อง เทอดไว้ ในที่สูง
ควบคุมตนได้ ไม่ใช่ อ่อนแอ
ไม่เหมือนคนแก่ และ เด็กอ่อน
กล้าหาญ เสียสละ และอาทร
ละเอียดอ่อน ปัญญาไว ไม่ถือคนบ้าฯ
ไม่ลดตัว ทำชั่ว มัวทะเลาะ
หลวงพ่อดีน้อ รักษาธรรม นำชีวิต
กฎหมายประเพณี ศีลธรรมไม่อาจผิด
ทำชั่วแม้นิด มีสิทธิ์ ลงนรก
การต่อสู้ต้องอยู่ใน กฎกติกา
เมื่อชนะ โลกา สรรเสริญ
หาญกล้า พาไปสู่สุข และเจริญ
ผู้แพ้ กลับสรรเสริญ อย่างจริงใจ
มหาบุรุษ ผู้ยิ่งใหญ่ ในอดีต
ล้วนมีจิตให้อภัย ที่ใครๆ ล่วงเกิน
เรื่องส่วนตัววาง เรื่องส่วนกลางไม่เมิน
น่าสรรเสริญยิ่งนัก คนรัก ส่วนรวม
การให้อภัย สดใส ใจจาคะ
ได้เสียสละ ความโกรธออกจากใจ
เป็นสุขสดชื่น ชื่นมื่น สว่างไสว
น่าเคารพเลื่อมใส สุขใจ ที่ได้อยู่ร่วม

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2566

วันครูวิชชาธรรมกาย (จริงแค่ไหน จริงแค่ตายซิ) วันเพ็ญ ขึ้น๑๕ค่ำเดือน๑๐ วันครู วิชชาธรรมกาย หลวงปู่ฯค้นคืนมาได้ วิชชาธรรมกาย สูญหายไป กลับคืนมา

วันครูวิชชาธรรมกาย
(จริงแค่ไหน จริงแค่ตายซิ)


วันเพ็ญ ขึ้น๑๕ค่ำเดือน๑๐
วันครู วิชชาธรรมกาย
หลวงปู่ฯค้นคืนมาได้
วิชชาธรรมกาย สูญหายไป กลับคืนมา
หลังพระปรินิพพาน ๕๐๐ปี
วิชชาฯนี้สูญหายไป
มารปิดบัง แทบเป็นแทบตาย
 หลวงปู่ฯ กู้คืนมาได้ อัศจรรย์
วันครู วิชชาธรรมกาย
คุณธรรมยิ่งใหญ่ สัจจะ
ยอมตาย ไม่เลิกไม่ละ
ไม่ทิ้งสัจจะ อุดมการณ์ 
ยอมตาย อาจไม่ใช่สัจจะ
ถ้าเป็นระเบิดเวลา ร้าย
ระเบิดพลีชีพ วอดวาย
สัจจะที่ใช่ นำไปสู่ ทมะ
ทมะ ข่มใจ
ไม่ไหลไปตามอารมณ์ ที่เสีย
 ไม่สนใจโลกธรรม ลามเลีย
นิ่งเสีย มีสติอยู่ในตน
 เดินทาง สายกลาง
ทาง สร้างบารมี
เหมือนปลาว่ายทวนน้ำ ต้องขันติ
สู้ปัญหาที่มี ด้วยชีวิต
ขันตี ปรมัง ตะโปตีติกขา
ขันติจึงจะ เอาชนะ อุปสรรคได้
ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
 ได้ชัยชนะ ด้วยบารมี
ไม่สู้ คือไม่ทำร้าย
ไม่หนี ไม่ไปไหน อยู่ในคณะ
ไม่ออกจากวัด นิ่งสงบสงัดสง่า
ทำดีเรื่อยไป ภาวนาสมาธิ
ขันติ นี้คืออดกลั้น
รู้ทัน อารมณ์
มองดูมัน ด้วยการ นิยม
ชมว่าดี มาสร้างบารมีให้
 
