แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชนะโลก แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ชนะโลก แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ชนะตน (คนชนะโลก) ชนะตน นั่นแหละ เป็นดี ชนะตนนี้ คือคนชนะโลก ชนะตัณหาอุปาทาน ชนะทุกข์โศก หลุดจากโลกๆ โลกีย์

 ชนะตน
(คนชนะโลก)

ชนะตน นั่นแหละ เป็นดี
ชนะตนนี้ คนชนะโลก
ชนะตัณหาอุปาทาน ชนะทุกข์โศก
หลุดจากโลกๆ โลกีย์
เข้าสู่เส้นทางธรรม ทางสมบัติ
พ้นกิเลสกรรมวิบาก กระแสอบาย
ความทุกข์ยากนาๆ มลาย
สวรรค์ครรลัย เป็นแดนเกิด
โลกโรงละคร หลอนสรรพสัตว์
ผู้อ่อนหัด หลงโลกโลกีย์
เมื่อตอนจะตาย จึงได้สติ
ว่าโลกนี้ เป็นเช่น เล่นละคร
ชนะตน คนมีสติ
ระลึก รู้สึกตัวดี อยู่ที่ในตน
ออกจากโลก เข้าสู่ทางธรรม ทางพ้น
เป็นตัวของตน เป็นอัตตา
การระลึกรู้นอกตน มารหลอก
ยากจะดูออก บอกให้ตายก็ไม่เชื่อ
เหมือนอีหอยหน้าวัด ที่น่าเบื่อ
เป็นเบื้อ เป็นบ้า แลบลิ้นปลิ้นตาใส่พระ
หมู่มาร ไล่กวาดต้อนสรรพสัตว์
เหมือนกันชัด เป็นเช่น กวางเนื้อ
เป็นอาหาร ของราชสีห์ หรือเสือ
ทุกข์มากเหลือเชื่อ อจินไตย
ชนะคนอื่น ไม่ชื่น มีเวรภัย
สุดท้าย เก่งแค่ไหน แพ้ภัยตน
รับกรรมในอบาย หนีไม่พ้น
ชนะตน คนชนะโลก

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2565

ชนะตน (คนชนะโลก) ชนะตน นั่นแหละเป็นดี ที่สุด เปรียบประดุจ ถอนรากถอนโคน ของปัญหา ด้วยปัญหาทั้งหลาย ล้วนมีที่มา จาก กิเลสตัณหา อุปาทานในตน

 ชนะตน
(คนชนะโลก)


ชนะตน นั่นแหละเป็นดี ที่สุด
ประดุจ ถอนรากโคน ของปัญหา
ด้วยปัญหาทั้งหลาย ล้วนมีที่มา
จาก กิเลสตัณหา อุปาทานในตน

คนชนะตน คือพ้นโลกีย์วิสัย
ตัดอาลัย ในลาภยศสรรเสริญสุข
มีก็สักแต่มี ได้ก็สักแต่ได้ หมดสนุก
ตัดรากแห่งทุกข์ โศกโรคภัย

ทุกคน กำลังป่วย ด้วยโรคตัณหา
แต่ไม่รู้ว่า ตนนั้นป่วย ไม่สบาย
หัวเราะลั่น สนุกสนาน กันใหญ่
อุปสรรคปัญหา ทั้งหลาย เห็นเป็นธรรมดา

พระโพธิสัตว์ ประหลาด ไม่ปล่อย
มีผลต้องมีเหตุ ไม่ลอยมา เฉยๆ
ท่านจึงออกค้นหา ไม่มัวนอนสะเบย
จึงได้รับคำเฉลย เมื่อบรรลุธรรม

กิเลสภายในตน ต้นเหตุปัญหา
การติดในโลกียะ นั่นหละ ตัวมัน
ด้วยขาดสติ มีใจออกห่างตน เป็นสำคัญ
จึงต้องขยัน ฝึกสติ เป็นกรณียกิจ

เดินตามทางภายใน ไปพบพระ
นั่นหละ พระรัตนตรัย ในตน
จะได้รู้แจ่มแจ้ง ถึงเหตุผล
เป็นเรื่องสับสน เกินคนคิดได้

