โลกโลกีย์
(เป็นเวทีละคร)
ความอุบัติแห่งผล ตนย่อมกระทำ
กฎแห่งกรรม เที่ยงแท้ ไม่มีเว้น
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว นี้ช่างเป็น
แต่ปัจจุบันยังไม่เห็น คนเวรจึงประมาท
ชีวิตสรรพสัตว์ เวียนว่าย ในวัฏสงสาร
หรือคุกประหาร ยาวนาน นับการไม่ได้
ตายเกิดๆ นับไม่ไหว
เสียน้ำตามากมาย กว่าน้ำมหาสมุทร
วิบากกรรม ตามติดส่งผลในปัจจุบัน
ที่สำคัญ ไม่หมดในชาติเดียว
ทำกรรมนิดๆ แต่วิบากสุดเขี้ยว
ไม่ใช่เพียงชาติเดียว อจินไตย
ในชีวิตปัจจุบัน วิบากรุมส่งผล
อันไหนก่อนหลัง สุดที่คน..จะรู้
เป็นเหมือนส่งบทละคร ยอกย้อนน่าดู
คิดพูดทำ ตามครู กรรมวิบาก
โลกโลกีย์ เป็นเวทีละคร
องค์พระพุทธฯ ท่านสอน ให้อดทน
รักษาจิต สันโดษสมถะ คือสาธุชน
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง เป็นคน บำเพ็ญทาน
หลังตาย จึงจะรู้สึกได้ ว่าเล่นละคร
ใครรู้สึกได้ก่อน มีบุญหลาย
คนเข้าวัด ไม่ขาด นั่นแหละใช่
ดูคล้ายๆ คนประหลาด ในสังคม
เรื่องชีวิต สุดที่คนจะคิดได้เอง
ต้องเก่งแสนเก่ง คือพระพุทธองค์
คนดีมีศรัทธา สูงส่ง
เดินตามพระองค์ ทางสายกลาง
;;;;;;;;;;
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น