วันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2566

เห็นอริยสัจ (ขจัดตัณหา) เห็นอริยสัจ ชัดแจ้งด้วยปัญญา หลับตา แล้วเห็นภายใน เห็นชัด สว่างใส สิ้นสงสัย ไม่เคลือบแคลง

 เห็นอริยสัจ
(ขจัดตัณหา)

เห็นอริยสัจ ชัดแจ้งด้วยปัญญา
หลับตา แล้วเห็นภายใน
เห็นชัด สว่างใส
สิ้นสงสัย ไม่เคลือบแคลง

เห็นทุกข์มาก สุขน้อยนิด
เกิดจิตเบื่อหน่าย คลายตัณหา
ใจสงบนิ่ง ดิ่งเข้ากลางกายา
เห็นมรรคา หรือมรรค ทางภายใน
ถอนตัณหาได้ ผู้นำไปสู่ภพ
จะประสพแต่สุข สมปราถนา
หนีเวียนว่าย พ้นภัยมารา
เป็นอิสระ พ้นกฎแห่งกรรม
ทางนี้เท่านั้น หนีมัน ตัณหา
ทางสันโดษสมถะ หยุดใจในตัว
หยุดใจได้ จึงรู้เห็นทั่ว
เห็นอริยสัจในตัว ชัดแจ้ง
เห็นกายในกาย ด้วยใจหยุด
หยุดในหยุด ไม่ถอนถอย
เห็นธรรมในธรรม เลิศลอย
สุขไม่ถอย ยิ่งไปยิ่งสุข
กระทั่งเข้าถึง พระธรรมกาย
ปราบมารได้ และไปพระนิพพาน
รู้จริงรู้แจ้ง ทุกสิ่งอัน
ไม่มีขีดกั้น อจินไตย
พ้นอำนาจ ของมาร
นิรันดร์กาล อมตะ
พ้นกิจ พ้นธุระ
เข้านิโรธสมาบัติ เพื่อหมู่สัตว์ แผ่บารมี

;;;;;;;;;;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น