วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

หิริโอตัปปะ (คุณธรรมค้ำโลก) สิ่งใดไม่ผิด มีสิทธิ์ถือเอาได้ ได้บุญใหญ่ ด้วยขันติ รู้จักผิดถูก คนปัญญามี ส่องทางชีวี พระนิพพาน

 หิริโอตัปปะ
(คุณธรรมค้ำโลก)


สิ่งใดไม่ผิด มีสิทธิ์ถือเอาได้
ได้บุญใหญ่ ด้วยขันติ
รู้จักผิดถูก คนปัญญามี
ส่องทางชีวี พระนิพพาน
เป้าหมายชีวี หนีกฎแห่งกรรม
หนีเวียนว่ายซ้ำๆ วัฏฏสงสาร
หนีสุดชีวี คุกประหาร
หนีความยากไร้กันดาร ชีวิต
มีขันติธรรม นำชีวี
ไม่สู้ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป
ไม่สู้ไม่หนี ไม่ทำร้าย
ทำดีเรื่อยไป ได้บารมี
ปัญญามี ขันติจึงมา
การเจริญภาวนา กรณียกิจ
ผู้ฝึกตน คือคนบัณฑิต
มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัยในตัว
ขาดปัญญา ไม่รู้ว่าถูกผิด
ใจมืดมิด ด้วยกิเลสตัณหา
ใช้ชีวิต เหมือนไก่กา
ไม่รู้สึกรู้สา มุ่งหน้า หากิน
มนุษย์ เท่านั้น ฝึกตนได้
มีบุญใหญ่ ได้เกิดเป็นมนุษย์
เกิดมาแล้วฝึกตน เลิศสุด
เป็นมนุษย์ ประดุจเทวดา
หิริโอตัปปะ คุณธรรมค้ำโลก
ดับทุกข์โศก ภัยธรรมชาติ
ในยุคทมิฬ คนพาลบังอาจ
บาปจึงรุกฆาต ทำลายล้าง

;;;;;;;;;;

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เกียร์ ชีวิต (ทานศีลภาวนา) ชีวิตมีเกียร์ เช่นรถ เดินหน้าทั้งหมด สามเกียร์ ต้องใช้ เกียร์สาม สำหรับเดินทางไกล คนทั้งหลาย ใช้แต่เกียร์ถอยหลัง

เกียร์ ชีวิต
(ทานศีลภาวนา)


ชีวิตมีเกียร์ เช่นรถ
เดินหน้าทั้งหมด สามเกียร์ ต้องใช้
เกียร์สาม สำหรับเดินทางไกล
คนทั้งหลาย ใช้แต่เกียร์ถอยหลัง

ทานศีลภาวนา เกียร์มนุษย์
ทาน เป็นจุดเริ่มต้น
ขจัดตระหนี่ในตน
มิฉนั้น ยากล้น รักษาศีล
ทาน เท่ากับการเริ่มเดินหน้า
 ก้าวเข้ามา สู่เส้นทางธรรม
หนีทางโลก ทางตัณหานำ
ที่ดึงลงต่ำ เหมือนเข้าเกียร์ถอย
ทาน ทำให้ใจนุ่ม ใจกว้าง
จะง่ายจัง รักษาศีล
ความใจร้อนใจเร็ว เป็นอาจิน
รักษาศีล ใจเย็น
ศีล ผ่อนคลาย ร่างกาย
ให้อภัยได้ ไม่ขี้โกรธ
ใจใสใจเย็น ขจัดโหด
กายวาจา หมดจด สะอาด
ความสะบาย ปัจจัยภาวนา
งามสง่า เป็นเกียร์สาม
มีบุคคลิก สูงส่ง สง่างาม
มีสัจจะล้ำ ทำพระนิพพานให้แจ้ง
ทานศีลภาวนา เส้นทางธรรม
ทางไม่ต่ำ ทางสูง มุ่งนิพพาน
ทางสว่าง ทางสมบัติสาม
พ้นกฎแห่งกรรม กฎไตรลักษณ์

;;;;;;;;;;