อารมณ์ร้าย คล้ายเก้อเขิน
เดินหนี คลี่คลาย ใจเป็นสุข
จาคะ สละอารมณ์ หายทุกข์
เกิดสุขภายใน สละได้ แม้ชีวิต
เป็นสัจจะ เต็มที่
มีอานุภาพ ศักดิ์สิทธิ์
ทำอะไร ก็สำฤทธิ์
คิดอะไร ก็สมปราถนา
คนจริง จริงแค่ตาย
หลวงปู่ฯทำได้ จึงสำเร็จและชนะ
เกิดเป็นบารมี สุขสมปราถนา
ธรรมะ ย่อมชนะอธรรม

 ;;;;;;;;;;


วันจันทร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2566

เกียรติยศ (ปรากฎเมื่อมีธรรม) เกียรติยศ ปรากฎ เมื่อมีธรรม บุญนำ ลาภยศสรรเสริญสุข ไม่อยากได้ ยิ่งได้ ไกลทุกข์ สุขสมปราถนา ทุกประการ

 เกียรติยศ
(ปรากฎเมื่อมีธรรม)

เกียรติยศ ปรากฎ เมื่อมีธรรม
บุญนำ ลาภยศสรรเสริญสุข
ไม่อยากได้ ยิ่งได้ ไกลทุกข์
สุขสมปราถนา ทุกประการ
เกียรติ ที่วางใจ ใครๆยกย่อง
คนแซซร้อง เชิดชูไท้ ไว้ที่สูง
 มหาชนเดินตาม ไม่ต้องจูง
พาขึ้นที่สูง มุ่งทางธรรม
 คนพาล เงินหว่าน คนวิ่งตาม
คนล้นหลาม เหมือนไก่ ไล่จิกข้าว
เมื่อเงินหมด ก็หยุด เหมือนเก่า
คนพาล เจ้าของเล้า เหมือนขี่หลังเสือ
อธรรม เหยื่อล่อ
ลาภยศฯ เยินยอ ให้ระวัง
 จงสันโดษ อย่าลิงโลด คลั่ง
 ใช้เป็นกำลัง สร้างบารมี
จาคะ สละแล้ว โลกียสมบัติ
สุขสมมาด ด้วยอริยทรัพย์ บุญ
คนเหนือคน พ้นทุกข์ ตัณหาสูญ
มีเกียรติ มีลาภไพบูลย์ พูนสุข
มีหมู่คณะ ร่วมเป็นร่วมตาย
พ้นอันตราย มารร้าย ไม่กล้า
เหมือนฝูงสุกร เสือสิงห์ ผงะ
แม้เก่งกล้า แต่ว่า แพ้กำลังสามัคคี
เดินทางธรรม มีเกียรติ
คนพาลเดินเฉียด ดูแคลน
ร่ำรวย โก้เก๋ บริวารเนืองแน่น
มีเกียรติเหลือแสน แต่แล่นหนีกรรม

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

ความตระหนี่สุดร้าย (ภัยชีวิต) รู้หรือไม่ ความตระหนี่สุดร้าย นิสัยคน เป็นเบื้องต้น ของปัญหาสารพัน เมื่อเราตระหนี่ ใจเรานี้ จะมิสุขสันติ์ จึงไม่อาจอดกลั้น ต่อตัวร้าย อบายมุข

 ความตระหนี่สุดร้าย
(ภัยชีวิต)


รู้หรือไม่ ความตระหนี่สุดร้าย นิสัยคน
เป็นเบื้องต้น ของปัญหาสารพัน
เมื่อเราตระหนี่ ใจเรานี้ จะมิสุขสันติ์
จึงไม่อาจอดกลั้น ต่อตัวร้าย อบายมุข

เมื่อใจไม่สุข ก็หาเรื่องสนุกสนาน
เวลาถูกผลาญ ถูกฆ่า
ตัณหาอุปาทาน หัวเราะร่า
ได้ชัยชนะ ทำมนุษย์มะนา ให้หลงได้

ใจหลงลืมสติ มิอาจระวังบาป
ทุกคนน่าจะทราบ บาปนั้นก็คือทุกข์
การมีสติ เป็นบุญ ก่อเกิดสุข
ความตระหนี่เป็นบาป พาสนุก..สนาน

เมื่อตระหนี่ ใจเรานี้ จะมิสุกใส
ฉุนเฉียวดุร้าย ใครๆก็หนีหน้า
สะอาด ระเบียบ มารยาท ไม่อาจมา
การรู้จักเวลา และสมาธิ มีไม่ได้

