วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2565

ความไม่ประมาท (ไม่ขาดสติ) แม่น้ำทั้งหลาย ย่อมไหลลงสู่มหาสมุทร ฉันใด กุศลกรรมทั้งหลาย ย่อมมีความไม่ประมาท เป็นมูล ความไม่ประมาท คือสติ ไม่ขาดสูญ ความไม่ประมาท เกื้อกูล คุณความดี

ความไม่ประมาท
(ไม่ขาดสติ) 

แม่น้ำทั้งหลาย ย่อมไหลลงสู่มหาสมุทร ฉันใด
กุศลกรรมทั้งหลาย ย่อมมีความไม่ประมาท เป็นมูล
ความไม่ประมาท คือสติ ไม่ขาดสูญ
ความไม่ประมาท เกื้อกูล คุณความดี

ผู้ไม่ประมาท ย่อมไม่ตาย ไปจากความดี
แสวงบุญสร้างบารมี เต็มที่ สม่ำเสมอ
เข้าสู่สุคติภูมิ ส่วนทุคติภูมิ หรือคุกประหาร ไม่เจอ
มีสุขสมปราถนาเสมอ เทวดาเดินดิน

ท่านทั้งหลาย จงไคร่ในธรรมไม่ประมาท
พระพุทธองค์ ทรงประกาศ เกริกก้อง
เป็นบัณฑิตผู้ไม่ประมาท เป็นหนึ่งไม่มีสอง
มหาชนแซ่ซร้อง สรรเสริญ

บัณฑิตผู้ไม่ประมาท ย่อมสามารถ ได้ประโยชน์ทั้งสอง
ชนทั้งผอง เกือบทั้งสิ้น ล้วนประมาท
เอาประโยชน์ในชาตินี้เท่านั้น เป็นพาลชาติ
ชาติต่อๆไป หลังตายย่อมขาด ไม่สมปราถนา

ผู้ไม่ประมาทพินิจอยู่ ย่อมเป็นผู้ มีสุขอันไพบูรณ์
เห็นคุณ ของความไม่ประมาท
เกิดปีติ จึงนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม ไม่ขาด
เป็นนรชาติ เดินดิน แต่บินสูง

ปราชญ์ย่อมรักษา ความไม่ประมาทไว้
คล้าย ทรัพย์ประเสริฐสุด
ตรึกอยู่ภายใน ใส่ใจในทุกอิริยาบถ ประดุจ
มารดา ดูแลบุตร..น้อย กลอยใจ

ผู้ไม่ประมาทปัญญาดี ย่อมมิหลับ
ในขณะที่คนโง่ผู้ประมาท ไม่ขยับ หลับเป็นตาย
ย่อมละทิ้งผู้ประมาท ไม่อาจตามทันได้
เหมือนม้าฝีเท้าดี วิ่งหนีไปไกล ไม่มีตก

ท่านทั้งหลาย จงอย่าได้ประมาทเถิด
จงเทิด..จิตของตนให้สูง มุ่งทางธรรม
จงถอนตนขึ้นจากหล่ม ตมดำ
จงกลับลำ ถอนตนได้ คล้ายช้างตกหล่ม

ผู้ไม่ประมาท เห็นภัย ในความประมาท
จึงขยาด ไม่อาจ ไม่ทำความดี
เผากิเลส เหตุแห่ง อัปปรี
รักษาตนให้บริสุทธิ์เต็มที่ หนีวัฏฏะ

ผู้เห็นภัยในความประมาท ย่อมปิดโอกาศ ทางเสื่อม
ย่อมอยู่ในเงื้อม.. เงา พระนิพพาน
ท่องเที่ยวไป อย่างอาจหาญ
ทิ้งความโศกศัลย์ ทางโลกโลกีย์

ยศย่อมเจริญ ในผู้ที่ไม่ประมาท ไม่ขาดสติ
สุขสมปราถนา ย่อมเกิดมี เป็นธรรมดา
ไม่ว่าชาตินี้ หรือชาติหน้า
การนั่งสมาธิ เจริญภาวนา จึงเป็นกิจกรณียะของชีวิต

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น