การเอาชนะตน คนเอาชนะตัณหา
ต้องอดทน ต่อโลกียะ ชนะโลก
เกิดปัญญา และอานุภาพ มารตระหนก
ทำโลกทั้งโลก ให้อยู่เย็น

;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2565

ชนะตน (คนชนะโลก) ชนะตน คือคนชนะโลกโลกีย์ มีสติ รักษาตน บนทางสายกลาง เมื่อมีอุปสรรคปัญหา ขันติตั้ง รักษาสุดกำลัง เคารพ วินัย และอดทน

 ชนะตน
(คนชนะโลก)

ชนะตน คือคนชนะโลกโลกีย์
มีสติ รักษาตน บนทางสายกลาง
เมื่อมีอุปสรรคปัญหา ขันติตั้ง
รักษาสุดกำลัง เคารพ วินัย และอดทน

ชนะตน จึงหนีพ้น กระแสกิเลสกรรมวิบาก
อันเป็นวัฏฏจักร เหมือนปลักโคลนดูด
สรรพสัตว์ ไม่รู้เหนือใต้ ตายเกิดๆ ไม่สิ้นสุด
องค์พระพุทธ..รู้แจ้ง ต้นแหล่งคือมาร

ชนะตน คือคน มีความเคารพ หรือตระหนัก
สุดยาก คอยตระหนัก ในความดีของคนอื่น
จึงต้องเป็นผู้ฟังที่ดี เป็นพื้น
แล้วคอยหยิบยื่น ชมชื่นความดี

ชนะตน คือคน มีวินัย
รักสุดใจ ในความสะอาดมีระเบียบ และมารยาท
ใจสดใส บุคคลิกสูงส่ง องอาจ
หมู่คนพาล ขยาด ไม่อาจรอหน้า

ชนะตน คือคน มีความอดทนอดกลั้น ขันติ
ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
ไม่สู้ คือไม่ว่าร้ายทำร้าย ไม่หนี ได้บารมีใหญ่
ทำดีเรื่อยไป หมู่มารร้าย แพ้ภัยตนเอง

ชนะตนแท้ ได้แก่ ใจหยุดนิ่ง
ใจดิ่ง..เข้ากลาง ตามทางบริสุทธิ์
ผ่านศูนย์กลางกาย จึงจะใช่ ทางพุทธ
ที่สุด ก็จะเข้าถึงได้ พระรัตนตรัยในตัว

ใจนิ่งใจหยุด หลุดจากตัณหา
สติกลับคืนมา คล้ายกับว่าฝันไป
ฝันเหมือนจริงเหมือนจัง ช่างเป็นไปได้
นี่หละใช่ ชีวิตพลิกผัน คล้ายกันกับเกิดใหม่

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ใจดีมีเมตตา (นั่นหละ ชนะตน) ชนะตน ดีกว่าชนะคนอื่น คนดาดดื่น ชอบเอาชนะคนอื่น สาสมใจ พระสอนเอาชนะตน ยอมคน รักษาไมตรีไว้ ไมตรีตัดไม่ได้ เท่ากับทำร้ายตนเอง

ใจดีมีเมตตา
(นั่นหละ ชนะตน)


ชนะตน ดีกว่าชนะคนอื่น
คนดาดดื่น ชอบเอาชนะคนอื่น สาสมใจ
พระสอนเอาชนะตน ยอมคน รักษาไมตรีไว้
ไมตรีตัดไม่ได้ เท่ากับทำร้ายตนเอง

ชนะตน คือคนใจดี มีเมตตา
น่าเคารพบูชา เหมือนมารดาบิดา อุปการะลูก
แม้ลูกแสนซน แต่ก็แสนรัก พันผูก
เป็นดังทาสของลูก แสนผูกพัน

ดวงจิตขนาดนี้ ถ้าสามารถมีได้ กับทุกคน
จะเป็นที่รักมหาชน คนทั้งหลาย
อยู่บนเส้นทางสายสมบัติ ไหลมาดังใจ
เป็นสมบ้ติอจินไตย จักรพรรดิ์

คุณธรรมทั้งหลาย ล้วนใจเมตตาอยู่เบื้องหลัง
ถ้าไม่แล้วอย่าหวัง จะเป็นไปได้
เช่น ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา นั่นปะไร
ขาดเมตตาแล้วไซร้ บริสุทธิ์หาย กลายเป็นตัณหา
เอาชนะตน คือคนแสวงบุญ สร้างบารมี
มีความอดทน ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
นั่งสมาธิ เป็นกิจกรณีย์ เป็นหลักชัย
ชนะตนยิ่งใหญ่ ได้เข้าสู่แดนอมตะ พระนิพพาน