ความตระหนี่นี้ สติไม่ดี นั่งสมาธิไม่ได้
ความสบายใจ สำคัญหลาย เบื้องต้น
สติ สะบาย สม่ำเสมอ จึงเกิดผล
สมาธินี้เลิศล้น แต่คนตระหนี่ ทำไม่ได้

ความตระหนี่ นี้ตรงข้ามกับ จาคะ
จาคะ นั่นหนา คลายความตระหนี่
เป็ดยอดคุณธรรม ของคนจริง คนดี
คนศักดิ์สิทธิ์ที่ มีอานุภาพ

ความตระหนี่ มหาภัย สุดร้ายของชีวิต
คนพาลคนเก๊ ไม่คิด คลายความตระหนี่
คนจริงคนดี มีสัจจะ จาคะจึงมี
จงตั้งสติ มีศรัทธามั่น หนีมัน ความตระหนี่

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2565

การเข้าวัดขอเน้น (จำเป็นมาก) มอบรักแท้ ให้แก่กัน อุดมการณ์ชีวิต เป็นรักชนิด มารดารักบุตร ที่เพิ่งคลอด สุดจะปีติ ใจบริสุทธิ์เต็มที่ สุดยอด รักยอมทอด..ชีวิต ปิดป้องผองภัย

 การเข้าวัดขอเน้น
(จำเป็นมาก)


มอบรักแท้ ให้แก่กัน อุดมการณ์ชีวิต
เป็นรักชนิด มารดารักบุตร ที่เพิ่งคลอด
สุดจะปีติ ใจบริสุทธิ์เต็มที่ สุดยอด
รักยอมทอด..ชีวิต ปิดป้องผองภัย

เกิดอานุภาพรักแท้ เหมือนแม่ไก่
ปกป้องภัย ให้ลูกเจี๊ยบ ไล่เหยี่ยวร้าย
ปกติกลัวนัก กลัวเหยี่ยว มหาภัย
อานุภาพยิ่งใหญ่ ไม่กลัวตาย ของรักแท้

พระพุทธองค์ ทรงรักสรรพสัตว์ ด้วยรักแท้
อานุภาพ จึงแผ่..ไพศาล
แผ่นดินแผ่นฟ้า เสทือนสะท้าน
เมื่อกาล ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน

รักแท้ มีแน่ ในผู้มีจาคะ
เมื่อสละตัณหา ความตระหนี่ ออกได้
มีใจหยุดใจนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย
ใจปีติหลาย สว่างไสว คล้ายตะวัน

มอบรักแท้ได้ ด้วยใจปีติสุข
ไม่ใช่สนุก..สนานของมาร ตัณหา
ที่คนทั้งหลาย หลงไหล สุดชีวา
จึงแสวงหา เงินตรา จ้าระหวั่น

ทำมาหากินก็ทำไป แต่ใจ อยู่ที่แสวงบุญ
สร้างบารมีให้คุ้น และทำพระนิพพานให้แจ้ง
ไม่เข้าวัดไม่ได้ แหล่งบุญใหญ่ ที่แสวง
และทำพระนิพพานให้แจ้ง ต้องมีกัลยาณมิตร

สร้างบารมีคนเดียว ไปเปลี่ยว อันตรายยิ่ง
เหมือนลูกแกะน้อย เที่ยววิ่ง เล่น
หมู่สุนักป่า ชอบนักหนา เมื่อเห็น
การเข้าวัด จึงเน้น จำเป็นมาก

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

คนศักดิ์สิทธิ์ (มีฤทธิ์ด้วยบารมี) สัจจะคุณธรรม ยอดล้ำ คนจริง จริงอย่างยิ่ง จริงจัง จริงใจ จริงแท้ จริงจัง ไม่เล่น ไม่เห็นแก่เพลิน นั่นแหละ จริงใจ นั้นแน่ แผ่เมตตา

 คนศักดิ์สิทธิ์
(มีฤทธิ์ด้วยบารมี)


สัจจะคุณธรรม ยอดล้ำ คนจริง
จริงอย่างยิ่ง จริงจัง จริงใจ จริงแท้
จริงจัง ไม่เล่น ไม่เห็นแก่เพลิน นั่นแหละ
จริงใจ นั้นแน่ แผ่เมตตา

