วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

บุญทำที่ไหนก็ได้ (แต่เข้าวัดต้องไม่ขาด) บุญทำที่ไหนก็ได้ ไม่จำเป็น ต้องเป็นวัด แต่เข้าวัด จะต้องไม่ขาด ด้วยวัด คือแหล่งปลูกศรัทธา

 บุญทำที่ไหนก็ได้
(แต่เข้าวัดต้องไม่ขาด)

บุญทำที่ไหนก็ได้
ไม่จำเป็น ต้องเป็นวัด
แต่เข้าวัด จะต้องไม่ขาด
ด้วยวัด คือแหล่งปลูกศรัทธา
เหมือนต้นไม้เล็ก พึ่งพาต้นไม้ใหญ่
ต้านพายุร้าย ในวัฏฏสงสาร
อยู่เดี่ยวตายแน่ ไม่นาน
ยกเว้นพึ่งท่าน ผู้มีบารมี
แสวงบุญสร้างบารมี ที่วัด
ทุกภพชาติ ปลอดภัย
มีสมบัติสาม อจินไตย
ติดตามไป ไม่มีเว้น
สร้างบารมี ต้องมีหมู่คณะ
มิฉนั้น หมู่มารมารา ไม่ปล่อยไว้
เหมือนลูกแกะหนีฝูง มีภัย
จากสุนักป่า น้ำลายไหล เขี้ยวโง้ง
วัด คือแหล่งพระนิพพาน
ผู้ไม่เข้าวัดนั้น หลงทิศ
จะไปพระนิพพาน หมดสิทธิ์
แม้มากฤทธิ์ เหาะได้ก็ตาม
เป็นเช่น ฤาษีชีไพร
ฝึกตนแทบตาย แต่แพ้สตรี
ฝึกตน ต้องมีครู ผู้ชี้
ผู้อวดรู้อวดดี เสียเวลาเปล่า
ชีวิตมีศรัทธา เป็นหัวหน้า
มีจิตเสน่หา อยากมาวัด
ได้เกิดในแดน พุทธศาสน์
มีสุขสมปราถ..นา ทุกชาติภพ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

เกิดมาเป็นคนต้องหามงคลใส่ตัว (คำสอนยายฯ) เกิดเป็นคน ต้องหามงคลใส่ตัว ไม่..คิดชั่วพูดชั่วทำชั่ว ชีวิตจึงเจริญ คิดแต่เรื่องที่ดี ไม่นานเกิน เมื่อใจเจริญ ก็คือเดินทางสมบัติ

 เกิดมาเป็นคนต้องหามงคลใส่ตัว
(คำสอนยายฯ)

 เกิดเป็นคน ต้องหามงคลใส่ตัว
ไม่..คิดชั่วพูดชั่วทำชั่ว ชีวิตจึงเจริญ
คิดแต่เรื่องที่ดี ไม่นานเกิน
เมื่อใจเจริญ ก็คือเดินทางสมบัติ

ทางสมบัติ ทางบุญทางธรรม
สุขล้ำ มีมาเอง
มีกินมีใช้ บานเบ่ง
กลายเป็นคน ทั้งเก่ง และดี

คิดดีพูดดีทำดี คนมีศรัทธา
ปุถุชนคนธรรมดา ทำไม่ได้
การหามงคลใส่ตัว ไม่ง่าย
ต้องอยู่ใกล้ กัลยาณมิตร
เข้าวัดปฏิบัติธรรม กรณียกิจ
ทุ่มชีวิต ปฏิบัติธรรม
ฝึกใจหยุดใจนิ่ง เป็นประจำ
ไม่น่าขำ ทำแม้ทุกขณะ
เมื่อทำได้ ใจจะไม่ฟุ้งซ่าน
จะคิดจะอ่าน ผ่านปัญญา
บุคคลิกภาพ สงบสง่า
เป็นที่น่าศรัทธา เลื่อมใส
มีผิวพรรณวรรณะ งาม
สุขล้ำ ด้วยใจเมตตา
เป็นดั่งพระอาทิตย์ ที่เจิดจ้า
ธรรมชาติก็งามตา สวยงาม
อีกทั้งหมู่ชน คนใกล้ชิด
สนมสนิท รักใคร่กัน
นี้คือ อุดมภ์การของชีวัน
เลิกสนุกสนาน หันมาหามงคลใส่ตัว

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

บุญประโยชน์ตน (เกิดเป็นคนมาแสวงบุญ) ไม่ควร พล่าประโยชน์ตน ประโยชน์ คนอื่น แม้มาก ประโยชน์ของตน เมื่อรู้จัก พึงขวนขวายให้มาก เป็นกรณียกิจ

บุญประโยชน์ตน
(เกิดเป็นคนมาแสวงบุญ)

ไม่ควร พล่าประโยชน์ตน
ประโยชน์ คนอื่น แม้มาก
ประโยชน์ของตน เมื่อรู้จัก
พึงขวนขวายให้มาก เป็นกรณียกิจ

บุญเท่านั้น ประโยชน์ตน
เกิดเป็นคน มาแสวงบุญ
จะทำมาหากิน ใจก็อุ่น
อยู่ในบุญ ตลอดเวลา

ถ้าสอนผู้อื่น ฉันใด
ตนก็ควรทำได้ อย่างนั้น
 เป็นผู้ฝึกตนดีแล้ว สำคัญ
 ฝึกผู้อื่นดีนั้น มันง่าย
บัณฑิต พึงตั้งตนไว้
ใน คุณอันสมควรก่อน
จะได้ ไม่มัวหมอง
แล้วจึง สอนผู้อื่นภายหลัง
ตนแล เป็นที่พึ่งของตน
 คนอื่น ใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคล มีตนฝึกฝนดีแล้วไซร้
ย่อมได้ ที่พึ่งที่ได้ยาก
ผู้ใด มีความไร้ศีลธรรมครอบคลุม
 เหมือนกลุ่มไม้เถาว์ คลุมต้นไม้
ผู้นั้นชื่อว่า ทำตนเหมือนถูกผู้ร้าย
คุมตัวไว้ ไม่เป็นอิสระ
สิ่งที่รัก เสมอด้วยตน ไม่มี
ข้าวเปลือกนี้ คือทรัพย์อย่างยิ่ง
แสงสุดสว่าง คือปัญญา จริงๆ
สระอย่างยิ่ง คือฝน

;;;;;;;;;;