ชนะตน เท่ากับ เป็นคนชนะโลก 
หมดทุกข์โศก ออกจากกระแสโลก วิบากกรรม
เอาใจมาไว้ในตัว ในกระแสธรรม
พ้นกฎแห่งกรรม สุขล้ำ ไม่ต้องเวียนว่าย

ชนะตน คือคนชนะกิเลส
อันคือต้นเหตุ อุปสรรค และปัญหา
เข้าสู่ทางสายสมบัติ ทางอริยะ
มีแต่สุขสมปราถนา ทุกประการ


ชนะตนได้ คือผู้ใหญ่ มีใจเมตตา
มีจิตปราถนาดี มิมีเว้นผู้ใด
มีความรัก ปราถนาดี อย่างจริงใจ
มีสัจจะ เสมอต้นเสมอปลาย จึงเป็นที่รักใคร่มหาชน

ตนนั้นหรือ ก็คือใจ
ท่องเที่ยวไป ไม่ใคร่อยู่กับตัว
ชอบอยู่ในกระแสโลก ชุ่มโชกเมามัว
รับกรรมวิบาก จากกิเลสชั่ว หลงตัวลืมตน

  ใจขาดกาย กลายเป็นวิญญาณ
กายขาดใจนั้น กลายเป็นศพ 
กายเปรียบคล้ายบ้าน ใจนั้นเหมือนเด็ก ยากสงบ
 ดวงธรรม
 ดังมารดา จึงครบ เป็นชีวิต

ชนะตนได้ จึงเดินทางใน ทางสายกลาง
ทางสว่าง ทางบริสุทธิ์ หลุดพ้น
พ้นกรรมวิบาก พ้นกฏแห่งกรรม พ้นทุกข์ทน
พ้นกฎไตรลักษณ์ เป็นอมตะ พระนิพพาน

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ชนะตน (คือคนชนะโลก) ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่อะไร คือชนะตน จะเป็นคน ชนะโลก ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

ชนะตน
(คือคนชนะโลก) 

ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่อะไร คือชนะตน
 จะเป็นคน ชนะโลก ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
สรรพสัตว์ อีกทั้งมนุษย์ และเทวา
จะเทิดทูนบูชา ดุจดังว่า พระพุทธองค์

โลกทั้งหลาย น่าเบื่อหน่าย ทุกข์ทั้งนั้น
สาเหตุสำคัญ คือกรรมวิบาก
ใครเอาใจไว้นอกตัว เหมือนเอาใจไปตาก
กรรมวิบาก เหมือนฝนตกจากฟ้า

จะหลบฝน หลบให้พ้น กรรมวิบาก 
ต้องรู้จัก เอาใจ ไว้ในตัว
เหมือนอยู่ในบ้าน หลบฝน หลังคาไม่รั่ว
ใช้ชีวิตสันโดษสมถะ เข้าวัดวา ไม่มัว..ทำมาหากิน

สันโดษสมถะ ใช้ชีวา ประหยัดสุดประโยชน์สูง
หมายมุ่ง เพื่อขจัด นิวรณ์ห้า
อันเป็นเครื่องกั้น ความปีติสุข และวิชชา
ใจหยุด แสงสว่างสุดจ้า จึงเห็นมรรคา สายกลาง

ทางสายกลาง ทางพ้นโลก หรือชนะโลก
ไม่ต้องตก..เป็นทาสพญามาร
ทางสายสมบัติ สุขสมปราถนา ทุกประการ
พักกลางทางบนสวรรค์ รอวันลงมา สร้างบารมี

คนพาล ขาดปัญญา จมปลักตัณหา ทยานอยาก
รับกรรมวิบาก ทำไว้นัก จากอดีต
ไม่รู้จักคำว่าสุข รู้จักแต่สนุก สุกๆดิบๆ
ไม่รู้จักเร่งรีบ แสวงบุญ สร้างบารมี