จริงแท้ แน่นอน ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหน
คงทนถาวร ตลอดไป ไม่มีเก๊
สม่ำเสมอ ไม่ประมาท ไม่มีเก
ไม่สงสัยลังเล ทุ่มเท ชีวิต

ผู้มีสัจจะแท้ ดูให้แน่ ที่ทมะ
จริงใจต่อตน นั่นหละ ยิ่งใหญ่
จริงใจต่อตน ฝึกตน จึงใช่
ฝึกตน คือฝึกใจ จึงใช่ บัณฑิต

ฝึกตนได้แท้ แปรเป็น ขันติ
เป็นคนที่ ชนะตน คือยอมคน ทนนิ่ง
รักษามารยาท สะอาด มีระเบียบ จริงๆ
งามยิ่งมารยาท ชนะขาด ชนะใจ

ทนนิ่งอย่างสะบาย..ได้ กลายเป็นจาคะ
สามารถสละ ความตระหนี่ ออกจากใจ
ตัณหาอุปาทาน ต้านไว้ไม่ได้
ใจปีติหลาย สว่างไสว ได้บารมี

คนศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ ด้วยบารมี
เป็นผู้ที่ น่าเคารพเลื่อมใส กราบไหว้
เป็นศูนย์รวมใจมหาชน พาพ้นภัย
คนทั้งหลาย ยกไท้ ไว้เหนือเศียร

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2565

ฆราวาสศักดิ์สิทธิ์ (ด้วยฤทธิ์ของจาคะ) มีทรัพย์ ให้ประหยัดสุด ประโยชน์สูง มีจิตมุ่งทำทาน การกุศล เพื่อขจัดความตระหนี่ ออกจากตน อันเป็นอกุศล ที่ขัดขวาง ทางเจริญ

ฆราวาสศักดิ์สิทธิ์
(ด้วยฤทธิ์ของจาคะ)

มีทรัพย์ ให้ประหยัดสุด ประโยชน์สูง
มีจิตมุ่งทำทาน การกุศล
เพื่อขจัดความตระหนี่ ออกจากตน
อันเป็นอกุศล ที่ขัดขวาง ทางเจริญ

บารมีทั้งหลาย ที่เราใฝ่หานัก
สุดยาก ที่จักสร้างขึ้นมาได้
ด้วยความตระหนี่ เหมือนมีขวดปากแคบ ยากหลาย
ที่จะกรอกน้ำลงไป ใส่ในขวด

เหมือนเปรตตัวใหญ่ แต่ปากไม่ใหญ่ เท่ารูเข็ม
มีแต่เล็มๆ ดูดๆ สุดจะทรมาน
จึงมีรูปร่างใหญ่ต ซี่โครงบาน
ทุกทรมาน..เกิดเป็นเปรต เหตุที่ตระหนี่

เมื่อ มีโอกาศเกิดเป็นมนุษย์ สุดยากจน
เป็นคน..ขอทาน ยากหลาย ใครๆก็เดินหนี
ต้องอดมื้อกินมื้อ ถือกะลา ยืนรอรี
เข้าใกล้บ้านไหน เขาก็ไล่หนี ไม่มีสงสาร

พระโพธิสัตว์ จึงยืนหยัด ทานบารมี
 ตัวอย่างอันดี คือพระเวสสันดร
ทานทุกสิ่งอย่าง กระทั่งลูกเมีย น่าสะออน
ไม่ทุกร้อน เรื่องร้าย กลายเป็นดี

ผู้ที่ให้ คือผู้ที่ได้ จาคะ
เสียสละ กิเลส เหตุของเพทภัย
หลุดจาก วัฏฏจักร กรรมวิบากร้าย
เข้าสู่ทางบุญภายใน ทางสายกลาง

มีทรัพย์นั้นดี ถ้ามีใจเสียสละ
แต่ร้ายนักหนา เป็นที่เกิดกิเลสะ ตัวร้าย
เหมือนอาหารเป็นพิษ กินไม่ได้
สมบัติวิบัติ สุดร้าย ทำลายชีวิต

ฆราวาสศักดิ์สิทธิ์ ด้วยฤทธิ์ของจาคะ
ขจัดกิเลสะ ความตระหนี่
อันเป็นเพทภัย เหลือที่
ขัดขวาง การสร้างบารมี อันเป็นที่ปราถนา

;;;;;;;;;;