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566

เดินทางคือชีวิต (มุ่งสู่ทิศพระรัตนตรัย) ชีวิต เป็น เช่นรถยนต์ วิ่งบนถนน มีเท่านั้น กิจวัตร เดินทาง เป็นชีวัน ชีวิตก็เช่นกัน ทุกคืนวัน เดินทาง

 เดินทางคือชีวิต
(มุ่งสู่ทิศพระรัตนตรัย)

ชีวิต เป็น เช่นรถยนต์
วิ่งบนถนน มีเท่านั้น
กิจวัตร เดินทาง เป็นชีวัน
ชีวิตก็เช่นกัน ทุกคืนวัน เดินทาง
รถยนต์ ต้องการน้ำมัน
ชีวิตนั้น ต้องการบุญ
มนุษย์ สุดโชคดี นะคุณ
 แสวงบุญ สร้างบารมี ได้
โลกมนุษย์ ประดุจปั๊มน้ำมัน
แห่งเดียวเท่านั้น แสวงบุญได้
แล้วก็ออกเดินทางไกล
บุญหมดเมื่อใด ทุกข์ใหญ่เมื่อนั้น
เทวดาตกสวรรค์ ด้วยบุญหมด
ถูกย่างสด ในนรกทันที
กฎแห่งกรรม ทำหน้าที่
ไม่อาจหลบลี้ หนีกฎแห่งกรรม
คนทั้งหลาย ไป ทางต่ำ
ทางมืดดำ กิเลสตัณหา
ไหลตามกันไปเหมือนน้ำ เฮฮา
จะตาย สติจีงมา น้ำตานอง
มีบุญ ปัญญามี เป็นเข็มทิศ
มุ่งสู่ทิศ พระรัตนตรัย
มีบาป ปัญญาดับ ไปตามใจ
เหมือนน้ำไหล ใฝ่ทางต่ำ
ปัญญา ศรัทธา ขันติ
คุณธรรมของคนดี มีสุขสม
ฝึกตนฝึกสติ บัณฑิตนิยม
พ้นระทม พ้นกฎแห่งกรรม

;;;;;;;;;;

วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สันติสุข (ไม่ใช่สนุกสนาน) รักสันติ จึงละอามิสในโลกได้ อามิส เหยื่อล่อใจ โลกียะ เงินๆๆ หาเพลิน เลี้ยงชีวา เหมือนไก่กา เพลินหากิน

สันติสุข
(ไม่ใช่สนุกสนาน)

รักสันติ จึงละอามิสในโลกได้
อามิส เหยื่อล่อใจ โลกียะ
เงินๆๆ หาเพลิน เลี้ยงชีวา
เหมือนไก่กา เพลินหากิน

สันติสุข ต่างจากสนุกสนาน
ใจบาน หาญกล้า สละสนุก
เห็นภัยตัณหา พาทุกข์
เห็นโลกสนุก เป็นเช่น เล่นละคร
สุขสันติ มีเมตตา
มีศรัทธา บำเพ็ญทาน
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง มุ่งมั่น
ทำพระนิพพาน ให้แจ้ง
แปลกนัก อจินไตย
สำคัญหลาย ใจจรดศูนย์ฯ
กลางกาย มีดวงบุญ
ดวงธรรม การุณย์ กรุณา
สุขสันติ สันโดษสมถะ
พ้นโลกียะ มาทางธรรม
เกิดปัญญา กล้าหาญล้ำ
ขันติธรรม ชนะมาร
มีสัจจะ อานุภาพศักดิ์สิทธิ์
มหาชน ทุกทิศ บูชา
ธรรมชาติสงบ เจิดจ้า
ข้าวปลา น้ำท่า อุดมสมบูรณ์
สุขสันติ มี ภายในตน
ปุถุชน คนทั้งหลาย ไม่รู้
เป็นเหยื่อตัณหา หลงกามาทุกผู้
โลก เป็นที่อยู่ ของผู้ประมาท

;;;;;;;;;;