พูดให้ปากหัก ก็ไม่ อาจจาก กามคุณ
เหมือนปลาคุ้น อยู่ในน้ำ หนอนฉ่ำอยู่ในส้วม
คนธรรมดา ไม่รู้สึกไม่รู้สา ไม่สำรวม
อวิชชาท่วม..ทับ ดับปัญญา

ปลดนิวรณ์ห้า อวิชชา จึงดับ
ทุจริตสาม ส่งสำรับให้กับ นิวรณ์ห้า
การไม่สำรวมอินทรีย์ เสริมสร้างทุจริตสาม เป็นธรรมดา
การไม่มีสติสัมปชัญญะ ทำให้ละอินทรีย์สำรวม

การทำใจไว้ ให้แยบคาย
สำคัญหลาย ต่อการมีสติสัมปชัญญะ
การทำใจไว้ ให้แยบคาย ทำได้ด้วยมีศรัทธา
การมีศรัทธา ด้วยว่า ได้ฟังพระสัทธรรม

คบสัตบุรุษ ได้ฟังธรรมา ศรัทธาเกิด
จึงประเสริฐ  มีค่าล้ำ สำคัญนัก
เป็นทุกอย่างของพรหมจรรย์ จงประจัก
มีศรัทธานัก จึงได้เข้าวัด ปฎิบัติธรรม

;;;;;;;;;; 

วันอังคารที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2564

ผู้ชนะตน (คือคนชนะโลก) คนยอมคน คือผู้ชนะตน เดินถนนแห่งชัยชนะ มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่จ้องจับผิด มีจิตเมตตา ต่อคนทุกคน มีความอดทน อดกลั้น รักษามั่น มารยาทดีงาม

ผู้ชนะตน
(คือคนชนะโลก)
 

คนยอมคน คือผู้ชนะตน เดินถนนแห่งชัยชนะ
มีสัมมาคารวะ อ่อนน้อม ถ่อมตน
ไม่จ้องจับผิด มีจิตเมตตา ต่อคนทุกคน
มีความอดทน อดกลั้น รักษามั่น มารยาทดีงาม

ชนะตน คือชนะใจตน เอ่อล้นด้วยปีติ
มีบุญหล่อเลี้ยงชีวี เป็นสาย ไม่ขาดตอน
มีสติรักษาตน คิดดี พูดดี ทำดี ตามพระสอน
กรรมดีสะท้อน ให้สุขสำเร็จ และชัยชนะ

ชนะตน คือคนชนะกิเลส
นิสัยทุเรศ เกิดจากมีกิเลส ในใจ
 คอยชักนำ ให้ไปหา ทางอันตราย
มีความประมาทหลาย ไม่แสวงบุญสร้างบารมี

ใจคนที่มีกิเลส วิ่งวุ่นวาย อยู่ภายนอก
เหมือนคนนอกคอก พ่อแม่บอกเท่าใด ไม่ยอมเชื่อ
ไม่เอาโล้ ไม่เอาพาย ใครๆก็เบื่อ
ไปหลงเชื่อ เพื่อนพาล สันดาลดิบ

คนสติดี มีปัญญา รักษาใจ ไว้ในตน
 อยู่คนเดียว ก็สุขล้น เป็นคนรักสันโดษ
มีปัญญา มีเมตตากรุณา ต่อคนทั้งหมด
ชีวิตรุ่งโรจน์ ขวัญใจชาวประชา
 

คนชนะตน มีปัญญา รู้ว่าเกิดมาทำไม
มีความจริงใจ..ต่อตน จึงกระตือลือล้น ทำความดี
รู้ว่าเราเกิดมา แสวงบุญ สร้างบารมี
ตามติดมหาปูชนี..ยาจารย์ สู่สุดธรรม

คนชนะตน คือคนชนะโลก
 ไม่ติดโลก ชนะกิเลส เหตุแห่งทุกข์
อยู่เหนือกฎแห่งกรรม พ้นเวียนว่าย คล้ายออกจากคุก
พ้นความสนุก..คลุกกิเลส เข้าสู่เขตกระแสบุญ

ชนะกิเลสได้ ใจใส สว่างจ้า
หมดกิเลส เป็นพระอริยะ อรหันตเจ้า
เป็นเนื้อนาบุญ สุดวิเศษ ไม่มีใดเท่า
นำพาเหล่า..สรรพสัตว์ พ้นหัตถ์มาร

;;;;;;;;;;