วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ทางสายกลางเท่านั้น (ได้พบพานพระรัตนตรัย) ทางสายกลาง ทางมรรคผล อริยมรรค ทางหลุดพ้น วิมุตติมรรค หมดทุกข์ทน ทางบริสุทธิ์ วิสุทธิมรรค หายหมองหม่น ทางเอกสายเดียว เอกายนมรรค ทำสับสน ซ่อนไว้ในกายเรา

ทางสายกลางเท่านั้น
(ได้พบพานพระรัตนตรัย) 

ทางสายกลาง ทางมรรคผล อริยมรรค
ทางหลุดพ้น วิมุตติมรรค หมดทุกข์ทน
ทางบริสุทธิ์ วิสุทธิมรรค หายหมองหม่น
ทางเอกสายเดียว เอกายนมรรค ทำสับสน ซ่อนไว้ในกายเรา

เหมือนหญ้าปากคอก วัวควายเข้าออก ไม่สนใจ
มารมันร้าย ซ่อนไว้ ในที่ใกล้มือคว้า
แม้จะบอกแทบตาย ยังหาว่าเราบ้า
มนุษย์ธรรมดา เป็นดังที่ว่า ไก่เห็นพลอย

มีทางสามสาย ปฏิบัติไป คนละอย่าง
แม้แต่ละทางก็ต่าง จะหนีห่าง จากกำหนัดตัณหา
หนึ่ง ทางสายตึง ทรมานตน เหมือนคนบ้า
สอง ทางสายหย่อนน่าระอา เหมือนไก่กา มัวแต่ทำมาหากิน
สายที่สาม สายกลาง ทางไม่ตึงไม่หย่อน
หมดทุกข์ไม่เดือดร้อน พบสุขแน่นอน สันโดษสมถะ 
แสวงบุญสร้างบารมี เข้าวัดปฏิบัติธรรม นั่นหละ
มีสติสัมปชัญญะ หยุดใจ ไว้ในตน
ทางสายกลาง ทางสละกิเลส เหตุเพทภัย
ลดตัณหาวายร้าย ทะยานอยาก
เป็นทางแห่งการให้ สละตระหนี่ ที่สุดยาก
สำคัญนัก เกิดบุญ มีคุณสมบัติ ขจัดตัณหา

ทางสายกลางภายใน มีศูนย์กลางกาย เป็นประตู
เรื่องนี้ มีผู้รู้ น้อยมาก เรื่องมันมี
สูญหายไป ตั้งแต่ปรินิพพานใด้ ห้าร้อยปี
ด้วยพระพุทธองค์นี้ มีพุทธานุมัติ จัดบวชสีกา

วิชชาธรรมกาย สูญหายไป อย่างว่า
หลวงปู่ฯท่านอุบัติมา ปราบมารโดยเฉพาะ
นำพาหมู่คณะ จะไปสุดธรรม ไม่มีท้อ
มีที่พักกลางทาง จำเพาะ ที่ดุสิตบุรี

การเดินทางสายกลางภายใน ได้ชื่อว่า
สมถะ กับวิปัสสนา น้อยคนนักหนา จะรู้จริง
สมถะ คือวิตกวิจาร หรือตรึกตรอง ประคองใจให้หยุดนิ่ง
 เหนือทุกสิ่ง หยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย

 เกิดปีติสุข ถ้าทำถูกวิธี
ผลของสมถะนี้ เพื่อขจัดสิ่งที่ เรียกว่านิวรณ์ห้า
อันเป็นตัวสร้าง อุปสรรค ปัญหานาๆ
เกิดสุขสันโดษ ชีวา..พลิกผัน เปลี่ยนไป


เมื่อใจหยุด จึงหลุด ดวงธรรมผุดขึ้นมา
ทางสายกลาง จึงเปิดอ้า รอถ้าผู้มีบุญ
กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม คนคุ้น
กระทั่งตกศูนย์ เข้าถึงธรรมกาย จึงได้ธรรมจักษุ วิปัสสนา

คุณธรรมต่างๆ เกิดหลังจากใจหยุด
หรือ ใจหยุด เป็นจุดหมายของคุณธรรม
 หยุดเป็นตัวสำเร็จ เสร็จกิจสมถะ ไล่ล่าไอ้ดำ
 ไปสุดธรรม ติดตามหลวงปู่ฯ ปราบมาร

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น