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566

พึงศึกษา (แสวงหาความสงบ) พึงศึกษา..แสวงหา ความสงบ ปุถุชน หาพบ แต่ความสนุก ความเร้าใจ ไม่ใช่ความสุข เป็นสนุกและทุกข์ สุขแท้อยู่ภายใน

 พึงศึกษา
(แสวงหาความสงบ)


พึงศึกษา..แสวงหา ความสงบ 
ปุถุชน หาพบ แต่ความสนุก
ความเร้าใจ ไม่ใช่ความสุข
เป็นสนุกและทุกข์ สุขแท้ มีแต่อยู่ในตน

ใจสันโดษ สลดในโลกีย์
ฝึกสมาธิ ฝึกใจ ให้สันโดษ
เข้าสู่กระแสธรรม นำปราโมทย์
ใจใสสด สุขไม่ลดไม่ถอย
ใจสงบสันติ จึงมีสุข
สลัดตัวทุกข์ กิเลสตัณหา
เมื่อหมดอยาก สันติจึงมา
ทานศีลภาวนา จึงต้องมี
เป็นทาง แสวงบุญสร้างบารมี
ด้วยชีวิตนี้ เดินทางไกล
ตัวตาย แต่ตนไม่ตาย
ไปใช้ชีวิตใหม่ ในปรภพ
มีบุญกับบาป ไปพร้อมกับเรา
บุญเป็นอัตตาตัวเก่า มิตรแท้
หรือเราเป็นทารก บุญคือมารดาแม่
บาปนั้นแน่แท้ คือเวรกรรม
เมื่อใจสงบ จะได้พบพระรัตนตรัย
เป็นเครื่องหมาย อจินไตยนัก
ภายนอก สนุก มีกับดัก
สรรพสัตว์ ประมาทมาก เวรกรรม
ความสงบ ต้องศึกษา
ประมาทนักหนา ถ้าปล่อยไป
จะได้สติ นั่นหละ ตอนจะตาย
ทุกชาติไป จะตายจึงได้สติ

;;;;;;;;;;

วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566

สละ (หน้าที่ชีวิต) พึงเพิ่มพูล..ความสละ ลดตระหนี่ ตัณหาอุปาทาน บ่อเกิดปัญหาอุปสรรค ทั้งนั้น อดทนอดกลั้น ขันติ

 สละ
(หน้าที่ชีวิต)

พึงเพิ่มพูล ความสละ
ลดตระหนี่ ตัณหาอุปาทาน
บ่อเกิดปัญหาอุปสรรค ทั้งนั้น
อดทนอดกลั้น ขันติ

ประหยัดสุด ประโยน์สูง
มุ่ง บำเพ็ญทาน
แสวงบุญสร้างบารมี เป็นชีวัน
และทำพระนิพพาน ให้แจ้ง
กระแสโลก กระแสตัณหา
กระแสกิเลสะ กระแสบาป
 ปุถุชน คนทั้งหลาย ไม่ทราบ
เหมือนกับ ไก่กา มัวหากิน
เหมือนแมลงวัน บินลงต่ำ
ไม่เชื่อคำ แมลงภู่ ให้บินสู่สูง
สู่ยอดไม้ ดอกไม้หอม จรุง
แมลงวัน มุ่ง..ลงต่ำตามนิสัย
บารมี นิสัยดี
กิเลสนี้ นิสัยเสีย
โลกมีกิเลสตัณหา ลามเลีย
ปุถุชน นิสัยเสีย คนทั่วไป
แสวงบุญ สร้างบารมี
สร้างนิสัยดี หนีกิเลสตัณหา
สุดยาก จะพราก สภาวะ
เหมือนปลา ยาก จักขึ้นบก
กัลยาณมิตร อาทิตย์อุทัย
ศรัทธาท่านได้ ไม่ธรรมดา
พรหมจรรย์ ต้องมีท่าน นำหน้า
พารื้อ วัฏฏสงสาร

;;;;;;;;;;

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566

คราวคับขัน (ให้อดทนอดกลั้น ขันติ) กำลังใจรู้ได้ ในคราวคับขัน อดทนอดกลั้น ขันติ ทำดีเรื่อยไป ไม่สู้ไม่หนี แผ่เมตตาบารมี ทุกชีวีอยู่เย็น

