ดับไฟตัณหา
(สุขสมปราถนา จึงมาได้)
คือความอยาก ความปราถนา ตัณหา นั่นเอง
จะหนีตัณหา ทานศีลภาวนา ต้องเก่ง
ทางสายกลาง นั่นเอง จึงต้องเข้าวัดปฎิบัติธรรม
กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นไฟ
ใจวุ่นวาย คล้ายถูกไฟรน ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
นี่หละสุดร้าย ไม่ตายก็เหมือนตาย คนชั่ว
เกลือกกลั้ว จมปลัก วิบากกรรม
บัวที่โผล่พ้นน้ำ จึงสุขล้ำ ปลอดภัยฉันใด
ใจ ที่หมดตัณหา จึงจะพ้นทุกข์
สรรพสัตว์ แออัดในอบาย เพราะรักสนุก
จึงทุกข์ถนัด แออัด ในอบาย
ตัณหา เป็นอารมณ์ ความรู้สึก
ใครจะนึก..ว่ามันร้าย ปล่อยใจหลงมัน
หลงเล่นกับไฟนรก โลกันต์
จงมีสติตรองอารมณ์ สกัดกั้น ตัณหา
ตัณหา พาสร้างอารมณ์ อุปทาน
เกิดความทยานอยาก ไม่อาจอดกลั้น
ความกระสัน ร่านอยากได้ ใจเป็นทุกข์
แต่ไม่จบ เป็นไฟกลบเชื้อใหม่ๆ คล้ายจะดับ
กลับลุกโหม เกิดอารมณ์ ไม่อาจระงับ
ยากนักจะดับ ยิ่งกว่าเดิม
ดีกว่า ยอมแพ้กิเลส เพื่อเอาชนะคนอื่น
นี้หละ ที่ว่าชนะตน เป็นคนไม่ดาดดื่น
เป็นคนที่ตื่น มีสติ สัมปชัญญะ
สุขสมปราถนา จึงจะมามีได้
ทานศีลภาวนา จึงต้องใช้
แสวงบุญสร้างบารมีได้ ที่วัดเท่านั้น
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น