จงประคองสติ
(หนีความเพลิน)
;;;;;;;;;
จงประคองสติ
(หนีความเพลิน)
;;;;;;;;;
แก้วสารพัดนึก
(ตรองตรึกก็สมปราถนา)
ปัญญา เป็นแสงสว่างในโลก
ขจัดทุกข์โศก ที่เป็นความมืดหนา
ทุกข์ห่างหาย เมื่อเกิดปัญญา
ช่างอัศจรรย์นักหนา พบพระรัตนตรัย
ปัญญาเกิด เพราะความประกอบ
มีสติรอบคอบ นิ่งแน่นอยู่ในตน
ห่างไกลตัณหา ที่มืดมน
ปีติล้น..ทะลัก สุดจักบรรยาย
สิ้นปัญญา เพราะไม่ประกอบ
ไม่เพียรชอบ รักษาสติ
ไม่ตรึกตรอง ประคองไว้ให้ดี
ไม่วิตกวิจาร มีสติ..สัมปชัญญะ
ความได้ปัญญา ให้สุขอุราเกิด
มีแสงบันเจิด เกิดพร้อม ความสุข
จิตเมตตา มาพร้อม จึงถูก
สัมมาสมาธิ ให้สุข อย่างแท้จริง
ปัญญา รัตนะของนรชน
คนทุกคน ต้องการแก้วสารพัดนึก
สมปราถนา เพียงตรองตรึก
อัศจรรย์พันลึก อจินไตย
ปัญญาเลิศ ประเสริฐกว่าทรัพย์
แต่คนพาลกลับ ดับปัญญา
เอาพิมเสน แลกเกลือ นั่นหละ
คนพาลเลือกตัณหา ไม่เอาบุญ
;;;;;;;;;;
สันโดษสมถะ
(ปัญญาเกิด)
สันโดษสมถะ หรือว่าวิตกวิจารณ์
หรือตรึกและตรองนั้น ก็อันเดียวกันนั่นเอง
หรือแม้กระทั่ง สติสัมปชัญญะ คนเก่ง
หรือยอมหยุดเย็น ขจัดนิวรณ์ตัวเป้ง ตัวปัญหา
อัศจรรย์นัก ใจจักเคลื่อน ต้องหยุดก่อน
ดับนิวรณ์ตัวร้าย ทำลายปัญญา
หรือขจัดกิเลสตัณหา อุปทาน นั่นหละ
หยุด ตรงข้ามกับอยาก ตัณหา อุปทาน
สันโดษ ความพอใจ ไม่กระหายอยาก
ตัณหาดับ ใจหยุด ที่สุดสมถะ
นักสร้างบารมี นี้คือยอดปราถนา
ใจตกศูนย์ สว่างจ้า ปัญญาเกิด
วิตกหรือตรึก คือแตะเบาๆ..ได้ ใจต้องสันโดษ
ไม่เกร็งไม่กด อดใจได้
หายใจโล่ง โปร่งสบาย
อิ่มเอิบใจ ลมหายใจยาว
ตรอง ประคองไว้ ชั่วครู่
พินิจดู รู้ทันอารมณ์
สุข หรือทุกข์ บรม
อารมณ์ทุกข์ จะถูกข่ม ถูกตัด
สติ คือระลึกนึกไว้ ในกายตน
อย่าสับสน คนกินเหล้า เมาขับรถได้
นั่นมันไร้สติ ไม่ระลึกไว้ในกาย
รวมทั้งคนทั้งหลาย ที่เพลิดเพลินไป ในอารมณ์
สัมปชัญญะ คือรู้สึกตัวดี มีทั้งรู้และเห็น
ใจเหมือนเช่น เหม่อๆ แต่ไม่เผลอไผล
ลูกนัยตาช้อนกลับ คล้ายนอนหลับ สบาย
ใจไม่หน่าย ผ่อนคลาย หายปวดเมื่อย
;;;;;;;;;;