 คราวคับขัน
(ให้อดทนอดกลั้น ขันติ)

กำลังใจรู้ได้ ในคราวคับขัน
มีความอดทนอดกลั้น ขันติ 
ทำดีเรื่อยไป ไม่สู้ไม่หนี 
แผ่เมตตาบารมี ให้ทุกชีวีอยู่เย็น

ขันติมีได้ ฝึกใจหยุดใจนิ่ง
โลกโลกีย์ทิ้ง ยิ่งในสันโดษสมถะ
หลับตาเปิดใจ ไม่ธรรมดา
หนีโลกียะ เข้ามา ทางธรรม

ทางธรรม ทางสายกลาง
ทานศีลภาวนา ไม่ห่าง ทางบุญ
ทางโลก ทางหาเงิน วายวุ่น
ลืมบุญ ลืมตน ลืมชีวิต
ประหยัดสุด ประโยชน์สูง
ชีวิตรุ่ง พุ่งเร็วแรง
บุญเป็นอัตตา พาวิ่งแซง
ประดุจม้าแข่ง ด้วยแรงบุญ
ประโยชน์สูง มุ่งบำเพ็ญทาน
ขจัดตระหนี่ ถอนรากมัน ตัณหา
ทำให้ชีวิต โง่เขลา เบาปัญญา
ไม่ลืมหูลืมตา พาเพลิน
หมดตระหนี่ มีใจนุ่มนวล
ทำงานม่วน ขยัน
มีสติปัญญา งานออกมา น่าอัศจรรย์
ชื่อเสียงลือลั่น สุขสันติ์ชีวิต
บำเพ็ญทาน ได้บุญ บำรุงใจ
เกิดปรากฎการณ์ยิ่งใหญ่ กล้าหาญ
ออกหน้า สละชีวา สู้ภัยพาล
อดทนอดกลั้น ขันติ ธรรมาวุธ

;;;;;;;;;;

วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ปุถุชน (คนเมาลาภยศ) ได้ยศแล้ว ไม่ควรเมายศ เสียหายหมด มียศแล้วเย่อหยิ่ง คุณความดี คือยศที่แท้จริง มีแล้วไม่หยิ่ง น่ารัก คนภักดี

ปุถุชน
(คนเมาลาภยศ)

ได้ยศแล้ว ไม่ควรเมายศ
เสียหายหมด มียศแล้วเย่อหยิ่ง
คุณความดี คือยศที่แท้จริง
มีแล้วไม่หยิ่ง น่ารัก คนภักดี

การมียศ ปรากฎนาม
เป็นคุณความดี ที่ปรากฎ
ยศ ที่ซื้อขายได้ น่าสลด
มีปรากฎ เป็นยศ ที่น่าอาย
มียศ แล้วเมายศ คนธรรมดา
กิเลสหนา ปุถุชน
เหมือนแมงป่อง ชูหางตน
เอ็งอ้าอวดคน หยิ่งยะโส

ลาภยศสรรเสริญ โลกียสุข
พาสนุก ลืมทุกข์ แต่ไม่พ้น
เหมือนเกาตุ่มคัน ของตน
ยิ่งเกายิ่งคันใหญ่ ไม่พ้น คัน

ลาภยศฯ คือเหยื่อล่อ
ไม่ไปต่อ ลุ่มหลง เหมือนจมปลัก
ดื้อดึง ดื้อด้าน ยิ่งนัก
มิจฉาทิฏฐิมาก หนักแผ่นดิน

ชีวิตตกต่ำ ถลำลึก
หาแต่บาป ไม่รู้สึก ไม่รู้สา
ใช้ยศอำนาจ สนองตัณหา
สมใจหมู่มารา ต้อนพา ไปอบาย

โลกโลกีย์ นี้อันตราย
แต่คนทั้งหลาย ไม่รู้สึก
พระกับมาร รอนราน กันคึก
ไม่รู้สึก ไม่รู้สา มัวหาลาภยศ

;;;;;;;;;;